“ปกรณ์​วุฒิ” ย้ำไม่แก้ญัตติเอาชื่อ “ทักษิณ” ออก ​แต่ยังคุยหาทางออก​​ได้

รัฐสภา 11 มี.ค.- “ปกรณ์​วุฒิ” ย้อน​ “วันนอร์” อย่าตีความข้อบังคับตามอำเภอใจตัวเอง​ แถมยังเคยยื่นญัตติระบุชื่อคนนอกเองมาแล้ว ถามกลับข้อบังคับการประชุมข้อไหนห้ามใส่ชื่อคนนอกในญัตติซักฟอก ยกประวัติศาสตร์ ในสภาเคย พูดถึง ​”ราเกซ​ สักเสนา” ย้ำไม่แก้ญัตติเอาชื่อ “ทักษิณ” ออก ​แต่ยังคุยกันได้ เพื่อหาทางออก​​


นายปกรณ์วุฒิ​ อุดมพิพัฒน์สกุล​ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่มฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน)​ มั่นใจจะเกิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่นอน แม้ขณะนี้จะยังมี ปัญหาเรื่องของการแก้ไขญัตติ โดยเชื่อว่า ประชาชนคงตั้งคำถามว่า รัฐบาลพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ ในระบบรัฐสภาหรือไม่ และส่วนตัวยังคงมั่นใจว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะยังคงเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

ส่วนที่ประธานสภาฯ ผู้แทนราษฎร​ขอความร่วมมือ เอาชื่อนายทักษิณ​ ชินวัตร​ อดีตนายกรัฐมนตรีออกจากญัตติ​ นายปกรณ์วุฒิ​ กล่าวว่าคำโต้แย้งชัดเจน​หลักฐานที่ปรากฏตามประวัติศาสตร์​ ซึ่งตนได้พูดคุยกับสส.อาวุโส เล่าให้ฟัง ย้อนกลับไปไม่เกิน 30 ปี ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งหนึ่ง เรื่องค่าเงินบาท ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ คนนั้นเขารู้สึกว่านายราเกรซ สักเสนาเหมือนอยู่ในสภาด้วยเพราะพูดถึงตลอดเวลา ดังนั้นประวัติศาสตร์แน่ชัดว่าข้อบังคับไม่ได้ห้ามอย่างเด็ดขาดในการพูดถึงบุคคลภายนอก ซึ่งตนเห็นว่าชัดเจน และคิดว่าผู้สื่อข่าวที่อยู่สายงานการเมืองมานานรับทราบอยู่แล้ว ว่าการพูดถึงชื่อบุคคลภายนอกในสภาฯเป็นเรื่องปกติมากๆ ดังนั้นขออย่าทำเรื่องปกติเป็นเรื่องไม่ปกติ การอ้างข้อบังคับมาบังคับและตีความตามใจตัวเองว่าบางครั้งก็ได้บางครั้งถ้าไม่อยากให้เอ่ยถึงบางคนก็ไม่ได้ เป็นบรรทัดฐานที่คนเป็นสส.ไม่ควรทำ


นายปกรณ์วุฒิ​ กล่าวอีกว่าตอน อภิปรายพาดพิงถึง นายราเกรซ ไม่มั่นใจว่ามีชื่ออยู่ในญัตติหรือไม่​ อย่างไรก็ตามต้องถามว่า ข้อบังคับข้อไหนที่ห้ามไม่ให้ใส่ชื่อบุคคลภายนอกในญัตติ ถ้าทางฝ่ายวิปรัฐบาลหรือท่านประธานบอกว่าข้อบังคับไม่ อนุญาตต้องถามว่าเป็นข้อบังคับข้อไหน ถ้าบอกว่าเป็นข้อบังคับที่ 69 ตนมองว่ามีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชัดเจนว่า สามารถพูดถึงบุคคลภายนอกได้และยังมีหลักฐานที่นายวันมูหะมัดนอร์​ มะทา​ เคยยื่นญัตติ ในสภาชุดที่ 25 และลงชื่อเอง ระบุชื่อบุคคลภายนอก​ชัดเจนโดยไม่ผิดข้อบังคับ ส่วนครั้งนี้มีข้อโต้แย้งว่าญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจกับญัตติอภิปรายทั่วไปไม่เหมือนกัน ต้องถามว่าข้อบังคับข้อไหนในข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีศักดิ์เท่ากับพ.ร.บ. ที่บอกว่าต่างกันซึ่งส่วนตัวมั่นใจว่าไม่มีแน่นอน จึงขออย่าตีความข้อบังคับตามอำเภอใจตัวเอง พออยากให้ถูกใจก็ตีความอย่างหนึ่งพอไม่ถูกใจก็ตีความอีกอย่างหนึ่ง

นายปกรณ์​วุฒิยังย้ำว่า​ ญัตติของฝ่ายค้าน ถูกต้องตามข้อบังคับและจะไม่แก้ แต่ถ้าใช้อำนาจหรือขอความร่วมมืออะไร ก็ต้องมาพูดคุยกัน เราไม่ใช่คนที่พูดคุยอะไรไม่ได้เลย ถ้าสุดท้ายต้องทำให้ราบรื่นลองมาพูดคุยก่อนว่าจะหาทางออกกันตรงไหน แต่ไม่ใช่การใช้อำนาจหรือพูดเกี่ยวกับเรื่องข้อบังคับที่ไม่ตรงไปตรงมา ตามอำเภอใจ

ทั้งนี้ จะทันการอภิปรายหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า อยากได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้หรือต้นสัปดาห์หน้า เพราะยังทัน และการคุยกันข้างหลังได้หารือเบื้องต้นแล้วว่าจะเป็นสัปดาห์ไหน ถ้าสรุปมาได้เพียงแค่ประธานสภาฯเซ็นชื่อและบรรจุญัตติก็ไม่ได้ใช้เวลาอะไรมาก​ อย่างไรก็ตาม ลองพูดคุยกันก่อนดีกว่าแล้วถ้าฝ่ายกฎหมายของสภายืนยันชัดเจน ประธานสภาน่าจะเห็นอะไรบางอย่างว่าสิ่งที่ทำถูกต้องตามข้อบังคับหรือไม่หรือประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาที่ปรากฏหลักฐานถูกต้องตามข้อบังคับหรือไม่ แล้วถ้าผลการตีความของฝ่ายกฎหมายออกมา ต้องรอดูท่าทีของประธานสภาอีกครั้งว่าจะว่าอย่างไร


เมื่อถามว่าถ้าต้องแก้ยังคงยืนยันจะอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวหรือไม่​ นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่ายืนยันแน่นอน เพราะยื่นไปแล้ว​ ขณะนี้ขั้นตอนส่งให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรเรียบร้อยแล้ว ประธานสภาตีความว่าข้อบกพร่องคือชื่อของนายทักษิณ​ ชินวัตร ดังนั้นการแก้ไข จะยื่น อภิปรายไม่ไว้วางใจนางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวและจุดนั้นมันจบไปแล้วเพราะเรายื่นไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าการยื่นเพียงคนเดียวจะไม่เกิดข้อเปรียบเทียบเรื่องคะแนนเสียง ในการลงมติ.-319 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ