กทม. 24 พ.ค.-มหาดไทย แจงกรณีโซเชียลชวนเชื่อ “บัตรขาวไทย” ขอสัญชาติง่าย บิดเบือนความจริง ย้ำกรมการปครองกำหนดมาตรการและขั้นตอนการให้สถานะทางทะเบียนอย่างเข้มงวด
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงกรณีที่ได้ปรากฏข่าวสารผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อวันที่ 23 พ.ค.68 ที่ผ่านมา ถึงข้อความในโซเชียลมีเดียจีน เกี่ยวกับการได้มาซึ่ง”บัตรสีขาว” หรือ “บัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทางทะเบียน” ของประเทศไทย โดยมีการนำเสนอข้อมูลที่อาจบิดเบือนสิทธิประโยชน์และชวนเชื่อให้เข้าใจผิดว่าสามารถขอสัญชาติไทยได้อย่างง่ายดาย รวมถึงสิทธิในการซื้อ สังหาริมทรัพย์และทำงานได้นั้น
จากการตรวจสอบข้อมูลแล้วพบว่าข้อมูลในโซเชียลมีเดียของจีนตามที่ปรากฏนั้น มีความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง มีขั้นตอนการพิจารณาเพื่อให้สิทธิทางทะเบียนแก่ผู้ไม่มีสัญชาติไทยอย่างเข้มงวด โดยทุกคนที่ได้รับสิทธิ์นั้นจะต้องดำเนินตามขั้นตอนที่กำหนด
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง ได้มีการสำรวจจัดทำทะเบียนประวัติชนกลุ่มน้อย/กลุ่มชาติพันธุ์ที่อพยพยพเข้ามาในประเทศไทยเป็นเวลานาน (ก่อนปี พ.ศ.2542 ) แต่ตกหล่นจากการสำรวจในอดีต ตามมติดณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2548 ซึ่งเห็นชอบยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาสถานะและสิทธิของบุคคล เริ่มดำเนินการสำรสำรวจ เมื่อปี พ.ศ.2548 และสิ้นสุดการดำเนินการเมื่อปี พ.ศ. 2554 โดยบุคคลที่ได้รับการสำรวจจัดทำทะเบียนประวัติ บุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนตามยุทธศาสตร์ฯ ดังกล่าว กระทรวงมหาดไทยมีการบันทึกภาพถ่ายใบหน้า และลายพิมพ์นิ้วมือจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรเพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์แอบอ้างใช้รายการบุคคล
รวมทั้งออกบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน (บัตรสีขาว) ให้ เพื่อใช้เป็นเอกสารในการแสดงตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่และเข้ารับสิทธิชั้นพื้นฐานต่างๆ ตลอดจนสามารถพัฒนาสถานะบุคคลและสัญชาติได้ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติตามกฎหมาย
ทั้งนี้ บุคคลที่มีบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานทางทะเบียน (บัตรสีขาว) จะสามารถขอมีสัญชาติไทยได้จะต้องเป็นผู้ที่เกิดในประเทศไทยโดยมีหลักฐานการเกิด หากไม่ได้เกิดในประเทศไทยจะต้องมีใบสำคัญถิ่นที่อยู่เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี จึงจะสามารถขอแปลงสัญชาติเป็นไทยได้ และต้องยื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น
ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถติดต่อได้ที่ Call Center 1548 หรือ ส่วนสัญชาติฯ สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง เบอร์โทรศัพท์ 0-2791-7317-20 .-319.-สำนักข่าวไทย