ทำเนียบ 13 พ.ค.- ครม.เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรี ด้านการศึกษาเอเปคครั้งที่ 7 (7th APEC Education Ministerial Meeting-AEMM)
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีด้านการศึกษาเอเปค ครั้งที่ 7 (7th APEC Education Ministerial Meeting-AEMM) (ร่างแถลงการณ์ร่วมฯ) ทั้งนี้ หากมี
ความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบไว้ ให้ ศธ. ดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง รามทั้งอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองแถลงการณ์ร่วมฯ ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ณ จังหวัดเชจู สาธารณรัฐเกาหลี ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ
นายคารม กล่าวว่า การประชุมรัฐมนตรีด้านการศึกษาเอเปค ครั้งที่ 7 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 15 พฤษภาคม 2568 เป็นเวทีระดับสูงสุดสำหรับการหารือเชิงนโยบายด้านการศึกษาในเขตเศรษฐกิจเอเปค เปิดโอกาสให้รัฐมนตรีด้านการศึกษาได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความท้าทายทางการศึกษาร่วมกันและกำหนดทิศทางเชิงกลยุทธ์ด้านการศึกษาในอนาคตโดยการประชุมครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “ลดช่องว่างทางการศึกษาและส่งเสริมการเติบโตอย่างครอบคลุมในยุคการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล” (Bridging Educational Gaps and Promoting Inclusive Growth in the Era of Digital Transformation) ซึ่งมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อลดช่องว่างทางการศึกษา เสนอแนวทางปฏิบัติในการลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลและสนับสนุนการเติบโตที่ยั่งยืน โดยในการประชุมดังกล่าวจะมีการรับรองแถลงการณ์ร่วมฯ ในวันที่14 พฤษภาคม 2568 ซึ่งได้มีการเวียนแจ้งสมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปคพิจารณาแล้ว
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศ (กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ) พิจารณาแล้วไม่มีข้อขัดข้องต่อสารัตถะและถ้อยคำโดยรวมของร่างถ้อยแถลงร่วมการประชุม รัฐมนตรีด้านการศึกษาเอเปค ครั้งที่ 7 (ร่างถ้อยแถลงร่วมฯ) และมีความเห็นเพิ่มเติมบางประการเกี่ยวกับการพิจารณาปรับถ้อยคำ รวมทั้งเห็นว่าร่างถ้อยแถลงร่วมฯ ไม่เป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศและไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และโดยที่เรื่องนี้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือที่เกี่ยวกับองค์การระหว่างประเทศที่มีผลผูกพันรัฐบาลไทย จึงเข้าข่ายลักษณะเรื่องที่ให้เสนอคณะรัฐมนตรีได้ตามมาตรา 4 (7) แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548
314.-สำนักข่าวไทย