“ทักษิณ” แนะ วธ.-อุตฯ จับมือดัน SMEs เผยก่อนหน้า “มท.” ไม่ร่วมมือ

ศูนย์สิริกิติ์ 9 ก.ค.- “ทักษิณ” รันทุกวงการ! ผุด ThaiWORKS ต่อยอด OTOP ไทยคอลแลปส์แบรนด์ชั้นนำระดับโลก ไกด์ วธ.-อุตฯ จับมือดัน SMEs เผยก่อนหน้า “มหาดไทย” ไม่ร่วมมือ แนะ วธ.แลกเปลี่ยน วธ.ตปท.ฉายหนังไทย เหน็บ! ไทยเก่งนิยายการเมืองน้ำเน่า – วอนคนไทยสามัคคี-ไม่อิจฉา ดันซอฟต์พาวเวอร์ทำเงิน – รอ “อิ๊งค์” กลับมาดันงานต่อ


นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โชว์วิสัยทัศน์ในหัวข้อ ”Crafting the Future: From OTOP to ThaiWORKS and Beyond” ภายในงาน ”Splash – Soft Power Forum 2025” ระหว่างวันที่ 8-11 กรกฎาคม 2568 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกระทรวงวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ คณะกรรมการพัฒนาและอนุกรรมการทุกสาขา รวมถึงภาครัฐ เอกชน ชุมชน และเครือข่ายนานาชาติ ที่ร่วมกันจัดขึ้น โดยได้เล่าย้อนถึงการก่อตั้งพรรคไทยรักไทย คิดใหม่ ทำใหม่ ตาดูดาวเท้าติดติดว่า การคิดใหม่ทำใหม่ เพราะวิกฤตเศรษฐกิจในอดีต ประเทศไทยตามไม่ทันโลก อยู่กับปรากฏการณ์เดิม ๆ แต่โลกเปลี่ยนไปมาก ส่วนตาดูดาวเท้าติดดินนั้น ตัดฝัน และมองไปให้ไกล แต่ไม่ลืมรากเหง้าของตนเอง รากเหง้าต้องยึดให้แน่น

นายทักษิณ ยังกล่าวถึงนโยบายหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ในอดีตว่า เนื่องจาก มีคนญี่ปุ่นคนหนึ่งที่มาเล่านโยบาย “หนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งผลิตภัณฑ์” ที่ประเทศญี่ปุ่น และตนเองก็เติบโตมาจากร้านชินวัตรไหมไทย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ดังนั้น ถ้ามีการออกแบบใหม่ มีการตลาดดี ๆ แพคเกจจิ้งดี ๆ ก็สามารถไปไกลได้มากกว่านั้น และให้ชาวบ้านมีส่วนร่วม และมีรายได้ จึงนำต้นแบบของญี่ปุ่นมาเป็นต้นแบบ รวมกับภูมิปัญญาชาวบ้านของไทย ที่สามารถประยุกต์ได้ รัฐบาลจึงให้หน่วยงานของญี่ปุ่นมาสนับสนุน และใช้ข้าราชการกระทรวงอุตสาหกรรม มหาดไทย และพาณิชย์มาสนับสนุน จึงประสบความสำเร็จ โดยปีแรกมียอดจำหน่ายถึง 200 ล้าน จนสามารถส่งออกไปประเทศญี่ปุ่นได้ แต่ก็จะต้องเตรียมแผนการต่อสู้กับโลกในอนาคต เพราะอดีตการศึกษาไทยยังมีปัญหา และโครงสร้างการเมืองที่เป็นหน่วยงานใคร หน่วยงานมัน ทั้งที่จุดแข็งเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ก็ยังสามารถจำหน่ายได้ และจะเป็นจุดแข็งของไทย ที่สามารถพัฒนาได้


นายทักษิณ ยังเล่าว่า สมัยที่ตนเองไปอยู่เมืองนอก ได้เจอกับนายปีเตอร์ อาร์แนลล์ นักออกแบบ และผู้บริหารแบรนด์ชาวอเมริกัน นักเขียน ช่างภาพ และผู้ก่อตั้ง Arnell Group จึงได้ชักชวนมาเริ่มต่อยอดงานโอท็อปของไทย ในนาม ThaiWORKS โดยมีโอท็อปเป็นฐาน และสินค้าของ SMEs ประกอบ ซึ่งตนเห็นว่า การสร้างแบรนด์ มีความสำคัญ เพื่อให้สินค้าไปสู่สากล แต่ก็ต้องใช้งบประมาณมาก ดังนั้น จึงได้ให้ชาวบ้านให้แบรนด์ Thailand ร่วมกัน เพื่อธุรกิจแข็งแรงแล้ว ก็สามารถสร้างแบรนด์ของตนเองได้ และให้มีร้านค้าในต่างประเทศ เสมือนเป็นโชว์รูมสินค้าไทย จนกระทั่งสถานการณ์ทางการเมืองไทย เริ่มวุ่นวาย ทำให้การเมืองสาระ ต้องสะดุดเป็นช่วง ๆ หรือแม้แต่สมัยที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่ง ตนเองก็ยังคงดำเนินการศึกษาต่อยอดไทยเวิร์ค ร่วมกับนายปีเตอร์ จนเริ่มเห็นเป็นรูปธรรม กระทั่งก็ถูกรัฐประหารอีก ซึ่งไม่ว่า ตนเองเป็นรัฐบาล หรือไม่ได้เป็นรัฐบาล ก็ไม่ได้ยุติการดำเนินการศึกษาพัฒนา เพื่อให้เกิดเป็นวิสาหกิจของชุมชน โดยใช้งบประมาณของตนเองในการศึกษาพัฒนา

ส่วนที่ปัจจุบันคนรุ่นใหม่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับงานศิลปหัตถกรรมนั้น นายทักษิณ เห็นว่า จะต้องรีบทำให้สินค้า หรือรูปแบบของไทย สามารถทำเงินได้ เพื่อให้เด็กรุ่นใหม่ใน GenZ ที่ห่วงสถานะทางการเงิน หากไม่สามารถหากรายได้ได้ก็ทิ้ง แต่ถ้าทำเงินได้ ก็จะอยู่กับงานศิลป์ ดังนั้น จะต้องทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัว เพื่อให้ประชาชนสามารถซื้อ-ขายได้ ดังนั้น การแก้ปัญหาเศรษกิจปัจจุบัน จะต้องเร่งแก้ไข เพื่อให้งานโอท็อปเดินหน้าได้ เมื่อสามารถขายได้ คนรุ่นใหม่ก็จะกลับมาให้ความสำคัญ

นายทักษิณ ยังขอให้รัฐบาลเอาจริงเอาจังต่อนโยบายนี้ เพราะรัฐบาลเอาจริงเอาจัง ข้าราชการก็จะให้ความร่วมมือ อย่างกระทรวงมหาดไทย ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยให้ความร่วมมือมาก่อน เมื่อวันนี้ กระทรวงมหาดไทยให้ความร่วมมือ ในการนำนโยบายไปสู่ท้องถิ่นและหมู่บ้านแล้ว นโยบายซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งเป็นนโยบายที่เป็นมูฟเมนท์ เมื่อนโยบายได้ขับเคลื่อนไปสู่ชุมชนก็จะเกิดมูฟเมนท์ รวมถึงภาคเอกชน และภาครัฐ ก็จะต้องพูดคุยกัน เพื่อนำไทยเวิร์คไปช่วยเหลือชุมชน เพื่อนำสินค้าไปสู่ตลาด


นาสทักษิณ ยังกล่าวถึงการใช้เศรษฐกิจดิจิทัลมาสนับสนุน ThaiWORKS ว่า ปัจจุบัน AI มีความเก่ง จนตนกังวลว่า คนไทยจะไม่ยอมตามให้ทัน เช่น ChatGPT ก็สามารถให้ช่วยออกแบบชิ้นงานได้ หรือแม้แต่การให้ช่วยวางแผนท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้มาปรึกษาอยากจะจัดเทรนนิ่งให้กับประชาชน เมื่อผ่านการเทรนแล้วก็ให้เหรียญ Token เพื่อไปซื้ออัพเกรด ChatGPT หรือ DeepSeek เพื่อมาช่วยในการออกแบบสร้างสรรค์ ทั้งการออกแบบ และการทำการตลาดได้ ทำให้สามารถนำเทคโนโลยีไปใช้ประโยชน์ได้ เพื่อนำอัตลักษณ์ของไทยไปสู่โลกให้ได้

ส่วนการนำแผน ThaiWORKS ไปดำเนินการให้เป็นรูปประธรรมนั้น นายทักษิณ เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (10 ก.ค.) นายปีเตอร์จะมาสรุปแผนการต่อยอดงานโอท็อปของไทย ในนาม ThaiWORKS ให้ตนทั้งหมด และตนจะแยกว่า สิ่งใดควรจะลงหมู่บ้าน หรือชุมชน และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงอุตสาหกรรม มาช่วยดำเนินการ ดังนั้น การดำเนินการของ ThaiWORKS จะดำเนินการ 2 ระดับในประเทศ แต่ในระดับนานาชาตินั้น ตนจะให้นายปีเตอร์ มาช่วยดำเนินการ เนื่องจาก มีความรู้ความเชี่ยวชาญ แต่ทั้งนี้ ก็จะต้องรอให้นางสาวแพทองธาร สามารถกลับไปปฏิบัติหน้าที่ได้ก่อน ซึ่งตนก็เป็นคนใจร้อน อยากจะรีบดำเนินการ เพราะตนเองก็อายุ 76 ปีแล้ว

ส่วนภาพยนตร์ไทย ที่ในปีที่ผ่านมาภาพยนตร์ไทยเติบโต สามารถทำเงินได้มากกว่าภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในไทย ดังนั้น ภาพยนตร์ไทยควรจะเติบโตอย่างไร เพื่อผนวกซอฟต์พาวเวอร์อื่น ๆ ไปด้วยกันนั้น นายทักษิณ ระบุว่า อดีตทั้งไทย มีทั้งภาพยนตร์แบบหยาบ และแบบดี ซึ่งตนก็เคยผ่านประสบการณ์การผลิตภาพยนตร์มาก่อน ซึ่งสามารถขอสินค้าจากธนาคารได้ยากมาก เพราะความประสบความสำเร็จยาก และภาพยนตร์ไทยในยุคหลัง ที่มีผู้ที่ศึกษาด้านนี้โดยตรงเข้ามาผลิต ทำให้มีระบบขึ้น หากสามารถหากลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนได้มากขึ้น การผลิตภาพยนตร์ ก็จะประสบความสำเร็จ สามารถไปฉายได้หลายประเทศมากขึ้นจากเทคโนโลยี AI ดังนั้น กระทรวงวัฒนธรรมไทย จะต้องไปเจรจาร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมอื่น ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนการฉาย และบทหนังไทยก็เป็นที่นิยมในฮอลิวูด นำไปแปลภาษา เพราะคนไทยเขียนบทละครเก่ง โดยเฉพาะการเมือง ที่นิยายน้ำเน่าเยอะมาก ดังนั้น ถ้ารัฐช่วยสนับสนุน โดยเฉพาะกับประสานกับสถาบันการเงิน ก็จะช่วยให้หนังไทยโตได้ และให้ความสำคัญกับตลาดจีน และอินเดีย เพื่อให้มีตลาดมากขึ้น

นายทักษิณ ยังเปิดเผยด้วยว่า บางกอกแฟชั่นวีคกำลังจะกลับมา พร้อมเห็นว่า เมืองไทย ควรมีทุกอย่างที่ในโลกฟุ่มเฟือยควรมี แต่ไทยตามไม่ทัน แต่สามารถซื้อทัน แต่สร้างไม่ทัน ดังนั้น ต้องสร้างให้ทัน เพราะกำลังซื้อของคนไทยตกลงไปมาก ดังนั้น วันนี้ประเทศไทยจะต้องแก้ปัญหาอะไรอีกมาก

นายทักษิณ ยังฝากไปถึงเอกชนที่เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ ว่า ตนเองยังเชื่อมั่นในเครือข่าย ที่จะต้องมีบริษัทใหญ่ และบริษัทเล็ก ๆ สนับสนุน หากบริษัทเล็ก ๆ สามารถเข้าถึงประชาชนได้มากเท่าไร รัฐบาลก็สามารถสนับสนุนได้มากเท่านั้น เพราะสร้างงาน และสร้างอาชีพให้กับประชาชนได้ เช่น CP ที่มีร้านเซเว่นทั่วประเทศ

ส่วนมองซอฟต์พาวเวอร์ประเทศไทยอย่างไร จะเป็นเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจของไทยตัวใหม่ได้หรือไม่นั้น นายทักษิณ เห็นว่า ความไม่สามัคคี และความอิจฉา เป็นปัญหาใหญ่ของไทย ถ้าไม่มีปัญหาเหล่านี้และเกื้อกูลกัน ซอฟต์พาวเวอร์ คือพลังมหาศาล ที่มากกว่าฮาร์ดพาวเวอร์ เพราะนิสัยคนไทย มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และมีวัฒนธรรมที่ดี เมื่อรวมกันแล้วสามารถสร้างพลังซอฟต์พาวเวอร์ได้หลายสาขา เป็นช่องทางทำเงิน แม้โลกจะมีเทคโนโลยีสมัยใหม่ก็หนีซอฟต์พาวเวอร์ไม่ได้ เพราะจะต้องใช้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และไม่สามารถทิ้งรากเหง้าเดิม ๆ ได้ ดังน้น เมื่อประเทศไทยมีของดีอยู่แล้ว ก็นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ แต่ปัญหาของประเทศไทยคือ เมื่อสร้างขึ้นมาแล้วเริ่มมีคนเติบโต ก็เกิดความอิจจา จึงจะต้องทิ้งความอิจฉาลง หรือเข้าวัดบ้าง

ทั้งนี้ ในระหว่างการกล่าวโชว์วิสัยทัศน์ นายทักษิณ ได้กล่าวไปถึงนางสาวแพทองธาร ว่า นายกรัฐมนตรี จึงทำให้นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ที่ทำหน้าที่ดำเนินรายการ ต้องช่วยแก้ว่า เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม-313 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บ้านหนองจาน” วุ่น เขมรบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่ทหารไทย

สระแก้ว 25 ส.ค. – ชายแดนสระแก้วตึงเครียด ชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่เจ้าหน้าที่ ในพื้นที่บ้านหนองจาน ทหารไทยเจ็บ 1 นาย ด้านกองทัพภาคที่ 1 แจงเป็นความเข้าใจผิดของฝ่ายกัมพูชา สถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ยังคงเกิดความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง หลังจากทางฝั่งกัมพูชาได้ประกาศเสียงตามสาย เรียกระดมชาวบ้านให้ออกมารวมตัวกันยังพื้นที่พิพาทติดแนวชายแดน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายป่าไม้ และที่ดินของกัมพูชา เข้าร่วมอยู่ในพื้นที่ด้วย เมื่อชาวบ้านจำนวนหนึ่งเดินทางมาถึง เกิดเหตุเหตุจราจลขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากกลุ่มชาวกัมพูชาบางส่วนพากันบุกเข้ามารื้อรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยขึงกั้นไว้เพื่อป้องกันการรุกล้ำ นอกจากนี้ ยังมีการขว้างปาสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บแล้ว 1 นาย ขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าประชาชนจากฝั่งกัมพูชายังคงทยอยเดินทางเข้ามาสมทบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้บรรยากาศตึงเครียดยิ่งขึ้น ด้านกองกำลังทหารไทยจึงได้เสริมกำลังเข้าตรึงพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันการบานปลาย ที่น่าสังเกตคือ ฝั่งกัมพูชาได้เปิดเพลงเสียงดังสนั่น คาดว่าเป็นเพลงปลุกใจ เพื่อสร้างขวัญและกระตุ้นให้ชาวบ้านในพื้นที่มีความฮึกเหิมมากขึ้น เสียงเพลงดังกล่าวได้ถูกเปิดก้องไปทั่วบริเวณแนวชายแดน สร้างความกดดันให้กับเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ สถานการณ์ล่าสุดยังคงมีการเผชิญหน้ากันระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย โดยทหารไทยยังคงตรึงกำลังแน่นหนา เพื่อเฝ้าระวังการปะทะที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับส่วนกลางเพื่อรายงานความคืบหน้าและเตรียมมาตรการรองรับ กองทัพภาคที่ 1 แจงแล้ว ปมชาวบ้านเขมรรื้อรั้วหนาม ล่าสุด กองทัพภาคที่ […]

ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ

สวีเดน 25 ส.ค.-ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ “มาริษ-ผบ.ทอ.” ร่วมเป็นสักขีพยาน ชูเป็นเขี้ยวเล็บป้องกันตัว พ่วง Offset Policy พัฒนาอุตสาหกรรม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 17.20 น. ตามเวลาในประเทศไทย รัฐบาลไทยและสวีเดน ได้บรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง วงเงิน 19,500 ล้านบาท โดยมี พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย มีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ ดร.พอล ยอนซอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน ร่วมเป็นสักขีพยาน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังพิธีว่า ข้อตกลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเสริมสร้าง “เขี้ยวเล็บ” […]

มทภ.2 ชี้หากพบกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้

เกษตรศาสตร์ 25 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ชี้หากพบทหารกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้ แต่ยิงแจ้งเตือนก่อน หากยังขัดขืนสั่งยิงทันที เชื่อประชุม RBC 27 ส.ค.นี้ ราบรื่นดี มองหากกัมพูชาไม่รับเงื่อนไขเก็บทุ่นระเบิด เตรียมเก็บหลักฐานฟ้อง UN วันนี้ (25 ส.ค. 68) ที่ห้องประชุมสุธรรม อารีกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย – กัมพูชา (RBC) ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ หากฝ่ายกัมพูชาไม่ตกลงที่จะเก็บกู้ทุ่นระเบิด ว่า ถ้าไม่เก็บกู้ก็จะรายงานไปที่ UN และทำบันทึกไว้เพื่อเป็นการประท้วง ส่วนการประชุม RBC ที่พื้นที่กองทัพภาคที่ 1 มีการตอบรับเรื่องเก็บกู้ระเบิดร่วมกัน ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 ควรจะมีการตอบรับด้วยหรือไม่เพื่อแสดงถึงความจริงใจ นั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า […]