อธิบดี ปภ.นั่งหัวโต๊ะ ติดตามสถานการณ์อุทกภัย จ.เชียงราย

เชียงราย 26 พ.ค.-อธิบดี ปภ.นั่งหัวโต๊ะ ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือประชาชนใน จ.เชียงราย กำชับจังหวัดเร่งบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนในทุกมิติ พร้อมบูรณาการทุกภาคส่วนเตรียมรับมือเหตุอุทกภัย

นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยมีนายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายชัยรัตน์ แก้วเพียงเพ็ญ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้บริหารกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมฯ ผ่านระบบการประชุมทางไกล


นายภาสกร เปิดเผยว่า กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศว่าประเทศไทยได้เข้าสู่ฤดูฝนปี 2568 อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 โดยปีนี้จะมีปริมาณฝนรวมมากกว่าค่าเฉลี่ยประมาณร้อยละห้า โดยในช่วงปลายเดือน พ.ค. – ก.ค. 68 ประเทศไทยตอนบนอาจมีพายุหมดเขตร้อนเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ส่งผลให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ ซึ่งอาจก่อให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งได้ ประกอบกับในช่วงวันที่ 23 พ.ค. 68 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร มีความห่วงใยความปลอดภัยของประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบ จึงได้สั่งการให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล ติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิดและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบให้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้โดยเร็ว ซึ่งกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อทำการแจ้งเตือนประชาชนอย่างทันท่วงที รวมถึงสนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัยพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการลงพื้นที่เกิดภัย เพื่อปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตามข้อสั่งการฯ

“เมื่อวานนี้ได้ไปลงพื้นที่ อ.แม่สาย เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น พบว่าระดับน้ำลดลง และสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย เหลือเพียงคราบดินโคลนที่ยังต้องเร่งทำความสะอาด อย่างไรก็ตาม คืนที่ผ่านมา (25 พ.ค. 68) เกิดฝนตกตลอดทั้งคืน ซึ่งอาจทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำลำคลอง รวมไปถึงน้ำในอ่างเก็บน้ำมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น จึงขอฝากจังหวัดให้ความสำคัญกับการติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และระดับน้ำในแหล่งน้ำอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนในพื้นที่ทราบอย่างต่อเนื่องผ่านทุกช่องทางการสื่อสารของจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นหอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน วิทยุชุมชน สื่อสังคมออนไลน์ หอเตือนภัย ในกรณีที่ประเมินสถานการณ์แล้วพบว่ามีแนวโน้มที่จะสถานการณ์จะรุนแรงมากขึ้นจนเกิดอันตรายกับประชาชนในพื้นที่ ให้ประสานมายังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทันที ซึ่งหาก ปภ. โดยศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติประเมินแล้วพบว่าเข้าเกณฑ์การแจ้งเตือนภัยฉุกเฉินด้วย Cell Broadcast ปภ. จะทำการแจ้งเตือนภัยด้วย Cell Broadcast ไปยังประชาชนที่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทันที” อธิบดี ปภ. กล่าว


นายภาสกร กล่าวเพิ่มเติมว่า ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์และรับข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น กรมอุตุนิยมวิทยา กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรธรณี สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ กรมควบคุมมลพิษ และ GISTDA เพื่อประกอบการวิเคราะห์ ประเมินสถานการณ์ และแจ้งเตือนภัยไปยังประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างไรก็ตาม เพื่อให้การแจ้งเตือนภัยมีความแม่นยำ สามารถแจ้งเตือนภัยประชาชนได้อย่างตรงจุด ขอให้จังหวัดและอำเภอซึ่งเป็นกลไกในพื้นที่ที่อยู่ใกล้ชิดกับประชาชนที่สุด ทราบสถานการณ์ และตรวจสอบเหตุการณ์ในพื้นที่ได้ทันที ติดตามสถานการณ์และส่งข้อมูลให้ ปภ. เพื่อให้ ปภ. ทำการแจ้งเตือนให้ประชาชนในรูปแบบและวิธีการที่เหมาะสมต่อไป

“ในส่วนของการเผชิญเหตุให้ความช่วยเหลือประชาชน ตอนนี้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 15 เชียงรายได้สนับสนุน เครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าปฏิบัติการในพื้นที่ประสบภัยเรียบร้อยแล้ว และเพื่อเตรียมการรับรองสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ตนได้สั่งการให้ศูนย์ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่ภาคกลางระดมสรรพกำลังทรัพยากรเครื่องจักรกลสาธารณภัยและเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการมาประจำ ณ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น ก่อนกลับไปประจำยังพื้นที่ภาคกลางในช่วงที่สถานการณ์ในพื้นที่ภาคเหนือเบาบางลง ดังนั้น หากจังหวัดประเมินแล้วคิดว่าทรัพยากรในพื้นที่ไม่เพียงพอในการปฎิบัติงาน ขอให้แจ้งมายัง ปภ. เพื่อ ปภ. จะได้สนับสนุนสรรพกำลังและเครื่องจักรกลเข้าพื้นที่และเริ่มดำเนินการแก้ไขปัญหาทันที“ นายภาสกร​ กล่าว

สำหรับสถานการณ์การปนเปื้อนโลหะหนักสารหนูในแม่น้ำกก นายภาสกร​ กล่าวว่า​วันนี้ที่ประชุมได้หารือในเบื้องต้นกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางการแก้ไขที่ตรงจุดและมีประสิทธิภาพที่สุด โดยคำนึงถึงสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ เพราะแม่น้ำกกถือเป็นแม่น้ำสายสำคัญและประเด็นนี้เป็นประเด็นที่ส่งผลกระทบกับชีวิตประชาชนโดยตรง โดยต้องใช้กลไกทุกกลไก ช่องทางทุกช่องทางที่มีเพื่อหาทางออกร่วมกัน ทั้งในระดับหน่วยงานในประเทศและกับประเทศเมียนมา ซึ่ง ปภ.จะได้ประสานการทำงานร่วมกับกรมควบคุมมลพิษในประเด็นสารตกค้างในแม่น้ำและแนวทางในการแก้ไข รวมถึงประสานการประปาดำเนินการตรวจสอบคุณภาพน้ำประปาเพื่อสร้างความมั่นใจกับประชาชน


“ภัยพิบัติเกิดได้ทุกที่และทุกเวลา ปัจจุบันสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงส่งผลให้เกิดภัยพิบัติที่รุนแรงและบ่อยครั้งมากกว่าเดิม ขอให้จังหวัดเตรียมพร้อมรับมือสาธารณภัยตลอดเวลา ประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และบูรณาการการทำงานของทุกภาคส่วนอย่างมีเอกภาพ เพื่อลดผลกระทบจากสาธารณภัย ให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างรวดเร็ว และประชาชนได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด” นายภาสกร อธิบดี ปภ. กล่าว.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” ปมร้องเรียนทุจริตเงินวัด-พัวพัน 3 สีกา

19 ก.ย. – สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” และเดินทางออกจากวัดทันที หลังก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับทุจริตเงินวัด และพัวพัน 3 สีกา เป็นภาพเอกสารที่พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ส่งไปยังเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เพื่อชี้แจงกรณีของผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง พร้อมแนบภาพถ่ายการลาสิกขาของผู้ช่วยเจ้าอาวาส เอกสารระบุข้อความว่า “ตามที่มีประเด็นปรากฏในสื่อออนไลน์ และสื่อต่างๆ เกี่ยวข้องกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ทางวัดหัวลำโพง ขอชี้แจงตามประเด็นดังต่อไปนี้ 1.กรณีพฤติกรรมชู้สาวของพระครูปริยัติวัฒนกิจ ทางวัดยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนบุคคล2.กรณียักยอกงินวัดนั้น ทางวัดขอชี้แจงว่า ยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากหน้าที่ของพระครูปริยัติวัฒนกิจ เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ฌาปนสถานวัดหัวลำโพง มีหน้าที่ประสานงานกับเจ้าภาพที่มาติดต่อเกี่ยวกับการจองศาลาบำเพ็ญกุศล อีกทั้งฌาปนสถานวัดหัวลำโพง ประกอบด้วยกรรมการบริหารจำนวน 5 รูป โดยมีเจ้าอาวาสเป็นประธาน และมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายในส่วนฌาปนสถานของวัดมาโดยตลอด 3.กรณีลาสิกขา ทางพระครูปริยัติวัฒนกิจ แจ้งความประสงค์ลาสิกขาด้วยความสมัครใจ เพื่อมิให้กระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของวัด และศรัทธาของสาธุชน โดยลาสิกขา 18 ก.ย. 2568 เวลา 19.10 น. และเดินทางออกจากวัดทันที ย้อนดูคำชี้แจง “อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ”ย้อนดูคำชี้แจงจากปากของอดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ ก่อนหน้านี้ที่ทีมข่าวได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ สำหรับเรื่องทุจริตเงินวัด อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ บอกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเอง […]

เบื้องหลังละครกัมพูชา

สระแก้ว 19 ก.ย. – ชาวกัมพูชาที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ยังไม่รามือ หลังพบความพยายามรวบรวมฝูงชนจากพื้นที่อื่น เข้ามาสร้างสถานการณ์ยึดดินแดนไทย อาจมีเบื้องหลังเป็นข้าราชการกัมพูชา-นายทุนต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย