ศาลรัฐธรรมนูญ 30 เม.ย.- ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับคำร้อง “วิโรจน์ นวลแข” อดีตผู้บริหาร ธ.กรุงไทย อ้างวิธีพิจารณาศาลฎีกานักการเมืองละเมิดสิทธิฯ หลังพิพากษายกฟ้อง “ทักษิณ”
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับคำร้องไว้พิจารณา ในคดีที่นายวิโรจน์ นวลแข ผู้ร้อง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ว่า สำนักงานอัยการสูงสุด ผู้ถูกร้อง ฟ้องผู้ร้องกับพวกรวม 27 คน เป็นจำเลยต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และศาลพิพากษาว่าผู้ร้องมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 4 และมาตรา 8 พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 มาตรา 313 ประกอบมาตรา 307 และมาตรา 308 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 ประกอบมาตรา 354
แต่ภายหลังศาลพิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 1 และ ผู้ร้องเห็นว่า เมื่อศาลยกฟ้อง จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนักการเมืองเพียงคนเดียวในคดี ผู้ร้อง จึงไม่อาจถูกดำเนินคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง การที่ผู้ถูกร้องทำให้ผู้ร้องต้องตกอยู่ในการพิจารณาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเป็นกระบวนการพิจารณาค้นหาความจริงที่แตกต่างจากการพิจารณาแบบทั่วไปและถูกพิพากษาให้มีความผิด จึงเป็นกรณีที่ผู้ร้องถูกละเมิดสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง มาตรา 5 วรรคหนึ่ง มาตรา 27 มาตรา 29 มาตรา 188 วรรคหนึ่ง และมาตรา 195 วรรคสอง ขัดต่อกฎหมาย และหลักนิติธรรม ทำให้ผู้ร้องได้รับความเสียหาย
นอกจากนี้ ผู้ร้องกล่าวอ้างด้วยว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 10 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 5 และมาตรา 27 ทำให้ผู้ร้องถูกละเมิดสิทธิจากการกระทำของผู้ถูกร้อง
โดยศาลพิจารณาแล้ว เห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้อง เป็นเรื่องที่ศาลอื่นมีคำพิพากษาหรือคำสั่งถึงที่สุดแล้ว ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณา ของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 47 (4) ซึ่งมาตรา 46 วรรคสาม บัญญัติให้ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณา ดังนั้น ผู้ร้องไม่อาจยื่นคำร้องดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213
ส่วนที่กล่าวอ้างว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 10 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 27 นั้น เป็นการยื่นคำร้องขอให้ตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของกฎหมาย รัฐธรรมนูญบัญญัติให้สิทธิไว้ เป็นการเฉพาะแล้วตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 และมาตรา 231 (1) กรณีไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 48 ประกอบมาตรา 47 (2) ซึ่งมาตรา 46 วรรคสาม บัญญัติให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งไม่รับคำร้อง ไว้พิจารณา ดังนั้น ผู้ร้องไม่อาจยื่นคำร้องดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213
อย่างไรก็ตามในการพิจารณาคดีนี้ของคณะตุลาการ นายวิรุฬห์ แสงเทียน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ขอถอนตัวจากการพิจารณาคดี เนื่องจากเคยเป็นผู้พิพากษาหรือตุลาการในศาลอื่น ซึ่งเคยพิจารณาวินิจฉัยในคดีหรือประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคดีที่ขอให้วินิจฉัยนั้นมาก่อน และที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอนุญาต
ทั้งนี้นายวิโรจน์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย กับพวกถูกอัยการยื่นฟ้องในคดีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ปล่อยกู้สินเชื่อเครือกฤษดามหานคร โดยมิชอบ ร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยนายทักษิณเป็นจำเลยที่ 1 เหตุเกิดเมื่อปี 2555 และเมื่อวันที่ 26 ส.ค.58 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษา สั่งจำคุก วิโรจน์ พร้อมพวกรวม 4 คนๆ ละ 18 ปี พร้อมสั่งชดใช้เป็นเงิน 2.7 หมื่นล้านบาท แต่นายทักษิณหลบหนีคดี ศาลจึงได้ออกหมายจับติดตามตัวมาดำเนินคดีและจำหน่ายคดีเฉพาะส่วนของนายทักษิณไว้เป็นการชั่วคราว จนกระทั่งเมื่อ 30 ส.ค. 62 ศาลได้อ่านคำพิพากษาลับหลัง โดยมีคำพิพากษายกฟ้องนายทักษิณ .-สำนักข่าวไทย