“นิกรเดช” กร้าว! ไทยถูกโจมตีก่อน “เขมร” ละเมิดศีลธรรมขั้นพื้นฐาน

กระทรวงการต่างประเทศ 25 ก.ค.- “ไทย” สวน “กัมพูชา” กล่าวหาสร้างความเสียหายปราสาทเขาพระวิหาร ยันเป็นไปไม่ได้ บอกห่างตั้ง 2 กม. เตรียมทำหนังสือชี้แจงอย่างเป็นทางการ “นิกรเดช” กร้าว! เราถูกโจมตีก่อน “เขมร” ละเมิดศีลธรรมขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ เชื่อทำหนังสือด่วน เหตุต้องการฟ้อง UNSC เย้ย เป็นความจริงหรือไม่ต้องติดตาม แต่ของไทยเป็นของจริง


นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงพัฒนาการสถานการณ์ไทย – กัมพูชา โดยระบุว่า ตั้งแต่เกิดการเปิดฉากโจมตีของกัมพูชาตั้งแต่เมื่อวาน 24 ก.ค. การปะทะยังเกิดต่อเนื่อง ซึ่งฝ่ายกัมพูชายังเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อน ซึ่งสถานการณ์ในพื้นที่อย่างทรงตัว กองทัพเราเริ่มเก็บกู้วัตถุระเบิดที่ตกค้างโดยเฉพาะในพื้นที่ที่สำคัญ เช่น ที่ปั๊มน้ำมันในอำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของประชาชน และเพื่อรักษาความปลอดภัยของพื้นที่ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญมาตลอด

เมื่อวานนี้ (24 ก.ค. 68) กระทรวงการต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์ประณามกัมพูชาและขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการปะทะ ที่เริ่มโดยฝ่ายกัมพูชา ชีวิตทหารไทยและพลเรือนที่บริสุทธิ์ที่เสียชีวิตลง รวมถึงทรัพย์สินของประชาชนที่ได้รับความเสียหาย เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นและไม่อาจยอมรับได้


ตนขอย้ำอีกครั้งว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน กฎหมายระหว่างประเทศ กฎบัตรแห่งสหประชาชาติ อีกทั้งเป็นการละเมิดศีลธรรมขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ที่ควรจะได้รับ

นายนิกรเดช ระบุว่า จากรายงานล่าสุดของกระทรวงสาธารณสุขไทย มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้แล้ว 14 ราย เป็นพลเรือน 13 ราย ทหาร 1 ราย ในจำนวนนี้ มีเด็กอายุเพียง 8 ขวบและ 15 ปีรวมอยู่ด้วย ส่วนผู้บาดเจ็บมี 45 ราย โดยเหตุปะทะยังเกิดขึ้นกระจายในจังหวัดชายแดนศรีสะเกษ , สุรินทร์ , บุรีบุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงไปอยู่ในที่ปลอดภัย และขอให้ประชาชนมั่นใจว่าทุกฝ่ายกำลังทำงานอย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ เพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพพร้อมดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนอย่างที่สุด

สำหรับการชี้แจงต่อประชาคมระหว่างประเทศ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงไปก่อนหน้านี้ ว่าการดำเนินมาตรการทางการทูตต่อสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย กัมพูชา ความคืบหน้าในวันนี้กระทรวงการต่างประเทศได้มีหนังสือประท้วงไปยังฝ่ายกัมพูชาแล้ว รวมถึงการลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต และได้มีหนังสือถึงเลขาธิการสหประชาชาติด้วย


นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ได้เข้าพบเอกอัครราชทูตปากีสถาน ในฐานะประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ประจำเดือน ก.ค. 2568 เพื่อยื่นหนังสือชี้แจงเหตุการณ์การใช้กำลังที่เริ่มโดยฝ่ายกัมพูชา รวมถึงการละเมิดพันธกรณีระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง รวมถึงขอให้เวียนหนังสือดังกล่าวของไทยเป็นเอกสาร เพื่อให้สมาชิกได้รับรับทราบอย่างเป็นทางการ

โดยในเวลา 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นนิวยอร์ก หรือตีสองของไทย คณะมนตรีความมั่นคงของของสหประชาชาติ จะจัดการประชุมแบบปิด เพื่อหารือสถานการณ์ชายแดนไทย กัมพูชา ซึ่งการประชุมลักษณะนี้จัดขึ้นเป็นปกติ เมื่อมีการปะทะระหว่าง 2 ประเทศ โดยไม่ใช่การประชุม เพื่อลงมติใดๆ แต่เป็นการหารืออย่างเป็นทางการ โดยมีผู้เข้าร่วมประกอบด้วยสมาชิก UNSC 15 ประเทศ รวมทั้งตัวแทนจากไทยและกัมพูชา ซึ่งผู้แทนไทยจะเข้าร่วมและชี้แจงในครั้งนี้ด้วย คือ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก

ขณะที่นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อยู่ระหว่างเดินทางกลับประเทศไทย โดยหลังจากนี้จะมีการแถลงข่าวเพื่ออัพเดตความคืบหน้าการประชุม

นายนิกรเดช ยังกล่าวถึงกรณีที่กระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลป์กัมพูชา ออกแถลงการณ์กล่าวหาว่ากองทัพไทยสร้างความเสียหายให้ตัวปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลก เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ โดยกฎหมายคุ้มครองแหล่งวัฒนธรรมภายใต้กรอบยูเนสโก้ กระทรวงการต่างประเทศขอชี้แจงว่าการปะทะกันระหว่างไทยและกัมพูชาในวันที่ 24 ก.ค. ฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อน บริเวณห้วยตามาเรีย และภูมะเขือ ซึ่งพื้นที่ห่างจากปราสาทพระวิหาร 2 กิโลเมตร จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีกระสุนหรือสะเก็ดระเบิดกระทบไปถึงตัวปราสาท โดยหลังจากนี้ฝ่ายไทยจะมีหนังสือชี้แจงอย่างเป็นทางการ

ทั้งนี้ ตนขอส่งกำลังใจให้ประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดนทุกท่าน และขอให้มั่นใจว่าทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมปกป้องอธิปไตยของประเทศ ปกป้องสวัสดิภาพของประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดนที่ได้รับผลกระทบอย่างสุดความสามารถ
พร้อมฝากประชาชนว่าความขัดแย้งและการปะทะที่เกิดขึ้น เป็นปัญหาระหว่างรัฐบาลและกองทัพของทั้ง 2 ประเทศ ไม่ใช่ปัญหาระหว่างประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ จึงขอให้แยก 2 เรื่องนี้ออกจากกัน ไทยและกัมพูชาก็ยังเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ร่วมกันต่อไป

เมื่อถามว่ากัมพูชาพยายามดันเรื่องให้ไปถึง UNSC และศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศได้เตรียมความพร้อมอย่างไรบ้าง นายนิกรเดช กล่าวว่า ในกรณีของ UNSC เราไปตรงนั้น เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงแสดงจุดยืนของประเทศไทย กัมพูชาก็ต้องการที่จะไปเพื่อชี้แจง และฟ้อง UNSC ในเรื่องต่างๆ ซึ่งจะเป็นความจริงหรือไม่เป็นความจริงอย่างไร ก็ต้องติดตาม แต่ตนมั่นใจว่าในส่วนของไทยเป็นความจริง

ส่วนเรื่องศาลยุติธรรมระหว่างประเทศเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่เกี่ยวข้องกัน หากถามว่าไทยพร้อมที่จะดูแลหรือไม่ เราพร้อมทั้ง 2 เวที

“ใน UNSC เราก็มีสิทธิ์ชี้แจงเท่าๆกับกัมพูชา เรายึดมั่นในข้อเท็จจริง เราเป็นผู้ถูกโจมตีก่อน เราดำเนินการเพื่อปกป้องอธิปไตย ดังนั้น ไม่มีอะไรน่ากังวล ส่วนของศาลโลก เราไม่รับอำนาจของศาลโลก แต่เราไม่ได้นิ่งนอนใจ เรามีความพร้อม มีการพูดคุยกับนักกฎหมายระหว่างประเทศ ที่เป็นที่ปรึกษาของเรา และมีการเตรียมตัวโดยกรมสนธิสัญญาอย่างละเอียดถี่ถ้วน และมีความมั่นใจเต็มที่” นายนิกรเดช กล่าว.312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เร่งหาสาเหตุ จนท.สวนสัตว์ลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตรุมขย้ำ

10 ก.ย. – เหตุสลด จนท.สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งถูกสิงโตรุมขย้ำจนเสียชีวิต ขณะลงจากรถ ทางสวนสัตว์เร่งหาสาเหตุลงไปทำไม ทั้งที่เจ้าตัวทราบกฎของสวนสัตว์ดีอยู่แล้ว นักท่องเที่ยวอินเดียบันทึกเหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตตัวแรกเข้ามากัดจากทางด้านหลัง แล้วลากไปให้เพื่อนสิงโตอีก 4 ตัว รุมขย้ำ โดยในคลิปเจ้าหน้าที่ไม่ได้ดิ้นขัดขืน และไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนนอนแน่นิ่งและถูกรุมกัดจนเสียชีวิต ขณะที่ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์สิงโตรุมขย้ำเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์ และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างนอกรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูรถทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้าเข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนรู้สึกแปลกใจอย่างมาก แต่เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาข้างหลัง ก่อนตะครุบเข้าทางด้านหลังเจ้าหน้าที่ทันที โดยเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าทีขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้นสิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ […]

เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำยังขาดให้เสร็จภายในคืนนี้

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมถนนสายบ้านทรายมูล-โพธิ์ตาก ซึ่งเสมือนพนังกั้นน้ำยัง หลังถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนขาด เมื่อช่วงเช้าวานนี้ โดยต้องปรับแผนนำเสาไฟฟ้ามาวางขวางเป็นแนวบิ๊กแบ็ก เพื่อให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้. – สำนักข่าวไทย

ส่องสาเหตุรถชนโครมเดียว เสาไฟฟ้าล้ม 77 ต้น

เชียงใหม่ 10 ก.ย. – อุบัติเหตุรถบรรทุกน้ำดื่มแหกโค้งพุ่งชนเสาไฟฟ้าที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สร้างความเสียหายหนัก เสาไฟฟ้าล้มกว่า 70 ต้น บ้านเรือนเสียหาย 20 หลัง สาเหตุเกิดจากอะไร. – สำนักข่าวไทย

“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก จะทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์

พรรคภูมิใจไทย 10 ก.ย.-“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก ขอนำประสบการณ์ที่มีทั้งหมด ทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขอบคุณเสียงชื่นชม-ความคาดหวัง เป็นกำลังใจทำงาน รับทำไม่ได้ทุกเรื่อง แต่จะเลือกทำสิ่งที่เกิดผลอย่างดีที่สุด นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเปิดใจถึงความมุ่งมั่นที่เข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้ว่า ตนมีความตั้งใจเหมือนนายกฯ พูดไปแล้วว่า ระยะเวลาสั้นๆ นี้ เป็นระยะเวลาที่มีความท้าทาย และมีความสำคัญมาก ประเทศเราต้องเดินไปข้างหน้า ไม่ว่าจะระยะเวลาสั้นแค่ไหน “ดิฉันในฐานะที่มีโอกาสได้ทำงานมาหลากหลาย รวมถึงงานระหว่างประเทศด้วย ตั้งใจจะนำเอาประสบการณ์ ความสามารถที่มีอยู่ทั้งหมด มาทุ่มเทให้ในระยะเวลาสั้นๆ นี้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งมีธงเดียวกับนายกฯ คือ ทำประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศชาติและพี่น้องประชาชนให้ได้อย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ” นางศุภจี กล่าว เมื่อถามว่า สังคมชื่นชมและคาดหวังผลงานต่อจากนี้ นางศุภจี กล่าวว่า ขอบคุณที่ได้รับการชื่นชม และได้รับการคาดหวัง ถือเป็นกำลังใจที่ดีอย่างยิ่ง และจะยิ่งเป็นกำลังใจที่ทำให้ทุกคนไม่ผิดหวัง ดังนั้นก็จะประสานมือกับทีมงานทุกคนภายใต้นโยบายของนายกฯ และนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ ทำเรื่องเศรษฐกิจของประเทศไทยให้กลับมาให้ได้ ภายในระยะเวลาอันสั้น เมื่อถามว่า ถือเป็นการบ้านที่หนักหรือไม่ เพราะเข้ามาในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศเป็นแบบนี้ นางศุภจี กล่าวว่า […]