“ทักษิณ” แนะ วธ.-อุตฯ จับมือดัน SMEs เผยก่อนหน้า “มท.” ไม่ร่วมมือ

ศูนย์สิริกิติ์ 9 ก.ค.- “ทักษิณ” รันทุกวงการ! ผุด ThaiWORKS ต่อยอด OTOP ไทยคอลแลปส์แบรนด์ชั้นนำระดับโลก ไกด์ วธ.-อุตฯ จับมือดัน SMEs เผยก่อนหน้า “มหาดไทย” ไม่ร่วมมือ แนะ วธ.แลกเปลี่ยน วธ.ตปท.ฉายหนังไทย เหน็บ! ไทยเก่งนิยายการเมืองน้ำเน่า – วอนคนไทยสามัคคี-ไม่อิจฉา ดันซอฟต์พาวเวอร์ทำเงิน – รอ “อิ๊งค์” กลับมาดันงานต่อ


นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โชว์วิสัยทัศน์ในหัวข้อ ”Crafting the Future: From OTOP to ThaiWORKS and Beyond” ภายในงาน ”Splash – Soft Power Forum 2025” ระหว่างวันที่ 8-11 กรกฎาคม 2568 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกระทรวงวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ คณะกรรมการพัฒนาและอนุกรรมการทุกสาขา รวมถึงภาครัฐ เอกชน ชุมชน และเครือข่ายนานาชาติ ที่ร่วมกันจัดขึ้น โดยได้เล่าย้อนถึงการก่อตั้งพรรคไทยรักไทย คิดใหม่ ทำใหม่ ตาดูดาวเท้าติดติดว่า การคิดใหม่ทำใหม่ เพราะวิกฤตเศรษฐกิจในอดีต ประเทศไทยตามไม่ทันโลก อยู่กับปรากฏการณ์เดิม ๆ แต่โลกเปลี่ยนไปมาก ส่วนตาดูดาวเท้าติดดินนั้น ตัดฝัน และมองไปให้ไกล แต่ไม่ลืมรากเหง้าของตนเอง รากเหง้าต้องยึดให้แน่น

นายทักษิณ ยังกล่าวถึงนโยบายหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ในอดีตว่า เนื่องจาก มีคนญี่ปุ่นคนหนึ่งที่มาเล่านโยบาย “หนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งผลิตภัณฑ์” ที่ประเทศญี่ปุ่น และตนเองก็เติบโตมาจากร้านชินวัตรไหมไทย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ดังนั้น ถ้ามีการออกแบบใหม่ มีการตลาดดี ๆ แพคเกจจิ้งดี ๆ ก็สามารถไปไกลได้มากกว่านั้น และให้ชาวบ้านมีส่วนร่วม และมีรายได้ จึงนำต้นแบบของญี่ปุ่นมาเป็นต้นแบบ รวมกับภูมิปัญญาชาวบ้านของไทย ที่สามารถประยุกต์ได้ รัฐบาลจึงให้หน่วยงานของญี่ปุ่นมาสนับสนุน และใช้ข้าราชการกระทรวงอุตสาหกรรม มหาดไทย และพาณิชย์มาสนับสนุน จึงประสบความสำเร็จ โดยปีแรกมียอดจำหน่ายถึง 200 ล้าน จนสามารถส่งออกไปประเทศญี่ปุ่นได้ แต่ก็จะต้องเตรียมแผนการต่อสู้กับโลกในอนาคต เพราะอดีตการศึกษาไทยยังมีปัญหา และโครงสร้างการเมืองที่เป็นหน่วยงานใคร หน่วยงานมัน ทั้งที่จุดแข็งเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ก็ยังสามารถจำหน่ายได้ และจะเป็นจุดแข็งของไทย ที่สามารถพัฒนาได้


นายทักษิณ ยังเล่าว่า สมัยที่ตนเองไปอยู่เมืองนอก ได้เจอกับนายปีเตอร์ อาร์แนลล์ นักออกแบบ และผู้บริหารแบรนด์ชาวอเมริกัน นักเขียน ช่างภาพ และผู้ก่อตั้ง Arnell Group จึงได้ชักชวนมาเริ่มต่อยอดงานโอท็อปของไทย ในนาม ThaiWORKS โดยมีโอท็อปเป็นฐาน และสินค้าของ SMEs ประกอบ ซึ่งตนเห็นว่า การสร้างแบรนด์ มีความสำคัญ เพื่อให้สินค้าไปสู่สากล แต่ก็ต้องใช้งบประมาณมาก ดังนั้น จึงได้ให้ชาวบ้านให้แบรนด์ Thailand ร่วมกัน เพื่อธุรกิจแข็งแรงแล้ว ก็สามารถสร้างแบรนด์ของตนเองได้ และให้มีร้านค้าในต่างประเทศ เสมือนเป็นโชว์รูมสินค้าไทย จนกระทั่งสถานการณ์ทางการเมืองไทย เริ่มวุ่นวาย ทำให้การเมืองสาระ ต้องสะดุดเป็นช่วง ๆ หรือแม้แต่สมัยที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่ง ตนเองก็ยังคงดำเนินการศึกษาต่อยอดไทยเวิร์ค ร่วมกับนายปีเตอร์ จนเริ่มเห็นเป็นรูปธรรม กระทั่งก็ถูกรัฐประหารอีก ซึ่งไม่ว่า ตนเองเป็นรัฐบาล หรือไม่ได้เป็นรัฐบาล ก็ไม่ได้ยุติการดำเนินการศึกษาพัฒนา เพื่อให้เกิดเป็นวิสาหกิจของชุมชน โดยใช้งบประมาณของตนเองในการศึกษาพัฒนา

ส่วนที่ปัจจุบันคนรุ่นใหม่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับงานศิลปหัตถกรรมนั้น นายทักษิณ เห็นว่า จะต้องรีบทำให้สินค้า หรือรูปแบบของไทย สามารถทำเงินได้ เพื่อให้เด็กรุ่นใหม่ใน GenZ ที่ห่วงสถานะทางการเงิน หากไม่สามารถหากรายได้ได้ก็ทิ้ง แต่ถ้าทำเงินได้ ก็จะอยู่กับงานศิลป์ ดังนั้น จะต้องทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัว เพื่อให้ประชาชนสามารถซื้อ-ขายได้ ดังนั้น การแก้ปัญหาเศรษกิจปัจจุบัน จะต้องเร่งแก้ไข เพื่อให้งานโอท็อปเดินหน้าได้ เมื่อสามารถขายได้ คนรุ่นใหม่ก็จะกลับมาให้ความสำคัญ

นายทักษิณ ยังขอให้รัฐบาลเอาจริงเอาจังต่อนโยบายนี้ เพราะรัฐบาลเอาจริงเอาจัง ข้าราชการก็จะให้ความร่วมมือ อย่างกระทรวงมหาดไทย ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยให้ความร่วมมือมาก่อน เมื่อวันนี้ กระทรวงมหาดไทยให้ความร่วมมือ ในการนำนโยบายไปสู่ท้องถิ่นและหมู่บ้านแล้ว นโยบายซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งเป็นนโยบายที่เป็นมูฟเมนท์ เมื่อนโยบายได้ขับเคลื่อนไปสู่ชุมชนก็จะเกิดมูฟเมนท์ รวมถึงภาคเอกชน และภาครัฐ ก็จะต้องพูดคุยกัน เพื่อนำไทยเวิร์คไปช่วยเหลือชุมชน เพื่อนำสินค้าไปสู่ตลาด


นาสทักษิณ ยังกล่าวถึงการใช้เศรษฐกิจดิจิทัลมาสนับสนุน ThaiWORKS ว่า ปัจจุบัน AI มีความเก่ง จนตนกังวลว่า คนไทยจะไม่ยอมตามให้ทัน เช่น ChatGPT ก็สามารถให้ช่วยออกแบบชิ้นงานได้ หรือแม้แต่การให้ช่วยวางแผนท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้มาปรึกษาอยากจะจัดเทรนนิ่งให้กับประชาชน เมื่อผ่านการเทรนแล้วก็ให้เหรียญ Token เพื่อไปซื้ออัพเกรด ChatGPT หรือ DeepSeek เพื่อมาช่วยในการออกแบบสร้างสรรค์ ทั้งการออกแบบ และการทำการตลาดได้ ทำให้สามารถนำเทคโนโลยีไปใช้ประโยชน์ได้ เพื่อนำอัตลักษณ์ของไทยไปสู่โลกให้ได้

ส่วนการนำแผน ThaiWORKS ไปดำเนินการให้เป็นรูปประธรรมนั้น นายทักษิณ เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (10 ก.ค.) นายปีเตอร์จะมาสรุปแผนการต่อยอดงานโอท็อปของไทย ในนาม ThaiWORKS ให้ตนทั้งหมด และตนจะแยกว่า สิ่งใดควรจะลงหมู่บ้าน หรือชุมชน และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงอุตสาหกรรม มาช่วยดำเนินการ ดังนั้น การดำเนินการของ ThaiWORKS จะดำเนินการ 2 ระดับในประเทศ แต่ในระดับนานาชาตินั้น ตนจะให้นายปีเตอร์ มาช่วยดำเนินการ เนื่องจาก มีความรู้ความเชี่ยวชาญ แต่ทั้งนี้ ก็จะต้องรอให้นางสาวแพทองธาร สามารถกลับไปปฏิบัติหน้าที่ได้ก่อน ซึ่งตนก็เป็นคนใจร้อน อยากจะรีบดำเนินการ เพราะตนเองก็อายุ 76 ปีแล้ว

ส่วนภาพยนตร์ไทย ที่ในปีที่ผ่านมาภาพยนตร์ไทยเติบโต สามารถทำเงินได้มากกว่าภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในไทย ดังนั้น ภาพยนตร์ไทยควรจะเติบโตอย่างไร เพื่อผนวกซอฟต์พาวเวอร์อื่น ๆ ไปด้วยกันนั้น นายทักษิณ ระบุว่า อดีตทั้งไทย มีทั้งภาพยนตร์แบบหยาบ และแบบดี ซึ่งตนก็เคยผ่านประสบการณ์การผลิตภาพยนตร์มาก่อน ซึ่งสามารถขอสินค้าจากธนาคารได้ยากมาก เพราะความประสบความสำเร็จยาก และภาพยนตร์ไทยในยุคหลัง ที่มีผู้ที่ศึกษาด้านนี้โดยตรงเข้ามาผลิต ทำให้มีระบบขึ้น หากสามารถหากลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนได้มากขึ้น การผลิตภาพยนตร์ ก็จะประสบความสำเร็จ สามารถไปฉายได้หลายประเทศมากขึ้นจากเทคโนโลยี AI ดังนั้น กระทรวงวัฒนธรรมไทย จะต้องไปเจรจาร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมอื่น ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนการฉาย และบทหนังไทยก็เป็นที่นิยมในฮอลิวูด นำไปแปลภาษา เพราะคนไทยเขียนบทละครเก่ง โดยเฉพาะการเมือง ที่นิยายน้ำเน่าเยอะมาก ดังนั้น ถ้ารัฐช่วยสนับสนุน โดยเฉพาะกับประสานกับสถาบันการเงิน ก็จะช่วยให้หนังไทยโตได้ และให้ความสำคัญกับตลาดจีน และอินเดีย เพื่อให้มีตลาดมากขึ้น

นายทักษิณ ยังเปิดเผยด้วยว่า บางกอกแฟชั่นวีคกำลังจะกลับมา พร้อมเห็นว่า เมืองไทย ควรมีทุกอย่างที่ในโลกฟุ่มเฟือยควรมี แต่ไทยตามไม่ทัน แต่สามารถซื้อทัน แต่สร้างไม่ทัน ดังนั้น ต้องสร้างให้ทัน เพราะกำลังซื้อของคนไทยตกลงไปมาก ดังนั้น วันนี้ประเทศไทยจะต้องแก้ปัญหาอะไรอีกมาก

นายทักษิณ ยังฝากไปถึงเอกชนที่เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ ว่า ตนเองยังเชื่อมั่นในเครือข่าย ที่จะต้องมีบริษัทใหญ่ และบริษัทเล็ก ๆ สนับสนุน หากบริษัทเล็ก ๆ สามารถเข้าถึงประชาชนได้มากเท่าไร รัฐบาลก็สามารถสนับสนุนได้มากเท่านั้น เพราะสร้างงาน และสร้างอาชีพให้กับประชาชนได้ เช่น CP ที่มีร้านเซเว่นทั่วประเทศ

ส่วนมองซอฟต์พาวเวอร์ประเทศไทยอย่างไร จะเป็นเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจของไทยตัวใหม่ได้หรือไม่นั้น นายทักษิณ เห็นว่า ความไม่สามัคคี และความอิจฉา เป็นปัญหาใหญ่ของไทย ถ้าไม่มีปัญหาเหล่านี้และเกื้อกูลกัน ซอฟต์พาวเวอร์ คือพลังมหาศาล ที่มากกว่าฮาร์ดพาวเวอร์ เพราะนิสัยคนไทย มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และมีวัฒนธรรมที่ดี เมื่อรวมกันแล้วสามารถสร้างพลังซอฟต์พาวเวอร์ได้หลายสาขา เป็นช่องทางทำเงิน แม้โลกจะมีเทคโนโลยีสมัยใหม่ก็หนีซอฟต์พาวเวอร์ไม่ได้ เพราะจะต้องใช้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และไม่สามารถทิ้งรากเหง้าเดิม ๆ ได้ ดังน้น เมื่อประเทศไทยมีของดีอยู่แล้ว ก็นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ แต่ปัญหาของประเทศไทยคือ เมื่อสร้างขึ้นมาแล้วเริ่มมีคนเติบโต ก็เกิดความอิจจา จึงจะต้องทิ้งความอิจฉาลง หรือเข้าวัดบ้าง

ทั้งนี้ ในระหว่างการกล่าวโชว์วิสัยทัศน์ นายทักษิณ ได้กล่าวไปถึงนางสาวแพทองธาร ว่า นายกรัฐมนตรี จึงทำให้นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ที่ทำหน้าที่ดำเนินรายการ ต้องช่วยแก้ว่า เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม-313 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้

สภาอุตสาหกรรมฯ 15 ก.ย.-“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ ปัดตอบใครขาดคุณสมบัติบ้าง แต่ยืนยันนิ่งและครบแล้ว เผยหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมแถลงนโยบายต่อสภาทันที เพื่อเดินหน้าทำงานโดยเร็ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จำเป็นจะต้องเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือด้วยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ได้มีการยกร่างคำแถลงขึ้นมาแล้ว และได้ส่งเนื้อหาในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนรับผิดชอบ ให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดอะไรที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับเขามากที่สุด จะได้เข้ามาทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สไตล์คนละพรรคแต่พวกเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติของคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานกลับมาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใกล้แล้ว เรียกได้ว่ารายชื่อ 100% แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยยืนยันว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในสัปดาห์นี้ ส่วนขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้วก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ทันทีที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาก็จะต้องรอการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นก็จะเร่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมร่างแถลงนโยบายต่อสภาไว้แล้ว ทันทีเมื่อพร้อมก็สามารถให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดหมายวันประชุมได้ทันที ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบและนิ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า […]

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

แบงก์ชาติเตรียมแถลงบ่ายนี้ ปมผลกระทบ “บัญชีม้า”

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)-สมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูลบ่ายวันนี้ กรณีปัญหาผลกระทบประชาชน จากการระงับธุรกรรมเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้า ด้านนักวิเคราะห์ เปรียบเทียบปัญหาไทย-จีน หวังรัฐบาลใหม่เอาจริง ธปท.แจ้งว่า บ่ายวันนี้ เวลา 13.00-14.30 น. ธปท.จะมีการชี้แจงรายละเอียดการระงับธุรกรรมในเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้าให้แก่สื่อมวลชน ณ ห้องแถลงข่าว อาคาร 2 ธปท. โดยนางดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน นางสาวอรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการ ธปท. และนายสุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท ผู้แทนจากสมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูล การชี้แจงดังกล่าว ก็เป็นเรื่องต่อเนื่องจากวานนี้ที่มีการประชุมร่วมกันของหน่วยงานรัฐ-ธปท.-สมาคมธนาคารไทย เพื่อร่วมปลดล็อกปัญหา ปรับแนวทางการอายัดบัญชีและกระบวนการปลดอายัด เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนสุจริต หลังจากมีประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ตามขั้นตอน ทางธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย