กกต. 5 มี.ค.- กลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ ยื่นหลักฐานถึง กกต.ตรวจสอบการเลือก สว.ชุดที่ผ่านมา เข้าข่ายจัดตั้งจ้างคนลงสมัครเลือกกันเองในแต่ละกลุ่มอาชีพ พบ สว.ที่ได้คะแนนสูงส่วนใหญ่เป็นจังหวัดบ้านใหญ่พรรคการเมืองหนึ่ง
ตัวแทนกลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วย นายณัชปกร นามเมือง เครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญ นายชยพล ดโนทัย ไอลอว์ , นางจีรนุช เปรมชัยพร เครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญ, นายพงษ์ศักดิ์ จันทร์อ่อน We Watch, นายนันทวัฒน์ ศักดิ์สกุลคุณากร คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ได้ร่วมกันได้นำหลักฐาน ยื่นถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อให้ตรวจสอบการเลือกสมาชิกวุฒิสภาครั้งที่ผ่านมา หลังพบว่ามีข้อพิรุธหลายอย่าง ตั้งแต่เริ่มสมัคร
โดยเชื่อว่าการได้มาซึ่ง สว.มาจากการจัดตั้ง มีการจ้างวานให้ลงสมัครเลือกกันเองตั้งแต่ระดับตำบลจนถึงระดับประเทศ ซึ่งในรอบที่เลือกกันเองมีกลุ่ม 8 จังหวัด ที่มีคะแนนทิ้งห่างจากผู้สมัครส่วนใหญ่ผ่านเข้าสู่รอบเลือกไขว้เกือบทั้งจังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ พระนคร ศรีอยุธยา อ่างทอง สตูล เลย อำนาจเจริญ ยโสธร สุรินทร์ ซึ่งเป็นจังหวัดที่อยู่ภายใต้อิทธิพลทางการเมืองของพรรคการเมืองหนึ่ง โดยเห็นชัดว่าใครเป็นผู้ที่เข้ามาเพื่อโยนคะแนนให้กับคนอื่น
และในรอบเลือกไขว้ มีกลุ่มผู้สมัครที่ได้คะแนนนำจนล้นกระดานอย่างผิดปกติ และผู้สมัครกลุ่มนี้มีคะแนนเกาะกลุ่มกันมีผู้สมัครที่ได้คะแนนนำกลุ่มละ 6 คน เท่าๆกัน และจากข้อมูลของผู้สังเกตการณ์ พบว่ามีการลงคะแนนเป็นรูปแบบเดียวกัน เรียงหมายเลขเหมือนกันทั้งหมด และผู้สมัครที่ได้รับเลือกก็มาจากกลุ่ม 8 จังหวัด ที่มีผู้สมัครผ่านเข้าสู่รอบเลือกไขว้เกือบทั้งจังหวัด
นอกจากนี้ ยังมีการตั้งข้อสังเกตอีก ว่า สว.ที่ผ่านเข้าสู่รอบระดับประเทศมีการวางแผนและตระเตรียมกันมาก่อน ซึ่งกลุ่มนี้จะแต่งกายเหมือนกัน ใส่เสื้อสีเหลือง ซึ่งเป็นเสื้อใหม่ที่มีรอยพับ ใส่เสื้อคลุมไว้ และเดินทางมาด้วยรถคันเดียวกัน สิ่งเหล่านี้จะเป็นพยานหลักฐานที่ทำให้ตั้งข้อสงสัยว่ามีความผิดปกติ
และจากความผิดปกติดังกล่าวเห็นว่าองค์กรที่มีอำนาจและความรับผิดชอบในการสืบสวนสอบสวนความผิดปกติของการเลือก สว.ชุดใหม่ ก็คือ กกต. หาก กกต.เก็บข้อมูลความผิดปกติ ตั้งแต่วันเลือก และรีบตรวจสอบทันที สังคมก็จะได้รับทราบข้อเท็จจริงและยุติข้อกล่าวหาโดยไม่ต้องพึ่งพากรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ที่ต้องมาถกเถียงกันว่าจะรับพิจารณาและลงมติเป็นคดีพิเศษหรือไม่ โดยเชื่อว่า กกต. มีข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับกระบวนการเลือก สว. รวมถึงมีข้อมูลที่เกี่ยวกับความผิดปกติอยู่แล้วตั้งแต่แรก แต่หาก กกต.ไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง ประชาชนก็จะต้องพึ่งพาองค์กรอื่นเข้ามาทำแทน และหากองค์กรอื่นสามารถสืบสวนและเปิดเผยข้อเท็จจริงเหล่านี้ได้ ขณะที่ กกต.ก็อาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งถือว่าเป็นความผิดทางกฎหมายอีกด้วย .314.-สำนักข่าวไทย