“จุรินทร์” ให้ฉายา “รัฐบาลหนูตกถังข้าวสาร” ฝากคาถา 5 ข้อ

รัฐสภา 28 ก.ย.-“จุรินทร์” ให้ฉายา “รัฐบาลหนูตกถังข้าวสาร” เป็นรัฐบาลแต้มต่อ เพราะเข้ามาบริหารก็มีเงินมากอง ไม่ต้องออกแรง มีนโยบายสำเร็จรูป โดยผู้มีอำนาจเหนือรัฐธรรมนูญ คือ MOA ชม ครม.คนนอก ถูกฝาถูกตัว โดยเฉพาะ “สีหศักดิ์” แจงเวทียูเอ็น ทำ “อนุทิน” พลอยได้หน้า เสียดายบ่งตำแหน่งชักใบให้เรือเสีย บอก นายกฯ นายแน่มาก กล้าตั้ง รมต. คนรัฐบาลก่อนไม่กล้าตั้ง พร้อมฝากคาถา 5 ข้อเตือนสติ อย่าลุแก่อำนาจห้ามแซกแทรงกระบวนการยุติธรรม


นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายนโยบายรัฐบาลว่า ต้องแสดงความยินดีกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายอนุทิน ชาญวีรกูล และนโยบาย Quick win เป็นนโยบายแรกที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังไม่แถลง โดยขอถือโอกาสนี้แสดงความยินดีกับ ครม. ทุกคนที่ได้รับโปรดเกล้าฯ ซึ่งจากนี้ตนและพรรคประชาธิปัตย์ จะขอทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันจะไม่ตามทุกเรื่อง จะว่าไปตามเนื้อผ้า ไม่มีอคติ ไม่มีบุญคุณความแค้นใดๆ และพร้อมที่จะทำหน้าที่ร่วมกับพรรคฝ่ายค้านทุกพรรค เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบนโยบายและการบริหารราชการแผ่นดิน

ซึ่งถ้าดูนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ จะพบว่า มี 7 หน้า 5 หมวด โดยทำนโยบายแบบมหาสมุทร แทนที่จะเจาะจง เพราะเป็นรัฐบาลเฉพาะกิจ เข้าใจว่า นายกฯ ต้องการวางรากฐานสำหรับอนาคต และที่ตนสรุปเป็นพิเศษ คือ นโยบายหาเสียงก่อนการเลือกตั้งที่ผ่านมา ล่องหนหายตัว ไม่มีปรากฏอยู่ในรัฐบาลชุดนี้ หลายนโยบาย มีคำตัดพ้อของรัฐบาลที่ปรากฏชัดเจนในหน้าที่ 2 ที่ระบุว่า รัฐบาลชุดนี้มีข้อจำกัด 3 ข้อ 1.เวลาจำกัด 2.ไม่ได้จัดทำงบประมาณด้วย และ 3.เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยหรือรัฐบาลเป็ดง่อย


ทั้งนี้ เชื่อว่า ประชาชนทราบดี ว่า เกิดจากการเมืองภาคพิสดาร รัฐบาลจะโทษใครไม่ได้ เพราะรัฐบาลเป็นคนเลือกเอง และเลือกทางเดินนี้ด้วยความเต็มใจ ซึ่งนายกฯ เป็นธุรกิจ คงบวกลบคูณหารเรียบร้อยแล้ว และคิดว่าคุ้ม ที่จะแลกตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลกับข้อจำกัด 3 ข้อ อีกทั้งคุ้มที่จะเป็นรัฐบาลต่างตอบแทน ฝ่ายหนึ่งได้ตำแหน่งนายกฯ และได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล อีกฝ่ายหนึ่งได้ยุบสภา ได้แก้รัฐธรรมนูญ ถ้าจะบอกว่าเวลาเป็นข้อจำกัด ก็อาจจะใช่ แต่อาจจะไม่ใช่ ก็พูดได้ เพราะรัฐบาลชุดนี้ไม่ได้อยู่แค่ 4 เดือน แต่อาจจะอยู่ 8-9 เดือน ถ้ายุบสภาตามสัญญาที่นายนายกฯ พูด ปลายเดือนมกราคม ก็กินเวลาเป็น 4 เดือนกว่าแล้ว รวมกับเวลาช่วงหาเสียงและประกาศผลเลือกตั้ง จนถึงถวายสัตย์ปฏิญาณและรัฐบาล จึงจะพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่ารัฐบาลชุดที่แล้วแค่เดือนกว่า เพราะรัฐบาลชุดที่แล้วอยู่ 10 เดือนครึ่ง

นายจุรินทร์ ยังระบุอีกว่า รัฐบาลชุดนี้มีแต้มต่อมากกว่ามีข้อจำกัดอย่างน้อยมี 4 ข้อ

  1. มีการโหวตเลือกนายกโดยไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรี ทำให้ นายกฯ กลายเป็นหนูตกถังข้าวสาร มีเก้าอี้รัฐมนตรีมาแบ่งปัน กันเหลือเฟือที่สุดในประวัติศาสตร์ของระบบรัฐสภา
  2. เมื่อรัฐบาลชุดนี้ เข้าบริหาร ก็มีเงินมากองไว้ทันที เพราะมีงบเหลือจ่าย ปี 68 รออยู่แล้ว 60,000 ล้านบาท ส่วนงบปี 69 จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะงบฉุกเฉิน 9.8 หมื่นล้านบาท ที่รอใช้วันที่ 1 ตุลาคม
  3. มีนโยบายสำเร็จรูปเตรียมไว้ให้แล้ว โดยผู้มีอำนาจเหนือรัฐธรรมนูญ หรือ MOA ที่คิดไว้ให้เสร็จสรรพว่า ต้องทำอะไรบ้าง และสามารถนำไปปฏิบัติได้ทันที
  4. เหลือให้คิดเอง 3 เรื่อง คือ นโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภา การจัดคณะรัฐมนตรี และการทำนโยบายให้สำเร็จ

ส่วน MOA ที่ประชาชนบ่นน้อยใจว่าไม่ได้มีมีปัญหาของประชาชนอยู่ในสมการ พอเข้าใจได้ ช่วงนั้นต้องแย่งชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นายกฯ อาจจะหลงลืม สุดท้ายไม่ยอมรับ เพราะ MOA เป็นแค่ตกลงระหว่างพรรคการเมือง ไม่มีผลผูกพันต่อรัฐสภา ถ้าไม่นำมาบรรจุไว้นโยบาย


นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงการจัด ครม. ที่แบ่งเป็นคนในและคนนอก ขอชมด้วยความจริงใจ หลายตำแหน่งนายกฯ จัดได้ดี ถูกฝาถูกตัว แต่น่าเสียดาย มีบางตำแหน่งกลายเป็นชักใบให้เรือเสีย ทำให้ ครม. ชุดนี้ กระดำกระด่าง เชื่อว่า นายกฯ คงรู้อยู่แกใจ ดูได้จากที่นายกฯ นำคนนอกมาเปิดตัวด้วยตัวเอง

สำหรับบางตำแหน่งนายกฯ ไม่กล้าเอามาเปิดตัว เหมือนจะทำลับๆล่อๆให้วิพากษ์วิจารณ์ แต่สุดท้ายหวยล็อกก็ออก แต่สำหรับคนใน เข้าใจได้ เพราะตนเคยเป็นรัฐบาลและฝ่ายค้าน เข้าใจเรื่องโควตา

“พรรคการเมือง ตนไม่มีอะไรวิจารณ์ แต่ขอชมนายกฯ ว่า นายแน่มาก ที่กล้าตั้งรัฐมนตรี ที่แม้แต่รัฐบาลชุดที่แล้ว ก็ไม่กล้าตั้ง เพราะไม่อยากเสี่ยงตามรอยนายกเศรษฐา เมื่อตั้งแล้ว ท่านก็ต้องรับผิดชอบแล้วก็ขอให้ ครม.ชุดนี้ ปฏิบัติภารกิจให้ดีที่สุด” นายจุรินทร์ กล่าว

นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงการตั้ง โจทย์ประเทศของรัฐบาลชุดนี้ มี 4 ภัย คือ ภัยเศรษฐกิจ ภัยความมั่นคง ภัยสังคม และภัยพิบัติธรรมชาติ แต่ตนมองว่า ยังไม่ครบ ยังมีภัยที่สำคัญอีกอย่าง คือ ภัยทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งเป็นต้นตอของปัญหา

นายจุรินทร์ กล่าวถึง การแก้ไขรัฐธรรมนูญและการทำประชามติ ตนเชื่อว่า หลายคนบ่นว่านโยบายนี้ มาผิดที่ผิดเวลา ประชาชนวิจารณ์ว่าอยากเห็นการแก้ปากท้องมากกว่าการแก้รัฐธรรมนูญ เพราะบทเฉพาะกาลที่เป็นปัญหาใหญ่ของรัฐธรรมนูญ 2560 ผ่านไปแล้ว ซึ่งปัญหาที่เหลือสามารถแก้รายมาตราได้ แต่เมื่อรัฐบาลแลกตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายกฯ ก็ต้องรับผิดชอบ โดยตนขอตั้งคำถาม 2 ข้อ ดังนี้

  1. การแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับต้องไม่แตะหมวดหนึ่งหมวดสอง แต่หากมีร่างฉบับใดเสนอเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา และไม่กำหนดเงื่อนไขดังกล่าว รัฐบาลชุดนี้จะยกมือให้หรือไม่
  2. หากการแก้รัฐธรรมนูญ ไปแก้มาตรา 160 (4) (5) เรื่องคุณสมบัติของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐ ศาล และองค์กรอิสระ ที่ระบุว่าต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และต้องไม่มีพฤติกรรม ฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง นายกฯ จะสนับสนุนให้มีการแก้ต่อไปหรือไม่

ส่วนการแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา นายจุรินทร์ ถามว่า ที่ คำแถลงนโยบายของรัฐบาลเขียนไว้ว่า พื้นที่ของเราตามเส้นเขตแดนที่เป็นสากลที่ถูกครอบครอง จะยึดคืนมาให้หมดด้วยใช่หรือไม่ เพราะไม่ใช่แค่รักษาไว้ แต่อะไรที่สูญเสียไป รัฐบาลมีนโยบายจะเอาคืนกลับคืนมาด้วยใช่หรือไม่

ขณะเดียวกัน สิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ใช้นโยบายการทหาร นำเศรษฐกิจ-การทูต เชื่อว่า รัฐบาลฝ่ายค้านและประชาชน ชื่นชมให้กำลังใจกองทัพ และผู้เสียสละในแนวหน้าทุกคน เชื่อว่าทุกคนเห็นด้วยกับการปิดด่าน จนกว่าเขมรจะหมดจากความเป็นไทย พร้อมชื่นชม ด้านการทูตที่เมื่อวานนี้ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงที่เวที UNGA ทำหน้าที่ได้ดีอย่างยิ่งทำให้นายกฯ พลอยได้หน้าไปด้วย

ส่วนเรื่องบ่อนของกัมพูชาที่สร้างล้ำเขตแดนไทยเข้ามา จะจัดการอย่างไร เพราะในคำแถลงนโยบาย เขียนไว้ชัดเจนว่าจะจัดการกับ บอลผิดกฎหมายให้สิ้นซาก รวมถึงเรื่องการยกเลิก MOU จัดทำเมื่อไหร่ กี่โมง ทำพร้อมกันกับประชามติแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่

นายจุรินทร์ยังฝากถึงสินค้าเกษตรห้าชนิด ข้าวมันที่ราคาตกต่ำ ข้าว ปาล์ม ยางพารา มัน ข้าวโพด และผลไม้ ซึ่งปีนี้ถือว่าราคาข้าวตกต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี เพราะการส่งออกมีปัญหาจากค่าเงินบาทแข็ง อีกทั้งอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และจีน ซื้อข้าวน้อยลง และปีหน้าตลาดญี่ปุ่นต้องซื้อข้าวจากสหรัฐเพิ่ม 45% กรณีภาษีทรัมป์ ทำให้โควตาส่งออกเข้าไปญี่ปุ่นน้อยลง ดังนั้น จึงอยากถามว่ารัฐบาลมีนโยบายอย่างไรที่จะช่วยโรงสีระบายข้าว หรือจะนำนโยบายประกันราคาสินค้าเกษตรของตนมาใช้ก็ไม่ติด

นายจุรินทร์ ไม่ขอท้วงติงนโยบายคนละครึ่ง เพราะสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ ที่คนไทยกำลังหายใจรวยริน ขาดกำลังซื้อ ขอให้รัฐบาลรีบทำ พร้อมชมรัฐบาลว่าคิดแยบยลมากกับนโยบายนี้ เพราะแบ่งเป็นสองเฟส เฟสแรก ตุลาคม-พฤศจิกายน เฟส 2 ธันวาคม-มกราคม ซึ่ง เป็นช่วงยุบสภาและเลือกตั้ง

ส่วนที่รัฐบาลจะรักษาหลักนิติธรรมอย่างเคร่งครัดซึ่งมีการระบุว่า เจ้าพนักงานคนไหน ใช้กฎหมายหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยประโยชน์ทางการเมือง ถือว่าผิดวินัยร้ายแรง และต้องถูกดำเนินคดีอาญาแปลว่า ใครที่ไปช่วยหาเสียง เพื่อประโยชน์ทางการเมืองกันแกล้งใฝ่ตรงข้ามรัฐบาลนี้จะจัดการโดยเด็ดขาด นอกจากผิดวินัยต้องดำเนินคดีทางอาญา มองว่า เป็นนโยบายที่ดีไม่มีการท้วงติงแต่อยู่ที่ภาคปฏิบัติ อย่างน้อยนโยบายนี้ต้องกรมราชทัณฑ์ไว้ได้ว่า อย่าเอื้อนักการเมืองคนใดให้ปฏิบัติไปตามกฎกติกาโดยเคร่งครัด และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ที่ทำอยู่ 2-3 คดี ไม่ต้องเอ่ยว่า เป็นคดีใด เพราะรู้กันทั้งประเทศ ถ้ายังเดินหน้าทำนโยบายต่อและถ้ายังมีนโยบายนี้จะเข้าข่ายทำผิดตามนโยบายหรือไม่ ซึ่งเป็นข้อกังวลอยู่

ในช่วงท้าย ขอฝากคาถา 5 ข้อ คือ

  1. ขอให้รัฐบาลละลึกถึงคำถวายสัตย์ปฏิญาณไว้เสมอ ไม่โกงเพราะจะมีอันเป็นไป ทวนเป็นอาวุธมีไว้รบกับเขมรไม่ใช่มีไว้ทิ้งก่อนยุบสภา
  2. อย่าใช้ระบบเล่นพรรคเล่นพวก เหมือนบางยุคบางสมัยที่ผ่านมาในการโยกย้ายแต่งตั้งข้าราชการ เพราะนอกจากจะทำให้คนดีหมดกำลังใจอย่างเป็นการทำลายอนาคตของประเทศ
  3. อย่าเลือกปฏิบัติ ไม่ใช่พูดเพราะรัฐบาลจะทำแบบนั้นแต่อยากฝากไว้ในฐานะผู้แทนราษฎร อย่าเลือกพัฒนาเฉพาะพื้นที่ที่เลือกเรา เพราะพื้นที่ไหนที่ไม่เลือกเราเป็นคนไทยเช่นเดียวกัน เชื่อว่านายกรัฐมนตรีเป็นผู้แทนมาหลายสมัยเข้าใจดี
  4. อย่าลุแก่อำนาจ ซ้ำรอยอดีตเพราะเราเคยเห็นมาแล้วทั้งอำนาจบริหารอำนาจนิติบัญญัติและผู้แทนราษฎรรวมถึงวุฒิสภาและองค์กรอิสระหากเผลอตัวเมื่อไหร่จบไม่สวย
  5. อย่าแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม นอกจากจะทำร้ายระบบนิติรัฐแล้ว ยังเป็นของแสลงสำหรับรัฐบาลชุดนี้เป็นเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งหากทำได้ตนเชื่อว่าท่านจะกลับมา ส่วนจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการบริหารราชการแผ่นดิน และพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ.-312 -สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

ฝนตกน้ำกัดเซาะตลิ่ง บ้านพังลอยน้ำแม่ยวม

29 ก.ย. – น้ำกัดเซาะตลิ่งใน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน บ้านทั้งหลังพังลงน้ำ ส่วนที่สระแก้ว น้ำป่าทะลักช่วงกลางดึก พื้นที่บ้านคลองบุหรี่เสียหายกว่า 20 หลัง ผู้ใหญ่บ้านนำรถไถช่วยอพยพชาวบ้านหนีน้ำ สถานการณ์น้ำป่าหลากและไหลเชี่ยวในพื้นที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน กัดเซาะตลิ่งเป็นแนวยาว ส่งผลให้บ้านเรือนติดริมน้ำยวม บ้านห้วยสิงห์ หมู่ 4 ตำบลแม่ยวม ทรุดตัวพังลงน้ำ 1 หลัง เจ้าของบ้านหนีออกมาได้ทัน โดยมีผู้นำท้องที่ เทศบาลตำบลแม่ยวม และชาวบ้านช่วยกันเร่งขนย้ายสิ่งของออกจากบ้านได้ทัน ขณะที่เส้นทางสู่ชายแดนบ้านเสาหิน ต.เสาหิน มีฝนตกหนัก ส่งผลทำให้น้ำในลำห้วยไหลหลากและมวลน้ำเพิ่มระดับสูงขึ้นเป็นระยะ โดยเฉพาะน้ำแม่แงะ บริเวณท่าน้ำแม่เจ การสัญจรเส้นทางต้องใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ ชาวบ้านต้องใช้เชือกผูกตัวรถ เพื่อช่วยดึงรถขึ้นฝั่ง เนื่องจากน้ำสูงไหลเชี่ยวมาก เกรงพัดรถลอยหาย เร่งช่วยชาวบ้านสระแก้วถูกน้ำซัดปลอดภัย ช่วงกลางดึก เกิดน้ำป่าหลากเข้าท่วมหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบ้านคลองบุหรี่ ม.6 ต.หนองบอน อ.เมือง จ.สระแก้ว ส่วนพื้นที่ตำบลบ้านแกร้ง เขาสิงโต มีชาวบ้านถูกน้ำป่าซัดหาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยค้นหา เร่งดึงร่างขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ บ้านคลองบุหรี่ […]

เตรียมถมดินอุดหลุมยักษ์ได้พรุ่งนี้ คาดเปิดถนนได้ 9 ต.ค.

กรุงเทพฯ 29 ก.ย. – วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ คาดพรุ่งนี้เริ่มถมดินอุดหลุมยักษ์ได้ ระบุ 6 วันที่ผ่านมามีทิศทางดี คาดก่อนเปิดถนน 9 ต.ค. ใช้รถบรรทุกวิ่งทดสอบ สร้างความมั่นใจก่อนเปิดใช้จริง ความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหลุมยุบขนาดใหญ่บริเวณหน้า รพ.วชิรพยาบาล ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ เริ่มเคลื่อนย้ายท่อเหล็กขนาดใหญ่ เพื่อวันพรุ่งนี้เตรียมจะถมดินลงไปในหลุม บริเวณสถานีตำรวจนครบาลสามเสน ซึ่งเป็นจุดที่ต้องให้ระดับพื้นดินเท่ากันและมั่นคง ทีมวิศวกรจะใช้รถแม็คโครขนาดเล็กดำเนินการขุดและตรวจสอบใต้ท้องอาคาร พร้อมอาจมีการเสริมโครงสร้างชั่วคราวในช่องว่างใต้ฐานราก เพื่อรักษาเสถียรภาพของอาคารไว้ สำหรับการเปิดพื้นผิวจราจร คาดว่าจะสามารถเปิดพื้นถนนได้ในวันที่ 8 ตุลาคม และเปิดให้รถสัญจรได้ในวันที่ 9 ตุลาคม โดยก่อนเปิดใช้เส้นทางอย่างเป็นทางการ ทางสภาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะมีการทดสอบความแข็งแรงของพื้นผิวถนนก่อนเปิดใช้งาน เพื่อความมั่นใจของพี่น้องประชาชน โดยเตรียมใช้รถบรรทุกวิ่งผ่าน เพื่อประเมินความแข็งแรง หรือให้เจ้าหน้าที่ทดลองขับรถผ่านก่อน อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นเดือนตุลาคม หากการซ่อมแซมเป็นไปตามแผนก็มีความเป็นไปได้สูงที่ประชาชนจะสามารถกลับเข้าพักอาศัยในอาคารใกล้เคียงได้อีกครั้ง ทั้งนี้ต้องผ่านการประเมินสภาพโครงสร้างอย่างละเอียดก่อน. -415-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” นำทีม ครม.แถลงนโยบายรัฐบาล 30 นาที

รัฐสภา 29 ก.ย.-“อนุทิน” นำทีม ครม.แถลงนโยบายรัฐบาล 30 นาที ยันมุ่งมั่นบริหารราชการแผ่นดิน ขับเคลื่อนนโยบาย แก้ปัญหาเฉพาะหน้า-วางรากฐานนำพาประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า พร้อมชูโครงการ “คนละครึ่ง” ลดรายจ่าย เร่งดับไฟสงครามไทย-กัมพูชา ประกาศชัดล้มกาสิโนถูก กม .ยึดหลักซื่อสัตย์-ผลประโยชน์ประเทศ การประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1) เป็นพิเศษ มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประะานรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม เพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย นำทีมครม.เข้าแถลงนโยบายรัฐบาลอย่างพร้อมเพรียง ระบุว่า ครม.ขอแถลงหลักการบริหารราชการแผ่นดิน และนโยบายสำคัญของรัฐบาล จะยึดหลักสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1.พิทักษ์รักษาไว้สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 2.ยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 3.ยึดมั่นหลักนิติธรรม บังคับใช้กฎหมายเป็นธรรม บริหารราชการแผ่นดินบนพื้นฐานธรรมาภิบาล นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลเข้าบริหารราชการภายใต้สถานการณ์ที่ประเทศไทยเผชิญความไม่แน่นอนรอบด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง […]

“สีหศักดิ์” รับเป็นเรื่องดีไทยได้แจงบนเวที UNGA

รัฐสภา 29ก.ย.-“สีหศักดิ์” รับเป็นเรื่องดีไทยได้แจงบนเวที UNGA เหตุกัมพูชาพูดตรงข้ามกับสิ่งที่ตกลง เชื่อนานาประเทศเข้าใจไทยมากขึ้น ย้ำไทยเดินบนเส้นทางสันติภาพ ยันไม่ปิดประตูคุยกัมพูชา เชื่อจบในเวทีทวิภาคี นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ หรือ UNGA ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ว่า เป็นเรื่องที่ดีที่ได้แสดงท่าทีของประเทศไทย และดีใจที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งทุกอย่างทำตามหน้าที่ และจากการพูดคุยก่อนแถลงในที่ประชุม ทั้งมาเลเซีย และสหรัฐอเมริกาอยากให้ไทยและกัมพูชา สามารถพูดคุยกันได้ ซึ่งได้ชี้แจงท่าทีของไทยไปแล้ว และนานาประเทศเข้าใจประเทศไทยมากขึ้น ที่ผ่านมากัมพูชาได้เสนอข้อมูลฝ่ายเดียว พยายามสร้างความได้เปรียบ ทั้งที่ได้พูดคุยกันแล้วว่า จะมองไปข้างหน้า สิ่งที่ได้ตกลงกันซึ่งควรแสดงความจริงใจ สิ่งที่กัมพูชาขึ้นไปกล่าวถ้อยแถลงนั้นตรงข้ามกับสิ่งที่พูดคุยกัน จึงจำเป็นต้องชี้แจงข้อเท็จจริง นายสีหศักดิ์ ยังกล่าวถึงเสียงตอบรับจากนานาประเทศ ว่า ได้พูดตามข้อเท็จจริง ซึ่งก็น่าจะเข้าใจ ส่วนสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา หลังจากนี้เป็นอย่างไร นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ขอคุยกับนายกรัฐมนตรีก่อน พร้อมยอมรับว่ามีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และภายหลังลงจากเวที UNGA ยังไม่ได้พูดคุยกับกัมพูชา แต่ก็พร้อมที่จะพูดคุย และต้องทำตามในสิ่งที่ตกลง ต้องมีความจริงใจ […]