ทำเนียบ 28 มี.ค.- รัฐบาลเดินหน้าผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมภาพยนตร์ระดับโลก ล่าสุด งาน FILMART 2025 ที่ฮ่องกงได้สร้างกระแสในหมู่นักสร้างหนังต่างชาติ โดยเฉพาะจากจีนและฮ่องกง ซึ่งมีผู้ผลิตภาพยนตร์รายใหญ่กว่า 20 ราย แสดงความประสงค์เข้ามาถ่ายทำในไทย คาดว่าจะก่อให้เกิดเม็ดเงินลงทุนรวมกว่า 2,000 ล้านบาท
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมภาพยนตร์ถือเป็นหนึ่งในภาคธุรกิจที่มีศักยภาพสูง และยังเป็นช่องทางสำคัญในการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยไปสู่สายตาชาวโลก ไม่ว่าจะเป็น แฟชั่น อาหาร ศิลปะ ดนตรี และสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อต่อยอดศักยภาพดังกล่าว รัฐบาล โดยกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เข้าร่วมงาน ตลาดภาพยนตร์ฮ่องกง FILMART 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 – 20 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ระดับนานาชาติ
จากการเข้าร่วมงานครั้งนี้ พบว่าผู้ผลิตภาพยนตร์ต่างชาติให้ความสนใจสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการขออนุญาตถ่ายทำในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก โดยมีนักลงทุนจากจีน ฮ่องกง และประเทศอื่น ๆ กว่า 700 ราย แสดงความสนใจเข้ามาถ่ายทำ ทั้งนี้ รัฐบาลไทยได้ออกมาตรการสนับสนุนที่สำคัญ เช่น Cash Rebate สูงสุด 30% เพื่อจูงใจให้ผู้สร้างหนังเลือกประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำ ซึ่งมาตรการดังกล่าวได้รับผลตอบรับอย่างดี ทำให้ผู้สร้างหนังระดับแนวหน้าตัดสินใจเลือกไทยเป็นโลเคชันถ่ายทำในช่วงปี 2568 – 2569
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และได้รับความสนใจจากต่างชาติในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน การที่กองถ่ายต่างชาติเข้ามาทำงานในประเทศไทยไม่เพียงช่วยสร้างรายได้ให้กับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ แต่ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคบริการ ทั้งโรงแรม การคมนาคม และร้านค้าในท้องถิ่น อีกทั้งยังช่วยกระจายรายได้และสร้างโอกาสการจ้างงานให้กับคนไทยในหลากหลายอาชีพ
“รัฐบาลมุ่งมั่นผลักดันอุตสาหกรรมภาพยนตร์ให้เป็นหนึ่งในเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และเชื่อมั่นว่าความร่วมมือกับผู้สร้างภาพยนตร์ระดับนานาชาติจะช่วยเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของภูมิภาคและของโลก ทั้งนี้ รัฐบาลขอเชิญชวนประชาชนร่วมกันต้อนรับกองถ่ายทำภาพยนตร์จากต่างประเทศ เพื่อแสดงศักยภาพของไทยในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการถ่ายทำภาพยนตร์ที่โดดเด่นระดับโลก” นางสาวศศิกานต์ กล่าว .314.-สำนักข่าวไทย
