จ.ปัตตานี 27 พ.ย.- นายกรัฐมนตรีไม่พอใจพัฒนาพื้นที่ใต้ 3 ปีล่าช้า เร่งทุกหน่วยขับเคลื่อนงานให้เร็วขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พร้อมคณะเดินทางมาถึงพื้นที่เกษตรอุตสาหกรรมแปรรูปโรงงานน้ำมันปาล์ม ที่บริษัทปาล์มพัฒนาชายแดนใต้ จำกัด ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นจุดที่ 2 ในการลงพื้นที่จ.ปัตตานี ก่อนที่จะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการที่จ.สงขลาในวันพรุ่งนี้ (28พ.ย.)
นายกรัฐมนตรีรับฟังบรรยายสรุปจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.) เกี่ยวกับความก้าวหน้าพื้นที่การลงทุนเกษตรอุตสาหกรรมของภาคเอกชนตามโครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน รวมถึงแผนการทำงานในปี 2561 อาทิ การผลักดันอำเภอเบตง จ.ยะลา ให้เป็นเขตการค้าพิเศษเบตง การพัฒนาระบบขนส่งเชื่อมโยงสู่เมืองอื่น ๆ ได้แก่ การพัฒนาท่าเรือขนส่งขนาดใหญ่ยกระดับสถานีรถไฟโคกโพธิ์เป็นสถานีชุมทางจังหวัดชายแดนใต้และการผลักดันสนามบินบ่อทองไปสู่เชิงพาณิชย์ เร่งรัดการก่อสร้างสถานีขนส่งและศูนย์กระจายสินค้าสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินชมนิทรรศการและผลงานวิจัยเกษตรแปรรูปของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เช่น โครงการหนองจิกพัฒนา เป็นโครงการพัฒนาจังหวัดชายแดนใต้ภายใต้ศาสตร์พระราชาที่บริษัทเอกชนร่วมกันนำมะพร้าวซึ่งเป็นพืชยืนต้นตระกูลปาล์มมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวหลายชนิด ประกอบด้วย กะทิกระป๋อง กะทิกล่อง(UHT) น้ำมันมะพร้าว มะพร้าวอบแห้ง เป็นต้น
นอกจากนี้ หน่วยงานภาครัฐ อาทิ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) จะรายงานผลการดำเนินงาน และมาตรการของ ธอส.ที่ต้องการสร้างโอกาสให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยในพื้นที่ โดยจัดทำโครงการสำหรับประชาชนทั่วไปที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดชายแดนใต้ คือ จ.ยะลา จ.นราธิวาสและจ.ปัตตานี ภายใต้กรอบวงเงินสินเชื่อ 4,700 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ (กรอบวงเงิน 1,000 ล้านบาท) 2. โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้(กรอบวงเงิน 2,500 ล้านบาท) 3. โครงการบ้าน ธอส.เพื่อสานรักในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ (กรอบวงเงิน 1,000 ล้านบาท) 4.โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดใช้แดนใต้ประเภทแฟลตให้เช่า ( กรอบวงเงิน 200 ล้านบาท) และ5. โครงการสินเชื่อสำหรับพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ทรัพย์สินรอการขาย NPA
นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างชมนิทรรศการ ว่า หลายอย่างในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีความคืบหน้าล่าช้าเกินไป ซึ่งเกิดจากการบริหารจัดการ การทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงาน ดังนั้น จากนี้ไปขอให้ทุกฝ่ายเร่งรัดให้งานทุกอย่างคืบหน้า โดยต้องกระจายการพัฒนาทั้งหมดไปถึงประชาชน เช่น การพัฒนาปศุสัตว์ ต้องจัดหาพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ที่มีคุณภาพให้ประชาชน และให้หน่วยงานราชการวางแผนร่วมกับเกษตร กำหนดพื้นที่การเพาะปลูกให้เหมาะสม ลดการนำเข้า และสินค้าต้องไม่ล้นตลาด
ระหว่างการเยี่ยมชมบูธของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ได้รายงานต่อนายกรัฐมนตรีว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) นอกสถานที่อย่างเป็นทางการที่จ.สงขลา วันพรุ่งนี้ (28 พ.ย.) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศเตรียมเสนอมาตรการช่วยเหลือพี่น้องมุสลิมที่มีรายได้น้อย เช่น สินเชื่อฉุกเฉินเพื่อพี่น้องมุสลิม วงเงินไม่เกิน 50,000 บาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 0.8% ต่อเดือน ระยะเวลาสูงสุด 5 ปี และมาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทุกระดับ โดยย้ำว่าการช่วยเหลือต้องมีประสิทธิภาพและเหมาะสม ไม่ใช่ช่วยเหลือแล้วสูญเปล่า แต่ต้องช่วยแล้วสามารถสร้างความเข้มแข็งให้ประชาชนด้วย จากนั้นเจ้าหน้าที่ธนาคารได้มอบเสื้อปาเต๊ะให้นายกรัฐมนตรีเป็นที่ระลึก ซึ่งนายกรัฐมนตรีถามติดตลกว่าใส่แล้วจะหนุ่มขึ้นไหม
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลคิด รัฐบาลรู้ รัฐบาลพูด แต่ถ้าไม่ร่วมมือกันก็ไปไม่ได้ ถ้าหวังรับจากรัฐอย่างเดียวเป็นไปไม่ได้ แต่ต้องรวมกลุ่มกัน พร้อมกล่าวติดตลกด้วยว่า ทุกวันนี้แก้ปัญหายางพาราอยู่ ถ้ากินได้กินไปแล้ว และก่อนเดินทางออกจาก บริษัท ปาล์มพัฒนาชายแดนใต้ จำกัด นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอโทษเจ้าหน้าที่ที่พูดเสียงดังไปบ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการรับฟังบรรยายจากเจ้าหน้าที่ตามบูทนิทรรศการ นายกรัฐมนตรีอารมณ์ไม่ค่อยดี โดยขณะเดินชมนิทรรศการและงานวิจัยสินค้าเกษตรอุตสาหกรรมแปรรูปของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน โดยสอบถามรายละเอียดแผนงานกับเจ้าหน้าที่ด้วยถามเสียงเข้ม ดุดัน พร้อมเรียกหน่วยงานที่รับผิดชอบ เช่น นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจให้มาพูดคุยกับผู้ประกอบการโดยตรงด้วย.- สำนักข่าวไทย
