“อังคณา” ห่วง “40 อุยกูร์” ถูกส่งกลับจีน วอนเปิดให้เยี่ยม

ฐสภา 28 ก.พ.- “อังคณา” ห่วง “40 อุยกูร์” ที่ถูกส่งกลับจีน วอนเปิดให้เยี่ยม เผยเคยส่งหนังสือถึงกมธ.วุฒิสภา ขอไปประเทศที่ 3 ไม่ขอกลับ ยันรัฐบาลพูดไม่จริง เพราะมีประเทศที่สามรับ พร้อมตั้งข้อสงสัย นายกฯ ไปจีนมีข้อตกลงอะไรหรือไม่ หลังกลับมามีการส่งกลับทันที ชี้มีเงื่อนงำ ปิดเทปดำที่กระจก – จนท.ตม.ที่ดูแลผูลี้ภัยถูกให้ออกจากสำนักงานวันส่งตัว


นางอังคณา นีลไพจิตร สมาชิกวุฒิสภาในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา แถลงย้ำว่ากรรมาธิการฯมีความกังวลและห่วงใยต่อการส่งชาวอุยกูร์ 40 คนกลับจีน ซึ่งที่ผ่านมา กรรมาธิการฯได้รับหนังสือจากชาวอุยกูร์ เมื่อปลายปี 2567 เพื่อส่งให้ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติ ที่ระบุว่าไม่ประสงค์จะกลับประเทศจีน ขณะที่กรรมาธิการฯ ทำหนังสือถึงสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อขอเข้าเยี่ยม 3 ครั้งแต่ถูกปฏิเสธการเข้าเยี่ยม และเชิญกรรมาธิการฯไปพบที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแจ้งวัฒนะแทน หลังจากนั้นกรรมาธิการฯ จึงเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเข้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงต่างประเทศ กระทรวงยุติธรรมเข้าให้ข้อมูล ซึ่งทุกหน่วยงานต่างยืนยันว่าจะไม่มีการส่งชาวอุยกูร์กลับประเทศต้นทาง

นางอังคณา กล่าวว่านอกจากนี้ตนได้โทรศัพท์คุยกับเลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติด้วยตัวเองก็ยืนยันว่าไม่มีคำสั่งให้ส่ง แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้กรรมาธิการฯ รู้สึกว่าการที่รัฐบาลแถลงว่าอุยกูร์สมัครใจกลับ เป็นการปกปิดข้อเท็จจริง และคิดว่าไม่มีใครเชื่อ เพราะสิ่งที่ได้รับมาตลอดไม่ได้เป็นแบบนั้น และตอนเป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเคยไปเยี่ยมผู้ลี้ภัยเหล่านี้หลายครั้ง ทุกคนแจ้งความจำนงอย่างเดียวคือ ต้องการไปตั้งรกรากถิ่นฐานในประเทศที่สาม และตอนที่หน่วยงานรัฐมาชี้แจง ก็มีหลายประเทศยินดีที่จะรับอุยกูรเหล่านี้ไปตั้งรกราก แต่สิ่งที่รัฐบาลแถลงว่าไม่มีประเทศไหนรับ ขอเรียนตรงตรงว่าไม่เป็นความจริง ตนจึงมีความห่วงใยและกังวลอย่างมากว่าสิ่งเหล่านี้จะกระทบต่อความน่าเชื่อของประเทศในเวทีโลกด้วย ทำให้เห็นว่าประเทศไทยไม่เป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับคนที่ต้องการลี้ภัย หรือเพื่อต้องการแสวงหาที่พักพิงต่อไป ก็หวังว่ารัฐบาลจะชี้แจงข้อเท็จจริง และนำความจริงมาเปิดเผย เพราะภาพที่เห็ ดูจากสีหน้าของชาวอุยกูร์ เหล่านั้นไม่ยินดีที่จะกลับไป และครอบครัวของคนเหล่านั้รก็อยู่ที่ปากีสถานอยู่แล้ว แต่ผู้ลี้ภัยกลุ่มนี้กลับถูกส่งไปจีน ซึ่งมีสถานที่เรียกว่าค่ายอบรม ที่ไม่สามารถเข้าไปเยี่ยมได้ จึงถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรง


สำหรับกรณีที่ มีภาพเลขาธิการสมช. ไปรอรับตามที่สถานทูตจีนโพสต์ภาพนั้น นางอังคณา กล่าวว่าสิ่งที่มาให้ข้อมูลกับกรรมาธิการฯเป็นการพูดไม่จริงทั้งหมดเพราะสิ่งที่เราได้รับมา ต่างจากที่หน่วยงานรัฐได้ข้อมูลและวานนี้ (27 ก.พ) ตนได้โทรศัพท์ไปประสานกับหลายหน่วยงาน ทั้งระดับรัฐมนตรีจำนวนมากแต่ไม่มีใครรับสายเลย และทราบว่าเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติไปรอรับที่จีนแล้ว และทราบว่าตั้งแต่เวลา 02.00 น. ของวันที่ 27 ก.พ. เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่เป็นผู้ดูแลผู้ลี้ภัย ถูกสั่งให้ออกนอกสำนักงาน และวันนี้ยังไม่รู้เลยว่าหน่วยงานใดที่เป็นคนที่มารับอุยกูร์ทั้ง 40 คนออกไป และการปิดเทปดำที่กระจก ทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้ว่าข้างในมีปฏิกิริยาอย่างไร หรือเกิดอะไรขึ้น ซึ่งโดยปกติจะเห็นว่าอุยกูร์ จะพยายามส่งเสียง มีส่งสัญญาณออกมา แต่การติดเทปดำเพื่อไม่ให้โอกาสคนที่อยู่ในรถได้ส่งเสียง หรือร้องขอความช่วยเหลือเลย ซึ่งตนคิดว่าเป็นสิ่งที่ไม่มีใครรับได้และ ตนไม่ทราบว่ารัฐบาลไทย ไปรับปากอะไรกับรัฐบาลจีนไว้ แต่ไม่ควรนำสิทธิของคนบริสุทธิ์มาแลกเปลี่ยน

นางอังคณา กล่าวด้วยว่าที่ผ่านมารัฐบาลพยายามมาโดยตลอดที่จะนำผู้ลี้ภัยกลุ่มนี้กลับ และคิดว่าการที่นายกรัฐมนตรีไปพบกับประธานาธิบดีของจีน น่าจะเป็นการส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง ซึ่งตนไม่ทราบว่ามีการพูดคุยอะไรกัน แต่คิดว่าน่าจะมีอะไรที่แลกเปลี่ยนเป็นการขอให้ส่งอุยกูร์ กลับ และเมื่อนายกรัฐมนตรีกลับมาคนเหล่านี้ก็ถูกส่งตัวกลับไป ซึ่งเท่าที่ทราบ มี 1 ใน 40 คน เป็นผู้ป่วยติดเตียงตอนอยู่ที่ประเทศไทย ซึ่งก็หวังว่าจะได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมและจะไม่ถูกส่งกลับไปด้วย

ส่วนการที่รัฐบาลยืนยันว่า แต่ว่าไม่มีประเทศที่สามรับอุยกูร์นั้น นางอังคณายืนยันว่า ในวันที่หน่วยงานต่างๆ มาชี้แจง ตนก็บอกไปแล้วว่ถ้าอยากจะรู้ว่าประเทศไหนพร้อมจะรับ เรายินดีที่จะบอก แต่ขออนุญาตไม่เปิดเผย และถ้ารัฐบาลมีเจตนาดีในการคุ้มครองบุคคลกลุ่มนี้ท างกรรมาธิการก็พร้อมที่จะติดต่อประเทศที่สาม เพื่อให้คนกลุ่มนี้ไปตั้งรกราก


พร้อมย้ำว่สการส่งกลับอุยกูร์ ส่งผลใหเมีแถลงการณ์จากหลายหน่วยงาน ทั้งจาก สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ และรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาก็ออกแถลงการณ์ โดยใช้คำค่อนข้างรุนแรงว่าเป็นการกระทำที่ร้ายแรงที่สุด และการที่คนกลุ่มนี้อยู่มา 11 ปี เป็นเหตุผลที่ไทยควรจะผ่อนปรน ให้บุคคลเหล่านี้ได้ออกมาอยู่ข้างนอก หรือ เดินทางไปประเทศที่สาม ไม่ใช่ส่งกลับประเทศต้นทาง ซึ่งตนคิดว่าน่าจะได้รับอันตรายและส่วนตัวไม่เชื่อว่าจะได้รับการดูแลอย่างดีหรือสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีอิสระมีศักดิ์ศรีเหมือนบุคคลทั่วไป และขณะนี้มีอุยกูร์ที่ลี้ภัยไปอยู่ในต่างประเทศทั่วโลก จึงกังวลว่าน่าจะมีการประท้วงหน่วยงานของรัฐบาลไทย

นางอังคณา กล่าวว่าตอนที่ตนเป็นกรรมการสิทธิ์ฯ เคยไปเยี่ยมบุคคลเหล่านี้หลายครั้งจำหน้าได้ ดังนั้น หากเปิดโอกาสให้ไปเยี่ยม และสามารถเปิดโอกาสให้พูดคุยได้โดยไม่มีการดักฟัง หรือสอดแนม ก็คิดว่าตรงนี้น่าจะเป็นประโยชน์ และตนก็เรียกร้อง ว่ารัฐบาลจีนควรเปิดโอกาส อนุญาตให้ผู้เชี่ยวชาญสหประชาชาติด้านการควบคุมตัวโดยพนักงานเข้าไปตรวจสอบ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศจีน ที่ ถูกควบคุมในสถานที่เรียกว่าค่ายอบรมการศึกษา จึงเรียกร้องว่ารัฐบาลจีนควรเชิญผู้เชี่ยวชาญสหประชาชาติเข้าไปในขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยก็ต้องใจกว้างที่จะให้ผู้เชี่ยวชาญสหประชาชาติ ไม่ว่าจะเป็นคณะทำงานการบังคับสูญหาย โดยไม่สมัครใจหรือคณะทำงานด้านการควบคุมตามอำเภอใจได้เข้ามาตรวจสอบสถานการณ์ ของผู้ที่ถูกกักในประเทศไทย และตรวจสอบสถานการณ์ของคนที่ถูกควบคุมตัวโดยพละการรวมถึงการบังคับสูญหายในประเทศไทยซึ่งเชื่อว่าการเข้ามาของหน่วยงานระดับประเทศและระดับโลก จะทำให้ไทยได้รับ ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงกระบวนการคุ้มครองสิทธิ์ ให้ได้มากขึ้น. 312 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจ ลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร ด้านบริษัท 9PK นำเอกสารชี้แจง พร้อมขอให้บริษัทจีนช่วยอนุมัติเงินมาจ่ายให้กลุ่มผู้รับเหมาก่อน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ปิดล้อมจับชายวัย 43 ยิงเพื่อนบ้าน-ตร.เจ็บ 4

ตำรวจปิดล้อมนานถึง 11 ชั่วโมง จับชายวัย 43 ปี ใช้ปืนยิงเพื่อนบ้านและตำรวจที่เข้าระงับเหตุ บาดเจ็บรวม 4 ราย หลังโมโหเพื่อนบ้านติดกล้องวงจรปิดหันส่องไปทางบ้านผู้ก่อเหตุ ยิงแก๊สน้ำตา-ญาติเกลี้ยกล่อม ยังไม่เป็นผล

แผ่นดินไหวขนาด 5.8 ในไต้หวัน-ไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันรายงานวันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดด 5.8 ที่เทศมณฑลอี้หลาน (Yilan) ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทห่างไกลทางตจะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เปิดงาน “Maha Songkran World Water Festival 2025”

นายกรัฐมนตรี เปิดงาน “Maha Songkran World Water Festival 2025” ณ ท้องสนามหลวง ฉลองปีใหม่ไทย จัดเต็มปรากฏการณ์สาดความสุขครั้งยิ่งใหญ่ หนุนมรดกไทยสู่ World Event ระดับโลก

สงกรานต์เชียงใหม่วันแรกชุ่มฉ่ำทั่วทั้งเมือง

สงกรานต์ จ.เชียงใหม่ วันแรกคึกคัก ชาวเชียงใหม่-นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ แห่ร่วมกิจกรรม เล่นสาดน้ำชุ่มฉ่ำทั่วทั้งเมืองตลอดวันจนถึงช่วงค่ำ

เคลื่อนย้ายชิ้นส่วนผู้เสียชีวิตเหตุตึกถล่ม ส่งตรวจดีเอ็นเอ

เจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายชิ้นส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ส่งตรวจเทียบเคียงดีเอ็นเอญาติ เพื่อพิสูจน์ทราบอัตลักษณ์บุคคล

เร่งค้นหาผู้ประสบภัยตึกถล่ม ยังไม่พบผู้ติดค้างโซนบี

เร่งค้นหาผู้ประสบภัยตึกถล่มต่อเนื่อง ยังไม่พบผู้ติดค้างเพิ่มเติมที่โซนบี หลังพบแสงไฟ ขณะที่ DSI เชิญบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 เข้าสังเกตการณ์การเก็บหลักฐานเพิ่ม