“นันทนา” รับยากล่ารายชื่อยังไม่ถึง 20 คน จากกลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่

รัฐสภา 21 พ.ค.- “นันทนา” รับยาก ล่ารายชื่อยังไม่ถึง 20 คน จากกลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ ปมขอ สว.เสียงส่วนใหญ่ หยุดปฏิบัติหน้าที่ เผย “เทวฤทธิ์” เตรียมทำหนังสือชะลอลงมติเลือก คกก.ป.ป.ช. ยื่นประธานวุฒิสภา 30 พ.ค.นี้ ด้าน “ทนายอั๋น” วอน “สว.สีขาว-อิสระ” ร่วมลงชื่อด้วย หลังไม่ยอมรับสาย

กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ นำโดย นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) แถลงความคืบหน้าในการเข้าชื่อ สว.เพื่อขอให้ สว. ที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาในคดีฮั้ว สว. หยุดปฏิบัติหน้าที่ ว่า ขณะนี้ประชาชนทั่วไปทราบว่า สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นหายนะของประเทศ หากมีการปล่อยให้มีการแต่งตั้งองค์กรอิสระอย่างเร่งด่วนเช่นนี้ เป็นเรื่องการขัดขัดแย้งผลประโยชน์อย่างรุนแรง เพราะ สว.เสียงข้างมาก กำลังตกเป็นผู้ถูกกล่าวหา ว่าเข้าสู่ตำแหน่งโดยมิชอบ และได้ทำการตรวจสอบ โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งหากปล่อยให้มีการแต่งตั้ง กกต.เข้าไปก็จะเป็นสิ่งที่เรียกว่า ต่างตอบแทน เช่นเดียวกับศาลรัฐธรรมนูญที่จะเป็นผู้วินิจฉัย การกระทำนี้ จะไม่เท่ากับตั้งผู้พิพากษามาพิจารณาตัวเองหรือ


รวมถึงหากในอนาคตมีการให้ความเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระ ในขณะที่การตรวจสอบ สว.เสียงข้างมาก ยังไม่ชัดเจน ถ้ามีการดำเนินคดีไปถึงที่สุด หรือศาลมีคำพิพากษาให้ สว.ที่เป็นเสียงข้างมากนั้น มีความผิด จะทำให้ผลแห่งการลงมติของผู้ของผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ กลายเป็นมรดกบาป ที่ สว.ได้ทิ้งไว้ให้กับประเทศชาติหรือไม่ ซึ่งก็จะผลต่อสถานะขององค์กรอิสระเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากองค์กรอิสระเป็นองค์กรภายใต้กำกับพรรคการเมือง หรือของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง จะบิดเบี้ยวไปอย่างไร จะเป็นองค์กรที่เป็นกลางเที่ยงธรรมหรือไม่

นางสาวนันทนา กล่าวว่า แม้กระบวนการนี้ จะยากลำบาก แต่ขณะนี้สังคมได้รับรู้อย่างกว้างขวาง และรู้ว่ากระบวนการได้มาซึ่ง สว.ส่วนใหญ่มิชอบ แต่สังคมก็เอาใจช่วยในการผลักดันกระบวนการไม่ให้ สว. ได้ลงมติ ซึ่งในภาคส่วนอื่นๆ ก็ยังมีนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ได้ร้องกับ กตต.ไปแล้ว มีนายภัทรพงศ์ ศุภักษร (ทนายอั๋น) บุรีรัมย์ จะยื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ภายในวันศุกร์ที่ 24 พ.ค.นี้ และนายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สว. ก็จะยื่นญัตติชะลอการเลือกกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต่อ นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ในการประชุมวุฒิสภา วันที่ 30 พ.ค.นี้ โดยการทำเป็นหนังสือ ซึ่งต้องรอการบรรจุระเบียบวาระ แม้ทุกมติของเรา จะไม่เคยผ่านเลย แต่ก็เป็นช่องทางที่เราจะต้องทำ ตลอดจนภาคประชาชน ซึ่งทุกฝ่ายจะต้องติดตามต่อไป ว่ากระบวนการไหนจะสำเร็จหรือบรรลุเป้าหมายได้ก่อน


ทั้งนี้ สาเหตุจริงๆ ของเรื่องมาจากการที่รัฐธรรมนูญปี 60 กำหนดให้การเลือก สว.เป็นการเลือกกันเองของกลุ่มอาชีพ และเกิดช่องโหว่ง ช่องว่าง จนกระทั่งมีการฮั้วกันเข้ามาแบบมโหฬารเช่นนี้ โดยการในส่วนนี้ ก็เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตรงนี้ และสิ่งที่เราต้องเริ่มคิดดำเนินการต่อไป คือการแก้รัฐธรรมนูญ ที่มีปัญหา ทำให้เกิดวิปริตในการได้มาซึ่ง สว.

เมื่อถามว่าสรุปตอนนี้รายชื่อ สว. มีไม่ถึง 20 คนใช่หรือไม่ นางสาวนันทนา กล่าว ยัง เพิ่งเริ่ม เราเพิ่งร่างคำร้อง เราใช้เวลาดำเนินการ รัฐธรรมนูญร่างมาแล้ว ไม่มีข้อกฎหมายตามทันเรื่องนี้ ถ้ามีการให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ พบว่ามีพฤติกรรมมันไม่ชอบจำนวนมาก กฎหมายตามไม่ทัน กลายเป็นว่าเราต้องพลิกตำรากฎหมาย จึงต้องใช้เวลา

ดังนั้น วันนี้จึงเริ่มกระบวนการในการล่ารายชื่อ ซึ่งคือเป็นกระบวนการที่ตรงและเร็วที่สุด ซึ่งยอมรับว่า ไม่ใช่เส้นทางที่ราบรื่น เพราะหากรวบรวมรายชื่อได้ 20 คนแล้ว จะต้องยื่นต่อประธานวุฒิสภาซึ่งเป็นหนึ่งใน 55 คนที่ ถูกแจ้งข้อกล่าวหาด้วย ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจะต้องไปยื่นกับใคร เพราะในธรรมนูญระบุไว้ว่า ต้องไปยื่นกับประธานวุฒิสภา ซึ่งถือเป็นเส้นทางที่ต้องลุ้นกันตลอดทาง


นางสาวนันทนา กล่าวอีกว่า ประเด็นหลัก ๆ ที่ยื่นนั้น มีเรื่องมาตรา 82 การเข้าชื่อกันของสมาชิกแห่งสภานั้น ๆ จำนวน 1 ใน 10 เพื่อยื่นต่อประธานวุฒิสภาว่าสมาชิกภาพของผู้ที่ถูกร้องนั้นสิ้นสุดลง หลังจากนั้นจะขอให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส่วนข้อกล่าวหาที่จะให้สมาชิกสภาพสิ้นสุดลง ใช้มาตรา 113 และมาตรา 114 คือการตกอยู่ภายใต้อาณัติของพรรคการเมือง ของอำนาจกลุ่มคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เป็นเรื่องที่เห็นได้ชัดและข้อมูลก็ออกมาสู่สาธารณะชนอย่างกว้างขวางแล้ว

ส่วนจะเป็นการถอนรากถอนโคน ไม่ใช่แค่ชะลอไม่โหวตเลือกองค์กรอิสระใช่หรือไม่ นางสาวนันทนา ระบุว่า เราพยายามหาข้อกฎหมายมารองรับให้การร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยไม่ต้องถอดถอน แต่สุดท้ายแล้ว ไม่มีกฎหมายใดมารองรับ ซึ่งตนเองเรียกร้องให้ สว.ทั้งหมด ใช้จิตสำนึกหยุดปฏิบัติหน้าที่เอง โดยไม่ต้องใช้กฎหมายมาบังคับ พร้อมยอมรับว่า กังวลว่าการดำเนินการนี้จะช้า จึงเร่งมาก ในเวลาที่เหลือ 9 วันนี้

ส่วนที่พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ยื่นเรื่องร้อง กตต. ให้ยุติการสอบสวนกรณีการฮั้ว สว. นั้น นางสาวนันทนา มองว่า ก็เป็นสิทธิดำเนินการปกป้องตัวเอง แต่โดยกระบวนการยุติธรรมสามารถทำได้หรือไม่ และสามารถร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าหน้าที่ที่กำลังตรวจสอบตนเองได้หรือไม่ และฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการต่อไป ส่วนมองว่าเป็นการแทรกแซงหรือไม่นั้น ก็เรทเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกผู้ที่ถูกกล่าวหาฟ้อง ซึ่งประชาชนก็จับตาดูว่าผู้ที่ถูกกล่าวหามีมีความผิด แต่กลับร้องเจ้าหน้าที่ อาจเป็นเพราะผู้ถูกร้องอาจมีสถานะที่ไม่ใช่ประชาชนทั่วไป ก็ขึ้นอยู่ว่าจะมองอย่างไร

ส่วนจะเป็นการฟอกขาว กกต. และ สว. หรือไม่ นางสาวนันทนา ระบุว่า เราเรียกร้องมาตลอดว่า องค์กรอิสระต้องโปร่งใส จากรัฐบาล การเมือง และต้องมีการตรวจสอบอย่างที่ทำตรงไปตรงมา ดังนั้น จึงต้องช่วยกันจับตา ไม่ปล่อยให้มีการลงมติผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ โดย สว. ที่มีที่มาไม่ชัดเจน

นางสาวนันทนา ย้ำว่า ถ้ากระบวนการยุติธรรมเดินไปจนสุดทางแล้ว บริสุทธิ์ ยุติธรรมจริงๆ กลุ่ม สว.เสียงส่วนใหญ่นี้พ้นหน้าที่ไป ก็ยังมี สว.สำรอง ที่พร้อมจะเลื่อนรายชื่อขึ้นมา เป็นองค์ประชุมได้

เมื่อถามว่าจะไปถึงการล้มทั้งกระดานหรือไม่ นางสาวนันทนา ถามกลับว่า ด้วยเหตุผลอะไร ถ้าจะล้มทั้งกระดาน เพราะคนอื่นๆ ที่เข้ามาแบบปกติก็มี ที่ไม่ได้อยู่ในข้อกล่าวหาว่าฮั้วกัน แต่ถ้าถึงที่สุด จะต้องล้มกระดานกันด้วยเหตุผลว่า เกี่ยวพันกันไปกันมา ก็ยินดี แต่ขอให้แก้รัฐธรรมนูญเรื่องที่มาของ สว.ก่อน หากยังไม่แก้ครั้งหน้าจะฮั้วแบบไม่มีหลักฐาน หรือร่องรอยทิ้งไว้เลย ก็จะยิ่งแย่กว่าเดิม

ด้านทนายอั๋น กล่าวว่า เราทราบกันดีว่าจำนวน สว. สีน้ำเงินที่มีปัญหาอยู่ในกระบวนการมีเพียง 138 คนนั่นหมายความว่ามีมากกว่า สว. สายอิสระ แต่วันนี้จำนวน สว. เพียงแค่ 20 คน ที่จะทำการล่ารายชื่อดูเหมือนว่าโทรไปไม่รับสายบ้าง จึงตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น พี่น้องประชาชน รวมถึงตนเองอยากเห็นซุปเปอร์ฮีโร่เกิดขึ้นในวุฒิสภา ท่ามกลางการศรัทธาความเชื่อมั่นขององค์กรวุฒิสภาเช่นนี้ เรื่องนี้พฤติการณ์ของกลุ่ม สว. ที่ได้มาโดยมิชอบ ไม่สุจริตเที่ยงธรรม จนกระทั่งนำไปสู่การถูกดำเนินคดี และถูกเรียกไปรายงานตัว เป็นเรื่องที่ยอมรับได้หรือไม่ ตนเองหวังว่าเสียงสะท้อนของตนวันนี้จะไปถึง สว. กลุ่มที่เรียกตัวเองว่าอิสระ หรือสายสีขาวทั้งหลาย ให้ร่วมกันมาลงชื่อร่วมกับนางสาวนันทนา เพราะคือทางที่ใกล้ที่สุด แค่ 20 คนไม่เกินไป

ทนายอั๋น กล่าวว่า หากมองในแง่ร้ายที่สุดสมมุติไม่มีใครมาเข้าชื่อ กระบวนการไปสู่ศาลรัฐธรรมนูญมันยากเย็นนักหรืออย่างไร ตนเองจึงจะไปยื่นที่ศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการล้มล้างการปกครอง แต่ก็ไม่หวังอยากไปจุดนั้น

ทนายอั๋น กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนเองอยากเห็น สว. แสดงความกล้าหาญ ส่วนใครที่กลัวว่า สว. สีน้ำเงินจะเอาคืนในเงื่อนไขในเรื่องของการตั้งกรรมการมาสอบเรื่องมาตรฐานทางจริยธรรมของใครก็แล้ว แต่ที่มาร่วมลงชื่อนั่นหมายถึงว่าพวกคุณกลัว ท่ามกลางสถานการณ์สังคมที่เลวร้าย หากพวกคุณไม่ได้อยู่ในตำแหน่ง สว. ประชาชนดำ ๆ ที่สู้กับสภาพเศรษฐกิจสังคมที่มันทดถอย เขายังสู้ได้ พวกคุณมีต้นทุนเยอะแยะ และตนเองให้คำมั่นวันนี้ว่าหากใครถูก สว. สีน้ำเงินเอาคืน ตนเองและประชาชนพร้อมปกป้อง.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยอย่างชัดเจน ซึ่งกองทัพจะนำปัญหาเข้าสู่ที่ประชุม JBC เพื่อให้รัฐบาลกัมพูชาแก้ไขและรับผิดชอบต่อประชาชนของตนเอง หากไม่ดำเนินการ ไทยมีสิทธิโดยชอบธรรมที่จะขับไล่ผู้บุกรุกออกจากพื้นที่ตามหลักกฎหมายและหลักมนุษยธรรม ก่อนที่ช่วงบ่าย คณะเสนาธิการทหาร ลงพื้นที่บ้านหนองจาน ร่วมกับคณะ […]

“หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกแล้ว หลัง “บิ๊กเต่า” เข้าเจรจา

26 ส.ค. – “หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย หลัง “บิ๊กเต่า” ร่วมสอบปากคำคดียักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ ภายหลัง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เข้าร่วมสอบปากคำ พระอลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ และ หมอบี ล่าสุด มีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต ยินยอมจะขอลาสิกขาจากเพศบรรพชิตแล้ว เพื่อนำเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยอดีตพระอลงกต ถูกจับกุมเมื่อช่วงตี 1 ที่ผ่านมา ตามหมายจับศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ในข้อหายักยอกเงินบริจาคของวัดพระบาทน้ำพุ เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และฟอกเงิน.-สำนักข่าวไทย

ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ด้าน “แพทองธาร” หวังกลับมาทำงาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ขอ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี ด้าน “แพทองธาร” หวังได้กลับมาทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (26 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นครั้งแรก ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้เข้าร่วมประชุมตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยสีหน้าสดใส โดยระหว่างการพิจารณาวาระสำคัญ เช่น การพิจารณารายชื่อนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่น 69 ประจำปีการศึกษา 2569 ซึ่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เคยเรียนหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) หรือ มินิ วปอ. ได้สอบถามและให้ความคิดเห็นในรายชื่อของนักศึกษาบางคน ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม ครม. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ประชุมฯ ได้เป็นตัวแทนรัฐมนตรีทุกคนกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และขอให้วันที่ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี นอกจากนี้ ข้าราชการที่เข้าร่วมประชุม […]

“ณัฐพล” สั่งแจ้งเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อลวดหนาม

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ณัฐพล” ฮึ่ม สั่งกองทัพ-ปชช.แจ้งความเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อรั้วลวดหนามที่บ้านหนองจาน ด้าน กต. ทำหนังสือประท้วง ย้ำ เป็นอธิปไตยของไทย เตรียมนำปัญหาทั้งหมดคุยวง GBC ก.ย.นี้ ย้ำหน่วยพื้นที่ยิงตอบโต้ได้ทันที ตามกฎการใช้กำลัง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนามและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ของไทย บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูงจังหวัดสระแก้ว ว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จะมาพบกับประชาชนที่บริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ทำให้เจ้าหน้าที่นำรั้วลวดหนามมาวางเพิ่มเติม เพราะกังวลว่าชาวกัมพูชาจะมารบกวน จึงทำให้ชาวกัมพูชาตั้งใจจะมารื้อในส่วนที่เป็นรั้วเพิ่มเติม ไม่ใช่ส่วนที่วางไว้ตั้งแต่เดิม จึงได้ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ไปว่า เป็นการปักในพื้นที่ประเทศไทย จะมาทำอย่างนี้ไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย และจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอาญา ซึ่งกองทัพภาคที่หนึ่งหรือกองกำลังบูรพาก็สามารถดำเนินการ แจ้งความข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการได้ ซึ่งตนเองได้ย้ำว่าจะต้องไม่มีภาพแบบเมื่อวานเกิดขึ้นอีก เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ พลเอกณัฐพล ยอมรับว่าการนำชาวบ้านมากดดันทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากมากขึ้น จึงมอบหมายให้ทำหนังสือประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ที่ไม่สามารถมาทำเช่นนี้ได้ ส่วนการปฏิบัติการ จะใช้มาตรการเดียวกับการปราบปรามการชุมนุมหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า การปฏิบัติการจะเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งขั้นแรกได้ใช้ เครื่องแอลแรท (LRAD) ไปแล้ว เราต้องเตรียมกำลังเพิ่มเติม โดยจะพิจารณาใช้กำลังตำรวจ เพราะหากใช้กำลังทหารจะรุนแรงเกินไป […]