“ภูมิธรรม” สั่ง ศปช. เร่งสำรวจความเสียหายจากฝนตก-คลื่นซัดฝั่ง

ทำเนียบ 13 ม.ค.-“ภูมิธรรม” สั่ง ศปช. เร่งสำรวจความเสียหายจากฝนตก และคลื่นซัดฝั่งภาคใต้ พร้อมสั่งเตรียมรับมือฝนตกเพิ่มอีก 15-17 ม.ค.68 ส่วนเหนือ-อีสาน อากาศหนาวยาวถึงปลายเดือนนี้ แนะผู้ประสบอุทกภัย เร่งยื่นเอกสารรับเงินครัวเรือน 9,000 บาทให้เสร็จภายใน 15 ม.ค.นี้

นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. สั่งการทุกหน่วยเร่งสำรวจความเสียหายบ้านเรือนประชาชนและเส้นทางคมนาคมเบื้องต้น หลังได้รับผลกระทบจากฝนตก คลื่นลมแรงในพื้นที่ภาคใต้ และส่งผลให้เกิดอุทกภัยในพื้นที่ 12 อำเภอของจังหวัดสุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราชและสงขลา รวมทั้งกำชับให้ความช่วยเหลือด้านอื่นๆ ตามระเบียบราชการต่อไป พร้อมเฝ้าระวังฝนตกเพิ่มขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ช่วงวันที่ 15-17 มกราคม 2568 จากอิทธิพลลมหนาวมีกำลังปานกลาง


“ผอ.ศปช. เป็นห่วงประชาชน โดยเฉพาะในภาคใต้ที่ต้องรับมือฝนตก ลมแรง แม้เป็นฝนตกตามฤดูกาล แต่ทุกภาคส่วน ก็พร้อมเข้าพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันที โดยวันนี้ (13 ม.ค.) กรมอุตุนิยมวิทยา ตรวจพบกลุ่มฝนเล็กน้อยบริเวณจังหวัดสงขลาและพัทลุง และวันที่ 15 – 17 มกราคมนี้ ฝนตกในภาคใต้เกณฑ์ปานกลางไม่รุนแรงจนทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรง ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป จากนั้นวันที่ 19 – 21 มกราคม ยังมีฝนหลงเหลือบ้าง” น.ส.ศศิกานต์ กล่าว

สำหรับพื้นที่ตอนบนของประเทศไทย วันนี้ (13 ม.ค. 68) มวลอากาศเย็นกำลังแรงยังแผ่ลงมาปกคลุม ทำให้ลมหนาวยังพัดแรง ภาคเหนืออุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ภาคอีสานลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อากาศหนาวหลายพื้นที่ หนาวจัดยังคงเกิดขึ้นได้บริเวณยอดภู ยอดดอย ต้องเฝ้าระวังอากาศที่เปลี่ยนแปลง ระวังลมแรงและอากาศหนาวเย็น และวันนี้น่าจะเป็นวันที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุดในรอบปีนี้ และตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (14 ม.ค.68) หลายพื้นที่อุณหภูมิจะสูงขึ้น ประชาชนยังต้องดูแลสุขภาพ ส่วน 16-18 มกราคม ยังมีมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงเสริมลงมาอีกครั้ง ทำให้ทางตอนบนยังมีอากาศเย็นถึงหนาว ฤดูหนาวยังไม่สิ้นสุด ยังจะได้สัมผัสอากาศหนาวต่อเนื่อง ถึงปลายเดือนมกราคมนี้ โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน


รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ศปช. รับทราบรายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมขณะนี้เข้าสู่โหมดการช่วยเหลือและสนับสนุนช่วงหน้าแล้ง กำชับกรมอุตุนิยมวิทยา กรมชลประทาน และ สทนช. ร่วมวางแผนการบริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ เพื่อให้ประชาชนมีน้ำเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค และเกษตรกรมีน้ำเพื่อการเกษตรตลอดช่วงหน้าแล้ง

ส่วนการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ครัวเรือนละ 9,000 บาท ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.67 รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ธนาคารออมสินได้โอนเงินสำเร็จแล้ว 8 ครั้ง จำนวน 416,793 ครัวเรือน เป็นเงิน 3,751,137,000 บาท ส่วนวันนี้ (13 ม.ค.) และวันพรุ่งนี้ (14 ม.ค.) จะโอนเงินถึงมือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดยะลาและพัทลุงอีก 50,391 ครัวเรือน ผอ.ศปช. ขอให้ผู้ประสบอุทกภัยที่ยังไม่ได้ยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือ ให้รีบลงทะเบียนให้เสร็จภายในวันที่ 15 มกราคมนี้ แบบ Online ผ่านเว็บไซต์ https://flood67.disaster.go.th/ หรือไปที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ เพื่อ ปภ. จะเร่งตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลให้เป็นไปตามขั้นตอนและหลักเกณฑ์ที่กำหนด จะได้โอนเงินให้ประชาชนเร็วที่สุด.-315.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

เริ่มใช้เครื่องจักรหนักเปิดซากอาคาร สตง.ถล่ม

102 ชั่วโมงแล้ว สำหรับปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุอาคาร สตง.ถล่ม หน่วยกู้ภัยจากนานาชาติให้ความหวังว่ายังมีโอกาสเจอผู้รอดชีวิต ทำให้การค้นหาวันนี้ต้องแข่งกับเวลาอย่างเต็มที่

ทองไทยนิวไฮต่อเนื่อง ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 550 บาท

ทองคำไทยผันผวนหนัก ปรับเปลี่ยน 18 ครั้ง ก่อนปิดตลาดปรับเพิ่ม 550 บาท ระหว่างวันขึ้นไปแตะนิวไฮ ทองคำแท่งขายออก 50,700 บาท ทองรูปพรรณขายออก 51,500 บาท ขึ้นไปต่อเนื่อง