อธิบดี ปภ.นั่งหัวโต๊ะ ติดตามสถานการณ์อุทกภัย จ.เชียงราย

เชียงราย 26 พ.ค.-อธิบดี ปภ.นั่งหัวโต๊ะ ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือประชาชนใน จ.เชียงราย กำชับจังหวัดเร่งบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนในทุกมิติ พร้อมบูรณาการทุกภาคส่วนเตรียมรับมือเหตุอุทกภัย

นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยมีนายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายชัยรัตน์ แก้วเพียงเพ็ญ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้บริหารกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมฯ ผ่านระบบการประชุมทางไกล


นายภาสกร เปิดเผยว่า กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศว่าประเทศไทยได้เข้าสู่ฤดูฝนปี 2568 อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 โดยปีนี้จะมีปริมาณฝนรวมมากกว่าค่าเฉลี่ยประมาณร้อยละห้า โดยในช่วงปลายเดือน พ.ค. – ก.ค. 68 ประเทศไทยตอนบนอาจมีพายุหมดเขตร้อนเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ส่งผลให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ ซึ่งอาจก่อให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งได้ ประกอบกับในช่วงวันที่ 23 พ.ค. 68 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร มีความห่วงใยความปลอดภัยของประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบ จึงได้สั่งการให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล ติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิดและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบให้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้โดยเร็ว ซึ่งกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อทำการแจ้งเตือนประชาชนอย่างทันท่วงที รวมถึงสนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัยพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการลงพื้นที่เกิดภัย เพื่อปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตามข้อสั่งการฯ

“เมื่อวานนี้ได้ไปลงพื้นที่ อ.แม่สาย เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น พบว่าระดับน้ำลดลง และสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย เหลือเพียงคราบดินโคลนที่ยังต้องเร่งทำความสะอาด อย่างไรก็ตาม คืนที่ผ่านมา (25 พ.ค. 68) เกิดฝนตกตลอดทั้งคืน ซึ่งอาจทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำลำคลอง รวมไปถึงน้ำในอ่างเก็บน้ำมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น จึงขอฝากจังหวัดให้ความสำคัญกับการติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และระดับน้ำในแหล่งน้ำอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนในพื้นที่ทราบอย่างต่อเนื่องผ่านทุกช่องทางการสื่อสารของจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นหอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน วิทยุชุมชน สื่อสังคมออนไลน์ หอเตือนภัย ในกรณีที่ประเมินสถานการณ์แล้วพบว่ามีแนวโน้มที่จะสถานการณ์จะรุนแรงมากขึ้นจนเกิดอันตรายกับประชาชนในพื้นที่ ให้ประสานมายังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทันที ซึ่งหาก ปภ. โดยศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติประเมินแล้วพบว่าเข้าเกณฑ์การแจ้งเตือนภัยฉุกเฉินด้วย Cell Broadcast ปภ. จะทำการแจ้งเตือนภัยด้วย Cell Broadcast ไปยังประชาชนที่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทันที” อธิบดี ปภ. กล่าว


นายภาสกร กล่าวเพิ่มเติมว่า ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์และรับข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น กรมอุตุนิยมวิทยา กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรธรณี สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ กรมควบคุมมลพิษ และ GISTDA เพื่อประกอบการวิเคราะห์ ประเมินสถานการณ์ และแจ้งเตือนภัยไปยังประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างไรก็ตาม เพื่อให้การแจ้งเตือนภัยมีความแม่นยำ สามารถแจ้งเตือนภัยประชาชนได้อย่างตรงจุด ขอให้จังหวัดและอำเภอซึ่งเป็นกลไกในพื้นที่ที่อยู่ใกล้ชิดกับประชาชนที่สุด ทราบสถานการณ์ และตรวจสอบเหตุการณ์ในพื้นที่ได้ทันที ติดตามสถานการณ์และส่งข้อมูลให้ ปภ. เพื่อให้ ปภ. ทำการแจ้งเตือนให้ประชาชนในรูปแบบและวิธีการที่เหมาะสมต่อไป

“ในส่วนของการเผชิญเหตุให้ความช่วยเหลือประชาชน ตอนนี้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 15 เชียงรายได้สนับสนุน เครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าปฏิบัติการในพื้นที่ประสบภัยเรียบร้อยแล้ว และเพื่อเตรียมการรับรองสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ตนได้สั่งการให้ศูนย์ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่ภาคกลางระดมสรรพกำลังทรัพยากรเครื่องจักรกลสาธารณภัยและเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการมาประจำ ณ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น ก่อนกลับไปประจำยังพื้นที่ภาคกลางในช่วงที่สถานการณ์ในพื้นที่ภาคเหนือเบาบางลง ดังนั้น หากจังหวัดประเมินแล้วคิดว่าทรัพยากรในพื้นที่ไม่เพียงพอในการปฎิบัติงาน ขอให้แจ้งมายัง ปภ. เพื่อ ปภ. จะได้สนับสนุนสรรพกำลังและเครื่องจักรกลเข้าพื้นที่และเริ่มดำเนินการแก้ไขปัญหาทันที“ นายภาสกร​ กล่าว

สำหรับสถานการณ์การปนเปื้อนโลหะหนักสารหนูในแม่น้ำกก นายภาสกร​ กล่าวว่า​วันนี้ที่ประชุมได้หารือในเบื้องต้นกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางการแก้ไขที่ตรงจุดและมีประสิทธิภาพที่สุด โดยคำนึงถึงสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ เพราะแม่น้ำกกถือเป็นแม่น้ำสายสำคัญและประเด็นนี้เป็นประเด็นที่ส่งผลกระทบกับชีวิตประชาชนโดยตรง โดยต้องใช้กลไกทุกกลไก ช่องทางทุกช่องทางที่มีเพื่อหาทางออกร่วมกัน ทั้งในระดับหน่วยงานในประเทศและกับประเทศเมียนมา ซึ่ง ปภ.จะได้ประสานการทำงานร่วมกับกรมควบคุมมลพิษในประเด็นสารตกค้างในแม่น้ำและแนวทางในการแก้ไข รวมถึงประสานการประปาดำเนินการตรวจสอบคุณภาพน้ำประปาเพื่อสร้างความมั่นใจกับประชาชน


“ภัยพิบัติเกิดได้ทุกที่และทุกเวลา ปัจจุบันสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงส่งผลให้เกิดภัยพิบัติที่รุนแรงและบ่อยครั้งมากกว่าเดิม ขอให้จังหวัดเตรียมพร้อมรับมือสาธารณภัยตลอดเวลา ประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และบูรณาการการทำงานของทุกภาคส่วนอย่างมีเอกภาพ เพื่อลดผลกระทบจากสาธารณภัย ให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างรวดเร็ว และประชาชนได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด” นายภาสกร อธิบดี ปภ. กล่าว.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]