“อังคณา” ห่วง “40 อุยกูร์” ถูกส่งกลับจีน วอนเปิดให้เยี่ยม

ฐสภา 28 ก.พ.- “อังคณา” ห่วง “40 อุยกูร์” ที่ถูกส่งกลับจีน วอนเปิดให้เยี่ยม เผยเคยส่งหนังสือถึงกมธ.วุฒิสภา ขอไปประเทศที่ 3 ไม่ขอกลับ ยันรัฐบาลพูดไม่จริง เพราะมีประเทศที่สามรับ พร้อมตั้งข้อสงสัย นายกฯ ไปจีนมีข้อตกลงอะไรหรือไม่ หลังกลับมามีการส่งกลับทันที ชี้มีเงื่อนงำ ปิดเทปดำที่กระจก – จนท.ตม.ที่ดูแลผูลี้ภัยถูกให้ออกจากสำนักงานวันส่งตัว


นางอังคณา นีลไพจิตร สมาชิกวุฒิสภาในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา แถลงย้ำว่ากรรมาธิการฯมีความกังวลและห่วงใยต่อการส่งชาวอุยกูร์ 40 คนกลับจีน ซึ่งที่ผ่านมา กรรมาธิการฯได้รับหนังสือจากชาวอุยกูร์ เมื่อปลายปี 2567 เพื่อส่งให้ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติ ที่ระบุว่าไม่ประสงค์จะกลับประเทศจีน ขณะที่กรรมาธิการฯ ทำหนังสือถึงสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อขอเข้าเยี่ยม 3 ครั้งแต่ถูกปฏิเสธการเข้าเยี่ยม และเชิญกรรมาธิการฯไปพบที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแจ้งวัฒนะแทน หลังจากนั้นกรรมาธิการฯ จึงเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเข้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงต่างประเทศ กระทรวงยุติธรรมเข้าให้ข้อมูล ซึ่งทุกหน่วยงานต่างยืนยันว่าจะไม่มีการส่งชาวอุยกูร์กลับประเทศต้นทาง

นางอังคณา กล่าวว่านอกจากนี้ตนได้โทรศัพท์คุยกับเลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติด้วยตัวเองก็ยืนยันว่าไม่มีคำสั่งให้ส่ง แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้กรรมาธิการฯ รู้สึกว่าการที่รัฐบาลแถลงว่าอุยกูร์สมัครใจกลับ เป็นการปกปิดข้อเท็จจริง และคิดว่าไม่มีใครเชื่อ เพราะสิ่งที่ได้รับมาตลอดไม่ได้เป็นแบบนั้น และตอนเป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเคยไปเยี่ยมผู้ลี้ภัยเหล่านี้หลายครั้ง ทุกคนแจ้งความจำนงอย่างเดียวคือ ต้องการไปตั้งรกรากถิ่นฐานในประเทศที่สาม และตอนที่หน่วยงานรัฐมาชี้แจง ก็มีหลายประเทศยินดีที่จะรับอุยกูรเหล่านี้ไปตั้งรกราก แต่สิ่งที่รัฐบาลแถลงว่าไม่มีประเทศไหนรับ ขอเรียนตรงตรงว่าไม่เป็นความจริง ตนจึงมีความห่วงใยและกังวลอย่างมากว่าสิ่งเหล่านี้จะกระทบต่อความน่าเชื่อของประเทศในเวทีโลกด้วย ทำให้เห็นว่าประเทศไทยไม่เป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับคนที่ต้องการลี้ภัย หรือเพื่อต้องการแสวงหาที่พักพิงต่อไป ก็หวังว่ารัฐบาลจะชี้แจงข้อเท็จจริง และนำความจริงมาเปิดเผย เพราะภาพที่เห็ ดูจากสีหน้าของชาวอุยกูร์ เหล่านั้นไม่ยินดีที่จะกลับไป และครอบครัวของคนเหล่านั้รก็อยู่ที่ปากีสถานอยู่แล้ว แต่ผู้ลี้ภัยกลุ่มนี้กลับถูกส่งไปจีน ซึ่งมีสถานที่เรียกว่าค่ายอบรม ที่ไม่สามารถเข้าไปเยี่ยมได้ จึงถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรง


สำหรับกรณีที่ มีภาพเลขาธิการสมช. ไปรอรับตามที่สถานทูตจีนโพสต์ภาพนั้น นางอังคณา กล่าวว่าสิ่งที่มาให้ข้อมูลกับกรรมาธิการฯเป็นการพูดไม่จริงทั้งหมดเพราะสิ่งที่เราได้รับมา ต่างจากที่หน่วยงานรัฐได้ข้อมูลและวานนี้ (27 ก.พ) ตนได้โทรศัพท์ไปประสานกับหลายหน่วยงาน ทั้งระดับรัฐมนตรีจำนวนมากแต่ไม่มีใครรับสายเลย และทราบว่าเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติไปรอรับที่จีนแล้ว และทราบว่าตั้งแต่เวลา 02.00 น. ของวันที่ 27 ก.พ. เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่เป็นผู้ดูแลผู้ลี้ภัย ถูกสั่งให้ออกนอกสำนักงาน และวันนี้ยังไม่รู้เลยว่าหน่วยงานใดที่เป็นคนที่มารับอุยกูร์ทั้ง 40 คนออกไป และการปิดเทปดำที่กระจก ทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้ว่าข้างในมีปฏิกิริยาอย่างไร หรือเกิดอะไรขึ้น ซึ่งโดยปกติจะเห็นว่าอุยกูร์ จะพยายามส่งเสียง มีส่งสัญญาณออกมา แต่การติดเทปดำเพื่อไม่ให้โอกาสคนที่อยู่ในรถได้ส่งเสียง หรือร้องขอความช่วยเหลือเลย ซึ่งตนคิดว่าเป็นสิ่งที่ไม่มีใครรับได้และ ตนไม่ทราบว่ารัฐบาลไทย ไปรับปากอะไรกับรัฐบาลจีนไว้ แต่ไม่ควรนำสิทธิของคนบริสุทธิ์มาแลกเปลี่ยน

นางอังคณา กล่าวด้วยว่าที่ผ่านมารัฐบาลพยายามมาโดยตลอดที่จะนำผู้ลี้ภัยกลุ่มนี้กลับ และคิดว่าการที่นายกรัฐมนตรีไปพบกับประธานาธิบดีของจีน น่าจะเป็นการส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง ซึ่งตนไม่ทราบว่ามีการพูดคุยอะไรกัน แต่คิดว่าน่าจะมีอะไรที่แลกเปลี่ยนเป็นการขอให้ส่งอุยกูร์ กลับ และเมื่อนายกรัฐมนตรีกลับมาคนเหล่านี้ก็ถูกส่งตัวกลับไป ซึ่งเท่าที่ทราบ มี 1 ใน 40 คน เป็นผู้ป่วยติดเตียงตอนอยู่ที่ประเทศไทย ซึ่งก็หวังว่าจะได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมและจะไม่ถูกส่งกลับไปด้วย

ส่วนการที่รัฐบาลยืนยันว่า แต่ว่าไม่มีประเทศที่สามรับอุยกูร์นั้น นางอังคณายืนยันว่า ในวันที่หน่วยงานต่างๆ มาชี้แจง ตนก็บอกไปแล้วว่ถ้าอยากจะรู้ว่าประเทศไหนพร้อมจะรับ เรายินดีที่จะบอก แต่ขออนุญาตไม่เปิดเผย และถ้ารัฐบาลมีเจตนาดีในการคุ้มครองบุคคลกลุ่มนี้ท างกรรมาธิการก็พร้อมที่จะติดต่อประเทศที่สาม เพื่อให้คนกลุ่มนี้ไปตั้งรกราก


พร้อมย้ำว่สการส่งกลับอุยกูร์ ส่งผลใหเมีแถลงการณ์จากหลายหน่วยงาน ทั้งจาก สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ และรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาก็ออกแถลงการณ์ โดยใช้คำค่อนข้างรุนแรงว่าเป็นการกระทำที่ร้ายแรงที่สุด และการที่คนกลุ่มนี้อยู่มา 11 ปี เป็นเหตุผลที่ไทยควรจะผ่อนปรน ให้บุคคลเหล่านี้ได้ออกมาอยู่ข้างนอก หรือ เดินทางไปประเทศที่สาม ไม่ใช่ส่งกลับประเทศต้นทาง ซึ่งตนคิดว่าน่าจะได้รับอันตรายและส่วนตัวไม่เชื่อว่าจะได้รับการดูแลอย่างดีหรือสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีอิสระมีศักดิ์ศรีเหมือนบุคคลทั่วไป และขณะนี้มีอุยกูร์ที่ลี้ภัยไปอยู่ในต่างประเทศทั่วโลก จึงกังวลว่าน่าจะมีการประท้วงหน่วยงานของรัฐบาลไทย

นางอังคณา กล่าวว่าตอนที่ตนเป็นกรรมการสิทธิ์ฯ เคยไปเยี่ยมบุคคลเหล่านี้หลายครั้งจำหน้าได้ ดังนั้น หากเปิดโอกาสให้ไปเยี่ยม และสามารถเปิดโอกาสให้พูดคุยได้โดยไม่มีการดักฟัง หรือสอดแนม ก็คิดว่าตรงนี้น่าจะเป็นประโยชน์ และตนก็เรียกร้อง ว่ารัฐบาลจีนควรเปิดโอกาส อนุญาตให้ผู้เชี่ยวชาญสหประชาชาติด้านการควบคุมตัวโดยพนักงานเข้าไปตรวจสอบ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศจีน ที่ ถูกควบคุมในสถานที่เรียกว่าค่ายอบรมการศึกษา จึงเรียกร้องว่ารัฐบาลจีนควรเชิญผู้เชี่ยวชาญสหประชาชาติเข้าไปในขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยก็ต้องใจกว้างที่จะให้ผู้เชี่ยวชาญสหประชาชาติ ไม่ว่าจะเป็นคณะทำงานการบังคับสูญหาย โดยไม่สมัครใจหรือคณะทำงานด้านการควบคุมตามอำเภอใจได้เข้ามาตรวจสอบสถานการณ์ ของผู้ที่ถูกกักในประเทศไทย และตรวจสอบสถานการณ์ของคนที่ถูกควบคุมตัวโดยพละการรวมถึงการบังคับสูญหายในประเทศไทยซึ่งเชื่อว่าการเข้ามาของหน่วยงานระดับประเทศและระดับโลก จะทำให้ไทยได้รับ ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงกระบวนการคุ้มครองสิทธิ์ ให้ได้มากขึ้น. 312 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

ตร.ตรัง เร่งขอศาลออกหมายจับ มือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ

ตรัง 12 พ.ค.- ตร.ตรัง เร่งขอศาลออกหมายจับมือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ขณะที่ญาตินิมนต์พระทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณกลับบ้าน วันที่ 12 พฤษภาคม 2568 เมื่อเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตรัง ลงพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 170 ไร่ จุดเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายยิงและเผานั่งยางผู้จัดการสวน เพื่อนร่วมงาน และลูกน้องรวม 3 ศพ และจุดพบศพปริศนาถูกเผาและฝังดินอีก 1 ศพ ในพื้นใกล้กัน รวมทั้งหมดเป็น 4 ศพ โดยเป็นการลงพื้นที่ซ้ำ เพื่อตรวจหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในบริเวณที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะบริเวณขนำจุดยิงผู้ตายทั้ง 3 ราย ก่อนนำไปจุดไฟเผา โดยตำรวจพบหัวกระสุนปืนขนาด 11 มม.เพิ่มเติมอีก 1 หัว แต่ทั้งนี้ พบอุปสรรคสำคัญในการทำงานเก็บพยานหลักฐาน เนื่องจากในพื้นที่ได้เกิดฝนตกลงมาเป็นระยะ ๆ ทำให้ร่องรอยพยานหลักฐานบางอย่างถูกทำลาย ซึ่งขณะนี้ทำให้ทราบว่าขณะเกิดเหตุมีการใช้อาวุธปืนหลายขนาด เพราะพบหัวกระสุนปืนในที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดียังคงกระจายกำลังกันลงพื้นที่เพื่อสืบสวนหาข่าวในพื้นที่ อ.สิเกา อ.วังวิเศษ จ.ตรัง และต.ทรายขาว […]

ออกหมายจับ สจ.คนดังพร้อมพวก รุมทำร้าย ตร.คาหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 12 พ.ค.- ศาลจังหวัดสงขลาออกหมายจับ สจ.คนดัง พร้อมพวกรวม 7 คน หลังก่อเหตุรุมทำร้าย ‘ด.ต.’ คาหน่วยเลือกตั้ง จ.สงขลา ขณะที่ ผบ.ตร.สั่งเอาผิด พวกทำตัวเหนือกฎหมาย จากกรณีสมาชิกสภา อบจ.สงขลา บุตรชาย สส.สงขลา ก่อเหตุสั่งให้ลูกน้อง 6 คน รุมทำร้ายร่างกาย ด.ต.นิสาธิต สังกัด ตชด.43 ปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้ง บริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้งที่ 7 หมู่ 2 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลาหลัง ส.อบจ.คนดังกล่าว เข้ามาใช้สิทธิที่หน่วย และให้ลูกน้องถ่ายรูป ซึ่งผิดกฎหมายเลือกตั้ง ด.ต.นิสาธิต จึงได้เข้าไปตักเตือน สร้างความไม่พอใจ ก่อนขับรถออกจากหน่วยเลือกตั้ง จากนั้นมีกลุ่มชายชกรรจ์ 5-7 คน เข้ามาที่หน่วยเลือกตั้ง และรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต บาดเจ็บ ต่อหน้าต่อตาชาวบ้านที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง อ้างว่าลูกพี่ใหญ่ ไม่มีใครกล้าทำอะไร ล่าสุด ศาลจังหวัดสงขลาอนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งหมด 7 […]

เพลิงไหม้มาราธอน โหมโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ยังคุมไม่ได้

12 พ.ค.- ยังไม่ดับ! ไฟไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ย่านลาดกระบัง ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน ยังไม่สามารถลงไปได้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ รุดลงพื้นที่ สั่งอพยพชาวบ้านใกล้เคียง เร่งช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ยืนยันสถานการณ์จะคลี่คลายภายในวันนี้ เพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ซอยฉลองกรุง 55 แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ลุกโหมมาตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ ก่อนเจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ ตลอดทั้งคืน ยังมีไฟปะทุออกจากชั้นใต้ดินของโครงสร้างอาคาร     ล่าสุดเช้าวันนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมทีมวิศวกรผู้ เชี่ยวชาญด้านอาคารโรงงานอุตสาหกรรม ตำรวจ และทีมกู้ภัย เร่งเข้าตรวจสอบความเสียหายรอบพื้นที่โรงงาน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เผยว่า มอบหมายให้ ดร.สุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา(ดร.จอร์น) ประธานสภากรุงเทพมหานคร และนายธราพงษ์ เพ็ชรคง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตลาดกระบัง ลงพื้นที่ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุยังจุดเกิดเหตุ ส่วนแนวทางปฏิบัติการ เตรียมใช้โฟมประกอบน้ำ ฉีดเข้าจุดที่ยังคงมีเพลิงปะทุคาดว่าจะควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในวงจำกัดได้ภายในช่วงเที่ยงวันนี้   ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระบุว่า ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน แต่ยังไม่สามารถลงไปได้ เนื่องจากมีกลุ่มควันและความร้อนสูง จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ หน้ากากออกซิเจน […]

กทม.ประกาศยุติค้นหาผู้สูญหายใต้ซากตึก สตง.

กรุงเทพฯ 12 พ.ค. – กทม. ประกาศยุติการค้นหาผู้สูญหายใต้ซากตึก สตง. ด้านรองผู้ว่าฯ กทม. สั่งลดระดับกองปูนซากตึกข้างศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง จาก 9 เมตร เหลือ 6 เมตร ป้องกันอันตรายและง่ายต่อการค้นหาหากมีชิ้นส่วนที่เหลือติดค้างอยู่ เมื่อเวลา 10.30 น.ที่ผ่านมา (12 พ.ค. 68) ที่กองอำนวยกาารร่วม สน.บางซื่อ ห้างสรรพสินค้าเจเจมอลล์ ถ.กำแพงเพชร 2 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประกาศยุติค้นหาผู้สูญหายจากเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม รศ.ทวิดา เปิดเผยว่า วันนี้การค้นหาผู้ติดค้างภายในซากอาคารดังกล่าวยุติทั้งหมดแล้ว และเวลา 17.00 น. วันนี้ ทีมสุนัข K9 จะเข้าสำรวจความชัดเจนบริเวณกองซากวัสดุอาคาร สตง. หลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อให้เเน่ใจว่าจะไม่มีชิ้นส่วนมนุษย์หลงเหลืออยู่แล้ว ส่วนด้านเครื่องจักรในพื้นที่จะยังคงทำงานอยู่ เนื่องจากจะมีการขนซากเศษปูนที่อยู่ตรงโซน A ทั้งหมด ย้ายออกไปหลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง โดยในเวลา […]