สำนักงานกกต. 29 พ.ย.-สมชัยระบุต้องแก้ไขกฎหมายอีกหลายเร่ื่อง มากกว่าที่กฤษฎีกาหารือ ชี้มีหลายส่วนไม่สอดคล้องกับกม.เลือกตั้งและรธน.
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึงกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมายและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นตรงกันว่าควรแก้ไขกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นทั้ง 6 ฉบับ พร้อมเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในสิ้นเดือนธันวาคม และจะส่งสภานิติบัญญติแห่งชาติ(สนช.) ต้นปีหน้า และคาดว่าจะเลือกตั้งท้องถิ่นได้ก่อนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎณ(ส.ส.) ตามดำริของนายกรัฐมนตรี โดยเห็นว่า จากที่ดูร่างฯแก้ไข พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นที่กฤษฎีกาแก้ไขและส่งมาให้กกต.พิจารณา ให้ความเห็น ซึ่งแก้ไขเพียง3 มาตรา เป็นการแก้เรื่องคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและผู้สมัครเลือกตั้งให้เข้มงวดขึ้นตามรัฐธรรมนูญใหม่ แต่ประเด็นอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องแก้ไข เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.) ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) และกฎหมายเลือกตั้งส.ส.ยังไม่แก้ไข
นายสมชัย กล่าวว่า มีหลายส่วนที่ต้องแก้ไข ประกอบด้วย 1.คำว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดยังคงปรากฏทั่วไปในกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น ทั้ง ๆ ที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยกกต.โละกกต.จังหวัดทิ้งไปแล้ว 2. กลไกผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดที่จะมาแทนที่ กกต.จังหวัดจะเอาหรือไม่ ต้องเขียนให้ชัด ไม่ใช่มาบอกเฉย ๆ แบบนายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานกรธ.ระบุ ว่ากกต.สามารถใช้กลไก ผู้ตรวจการเลือกตั้งจังหวัดมาสนับสนุนการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นได้ ซึ่งถ้าจะให้มีก็ต้องเขียนในกฎหมาย 3. รูปแบบการหาเสียง จะเลือกแบบที่ใช้ในการหาเสียงในพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ออกแบบใหม่เพื่อควบคุมการการหาเสียงให้เป็นระเบียบ ใช้ทุนผู้สมัครน้อยหรือจะปล่อยให้หาเสียงเละเทะแบบเดิม และ4. แก้ไขปัญหาการเอาเปรียบในการเลือกตั้งของผู้ดำรงตำแหน่งก่อนหน้าแล้วหรือไม่ โดยเฉพาะกรณีใช้อำนาจหน้าที่ งบประมาณเพื่อให้เกิดความได้เปรียบโดยอาศัยช่องว่างของกฎหมายต่าง ๆ
“เช่นการห้ามใช้งบประมาณหาเสียงสองเดือนก่อนครบวาระ พี่แกเลยชิงลาออกก่อนหนึ่งหรือสองวันก่อนครบวาระ ทำให้กฎหมาย ไม่สามารถเอื้อมมือไปเอาผิดได้” และยังไม่นับประเด็นอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น เวลาเลือกตั้งแบบส.ส.ปรับถึงเวลา16.00 น. หรือจะเอาแค่15.00 น.ตามกฎหมายเดิม การจะเปิดโอกาสให้ลงคะแนนด้วยวิธีอื่นให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่หรือการกำหนดโทษ จะต้องดูไม่ให้เกิดความลักลั่นกับกฎหมายเลือกตั้งส.ส. หากประมาณด้วยสายตาแล้วน่าจะมีประเด็นที่ต้องถกกันเพื่อแก้ไขไม่ต่ำกว่า 50 มาตรา จะรีบแก้ให้เสร็จก็สมควรแก้ให้ดี อย่าให้เหมือนสุภาษิตไทยที่ว่าทำแค่แก้ผ้าเอาหน้ารอด” นายสมชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย
