“จุลพันธ์” เข้าฟังข้อเสนอ AIPA เพื่อความยั่งยืนของอาเซียน

มาเลเซีย 27 พ.ค.-นายกฯ มอบ “จุลพันธ์” เข้าฟังข้อเสนอ AIPA (ไอป้า) ขณะผู้นำอาเซียน ชมเป็นข้อเสนอที่ให้ความร่วมมือทุกมิติ เพื่อความยั่งยืนของอาเซียน ทั้งเศรษฐกิจ-สันติภาพ-ไร้สงครามล้างเผ่าพันธ์ ด้าน “วันนอร์” เผย “มาเลเซีย” ยินดีร่วมมือไทยดับไฟชายแดนใต้

ที่ประเทศมาเลเซีย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนรัฐสภาไทย เข้าร่วมหารือระหว่างผู้นำอาเซียน และคณะผู้แทนสมัชชารัฐสภาอาเซียน หรือ ASEAN-AIPA Leader’s Interface Meeting ครั้งที่ 14 ในห้วงการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 46


โดยฝ่ายบริหาร มีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐบาลไทยเข้าร่วมหารือ

ด้าน ตัน ศรี ดาโต๊ะ โจฮารี บิน อับดุล ประธานสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย ในฐานะประธาน AIPA (ไอป้า) เป็นผู้แทนคณะผู้แทนสมัชชารัฐสภาอาเซียน กล่าวถ้อยแถลงในนาม AIPA เพื่อเป็นข้อเสนอไปยังผู้นำอาเซียน ซึ่งสมาชิก AIPA ยินดีเห็นชอบกับวิสัยทัศน์อาเซียน 2045 : อนาคตร่วมกันของเรา ซึ่งจะเป็นปฏิญญาที่ผู้นำอาเซียนทุกประเทศจะลงนาม โดย AIPA ให้คำมั่นว่าจะทำงานร่วมกับรัฐบาลของประเทศสมาชิกอาเซียนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ของประชาคมอาเซียน 2045 โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง พร้อมทั้งจำเป็นต้องทำให้เสียงของสตรีและเยาวชนดังขึ้น


ขณะที่ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ได้กล่าวว่า AIPA มีความสำคัญมากกับอาเซียน เพราะ AIPA คือตัวแทนประชาชน เป็นที่รวมของสมาชิกรัฐสภา เพราะฉะนั้นความเห็นของ AIPA ก็คือความเห็นของรัฐสภาอาเซียน ซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง จึงขอให้คำมั่นว่าทุกคำแนะนำ และความคิดเห็นของ AIPA อาเซียน จะให้ความสำคัญ และนำไปร่วมพิจารณา เพราะ AIPA และอาเซียนเป็นพันธมิตรที่สำคัญในการสร้างการเปลี่ยนแปลง และเป้าหมายต่างๆของอาเซียนจะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่ได้ความร่วมมือจาก AIPA ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง

ด้าน นายวันมูหะมัดนอร์ ได้กล่าวถึงผลสำเร็จการหารือร่วมกันของผู้นำอาเซียนและคณะผู้แทนสมัชชารัฐสภาอาเซียน ว่า นายกฯ อันวาร์ ชมเชยว่าข้อเสนอของ AIPA เป็นข้อเสนอที่ดี สอดคล้องกับการประชุมผู้นำอาเซียน จุดยืนของเราในการเสนอวันนี้คือการร่วมมือทุกมิติเพื่อความยั่งยืนของอาเซียน และเรามีการเสนอแก้ไขการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลกในทุกมิติ เช่นเรื่องเศรษฐกิจ ที่มีปัญหาทั่วโลก รวมถึงอาเซียนด้วย ว่าเราต้องร่วมมือกันแก้ไขอย่างไร รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกที่มาเร็วมาก เพราะฉะนั้นอาเซียนต้องร่วมมือ ในการสร้างความยั่งยืน สร้างพลังงาน บริสุทธิ์ สร้างพื้นที่สีเขียวมากขึ้น และรัฐสภาอาเซียนยังนำเสนอเรื่องสันติภาพ และสันติสุขของโลก เพราะตอนนี้มีสงครามของรัสเซีย-ยูเครน สงครามปาเลสไตน์-อิสราเอล และสถานการณ์ในเมียนมา ซึ่งรัฐสภาอาเซียนและผู้นำอาเซียนเห็นพ้องต้องกันว่า อาเซียนต้องให้ความสนใจเพื่อให้เกิดสันติสุข ไม่ให้มีสงครามล้างเผ่าพันธุ์ หรือกระทำการที่ผิดกฎบัตรของสหประชาชาติ

ส่วนการที่อาเซียน และ AIPA จะร่วมมือกันอย่างไรให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์อาเซียน 2045 นั้น นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า AIPA จะนำวิสัยทัศน์อาเซียน 2045 เข้าบรรจุในการประชุมสมัชชาใหญ่รัฐสภาอาเซียน ที่จะมีการประชุมในช่วงเดือนกันยายนนี้ เพื่อที่จะได้เดินไปพร้อมกันทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ


ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ของไทย ในฐานะที่มีความสนิทสนมกับประธานสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย ได้ขอความร่วมมืออย่างไร นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ได้คุยกัน ซึ่งทางนายกฯ มาเลเซียก็ให้ความสนใจ และยินดีดำเนินการเพื่อให้เกิดความสงบสุข เพราะมาเลเซียก็ถือว่า ความสงบสุขของไทยและประเทศอื่นในอาเซียน เป็นส่วนหนึ่ง ของมาเลเซีย ในฐานะที่เป็นประธานอาเซียน และในฐานะที่เป็นเพื่อนบ้านก็ต้องช่วยกัน เพื่อให้เรื่องนี้เกิดสันติภาพและเกิดสันติสุข

จากนั้นในช่วงเย็น ประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยคณะผู้แทนสมัชชารัฐสภาอาเซียน ได้เข้าร่วมในพิธีลงนามปริญญากัวลาลัมเปอร์ ว่าด้วยอาเซียน 2045 : อนาคตร่วมกันของเรา

นอกจากนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ ยังได้ร่วมหารือทวิภาคีกับนายหวู ฮง แถ็ง รองประธานสภาแห่งชาติสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งทั้งเวียดนามและไทย เห็นว่า เราควรพัฒนาทุกด้าน ทั้งเศรษฐกิจ การศึกษา การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างทั้ง 2 ประเทศ และตนยังได้เสนอว่า เมื่อเรามีพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ อย่างยางพารา ที่เราครองอันดับต้นๆ ของโลก โดยประเทศไทย ผลิตเป็นอันดับ 1 ของโลก อินโดนีเซีย อันดับ 2 และเวียดนาม เป็นอันดับ 3 ซึ่ง 3 ประเทศนี้ ถือเป็นผู้ผลิตยางรายใหญ่ที่สุดในโลก แต่มีผู้ใช้ยางกว่า 100 ประเทศ ถ้าเราสามารถสร้างองค์กรเหมือนกับ OPEC ได้ เอาผู้ผลิตมารวมกันเพื่อพิจารณารักษาเสถียรภาพยางพารา ไม่ให้ชาวสวนยางและผู้กรีดยางเดือดร้อน เพราะเดี๋ยวนี้ราคายางตกไปมาก ซึ่งทางเวียดนามก็เห็นด้วยและจะนำไปคุยกับรัฐบาล และกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการค้าและพาณิชย์ ของเวียดนาม และนอกจากนี้ เมื่อ 2 ปีก่อน ระหว่างการประชุมอาเซียนที่อินโดนีเซีย ตนได้นำเรื่องนี้คุยกับประธานาธิบดีและรัฐมนตรีของอินโดนีเซีย ซึ่งเขาก็เห็นด้วย จึงคิดว่าจะผลักดันให้รัฐบาลไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นเจ้าภาพในเรื่องนี้ เพื่อหารือร่วมกันใน 3 ประเทศ ในการดึงราคายางพาราให้สูงขึ้นเหมือนในอดีต ซึ่งเป็นแนวโน้มที่จะเป็นไปได้.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบกสดุดีทหารกล้า จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ ขอพระราชทานยศทหารเลื่อนขั้นอย่างสมเกียรติ วันที่ 30 ก.ค. 68 กองทัพบกร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและส่วนราชราชการพื้นที่ จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพทหารกล้าที่สละชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ จากเหตุการณ์พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยใน พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มอบให้คณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก ร่วมเป็นเกียรติในพิธีพระราชทานเพลิงศพของทหารหาญ จำนวน 4 นาย ดังนี้ 1.ส.อ.จิรายุ สิงห์อ้น ตำแหน่งพลลาดตระเวน กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6 (ร้อย ลว.ไกล 6) กองพลทหารราบที่ 6 ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ (25 ก.ค.68) ณ วัดตลาดราชมงคล อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด โดยมี พล.อ. ณัฐวุฒิ นาคะนคร รองผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีพระราชเพลิงศพ โดยกองทัพบกได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ขั้น ขอพระราชทานยศทหารเป็นร้อยโท […]

ทบ.ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบก ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน ประชาคมโลกต้องเห็นความเสียหาย ทั้งบ้านเรือน-โรงเรียน-โรงพยาบาล เร็วๆ นี้ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ เข้าดูพื้นที่บริเวณจุดปะทะ บริเวณช่องอานม้า จ.อุบลราชธานีว่า จุดที่ฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศลงไปดูพื้นที่ปฏิบัติการทางทหาร บริเวณจุดที่เคยมีการปะทะกันนั้น เป็นบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี จึงเห็นมีภาพปรากฏถึงความเสียหายที่เกิดจากการใช้อาวุธจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งคงเป็นเรื่องปกติ เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในบริบทของพื้นที่ทางยุทธการ และบริเวณนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายทางทหาร สำหรับฝ่ายไทยมีแผนจะจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน โดยฝ่ายไทยจะไม่เน้นการสร้างภาพลวงแบบฉาบฉวย แต่จะเน้นสื่อสารเชิงคุณภาพ สิ่งที่จำเป็นจะต้องสื่อถึงประชาคมโลกคือ ความเสียหายต่อบ้านเรือน โรงเรียน โรงพยาบาล ที่ฝ่ายทหารกัมพูชาจงใจพุ่งเป้าโจมตีไปยังเป้าหมายเหล่านั้น จนมีพลเรือน ประชาชน เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวอยู่ลึกไกลเข้ามาภายในประเทศไทย และห่างจากพื้นที่สู้รบเข้ามาในไทยไกลมากถึง 10-30 กิโลเมตร พล.ต.วินธัย กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย รวมถึงขัดต่อหลักปฏิบัติทางทหารตามกฎหมายสากล และหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเจตนาละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศหลายฉบับ ที่ห้ามการโจมตีพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ กองทัพบกไทยขอยืนยันอีกครั้งว่า เราปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเป็นหลักเท่านั้น และยึดมั่นในกติกาสากล โดยขอย้ำว่า ฝ่ายไทยไม่ได้รุกรานใคร แต่เรามีสิทธิชอบธรรมในการปกป้องประชาชนและผืนแผ่นดินของเรา.-313.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก

ทำเนียบ 30 ก.ค.-โฆษกรัฐบาล เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก พร้อมประณามกัมพูชาละเมิดมนุษยธรรมร้ายแรง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ประณามการกระทำของรัฐบาลและกองทัพกัมพูชาอย่างรุนแรง กรณีการใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายที่เป็นสถานพยาบาลของไทยในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรมขั้นพื้นฐานและเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน พร้อมกันนี้นายจิรายุ ยังเปิดภาพโรงพยาบาลบางส่วนที่ได้รับความเสียหาย ได้แก่ โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) คำโปรย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โคก, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซำเม็ง “ประเทศไทยขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกจับตามองและประณามการกระทำดังกล่าว ซึ่งต่างจากประเทศไทยที่ยึดมั่นในหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด โดยปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียแก่พลเรือ” โฆษกรัฐบาล ระบุ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. พบว่า จากการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายของกัมพูชา ได้ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 15 ราย ในพื้นที่จ.อุบลราชธานี และศรีสะเกษ บาดเจ็บสาหัส 12 […]

เหตุพลุระเบิด เสียชีวิตเพิ่มเป็น 10 คน

สุพรรณบุรี 30 ก.ค. – เหตุพลุระเบิด จ.สุพรรณบุรี พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ที่โรงพยาบาล รวมเสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย คืบหน้าเหตุพลุระเบิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี ล่าสุด พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผู้บังคับการภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิต จำนวน 10 ราย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 9 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ขณะนี้ได้สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงประสานชุด EOD เข้าเก็บกู้ดินปืน เนื่องจากตรวจสอบพบหลุมขนาดใหญ่สีดำจำนวน 2 หลุม และดินปืนจำนวนหนึ่ง อีกทั้งยังพบร่างผู้เสียชีวิต ชิ้นส่วนจำนวนหนึ่งบริเวณที่เกิดเหตุ ส่วนข้อมูลการตรวจสอบ พบว่าบ้านหลังนี้มีการลักลอบผลิตพลุไล่นก.-สำนักข่าวไทย