“ธรรมนัส” ปัดปม 20 สส.ถูกขับไม่เกี่ยวดีลลับหยุดสอบภูนับดาว

รัฐสภา 19 ธ.ค.- “ร.อ.ธรรมนัส” หอบ สส.แถลงเดินหน้าหนุนรัฐบาล คุยยังมี สส.-รมต.หลายคนพร้อมร่วมอุดมการณ์ แต่ติดขัดข้อกม. บอกไม่ใช่พรรคอะไหล่ มองพรรคไหน ค้านบ่อย ควรออกไป พร้อมปัดปม 20 สส.ถูกขับไม่เกี่ยวดีลลับหยุดสอบภูนับดาว ลั่น “ไม่ทำใครก่อน แต่ใครทำ ผมเอาคืนนะ”


ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แกนนำพรรคกล้าธรรม พร้อม น.ส.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม พร้อม สส.พรรคทั้ง 24 คนแถลงร่วมกัน

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่าวันนี้ถือเป็นเรื่องดียามดี และพวกเราตั้งกลุ่มว่า “มาตามนัด” ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่การรวมตัวกันตั้งรัฐบาล และนายกรัฐมนตรีคนใหม่มาบริหารบ้านเมือง พวกเราประกาศชัดเจนว่าเราสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งในระยะเวลาที่ผ่านมาการเข้าเป็นสมาชิกในสังกัดใหม่ไม่สามารถทำได้ จนกระทั่งพรรคพลังประชารัฐมีมติชัดเจนขับพวกตน 20 ชีวิตคนออกจากพรรคพลังประชารัฐ และเมื่อวานทั้ง 20 คนพร้อมใจกันสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคกล้าธรรมซึ่งมี น.ส.นฤมล เป็นหัวหน้าพรรค และเมื่อรวมกับสมาชิกเดิมแล้วขณะนี้มีจำนวน สส. 24 คนแต่ก่อนที่จะลงมา ก็มีหลายคนที่ต้องการมาร่วมอุดมการณ์ แต่ยังติดขั้นตอนทางกฎหมาย ซึ่งตัวเลขคร่าวคร่าว ที่คุยกันไว้มีมากกว่า 30 คน เมื่อเวลาสุกงอมมาถึงก็คงจะเปิดตัวกัน และจากนี้ทั้ง 24 คนเป็นแนวร่วมกับรัฐบาลต่อไป


ส่วนการต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีในอนาคตนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่าไม่ใช่สาระสำคัญ แต่ ขณะนี้สาระสำคัญคือจะทำงานให้ประชาชนหลุดพ้นจากความเดือดร้อนอย่างไร ซึ่ง สส. 24 คนก็จะนำเสนอผ่านสภา และขอเรียนว่าพรรคกล้าธรรมไม่ใช่เพิ่งเกิด สมาชิกหลายคนก็เป็น สส.สมัยที่ 2 แล้วจะไม่ได้ทำอะไรเก่าๆ ยืนยัน เราจะนำพา สิ่งที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน พร้อมน้ำตนเลยจุดนั้นมาแล้วและไม่ได้เกิดความอยากที่จะเป็นอะไร และวันนี้เราส่งตัวแทนมาเป็นรัฐมนตรีไม่ว่าจะเป็น น.ส.นฤมล และน้องชายของตน ต่างก็ทำงานในกระทรวงเกษตรและเมื่อวานก็ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชที่มีปัญหาน้ำท่วม ไปดูแลความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนและน.ส.นฤมลได้สั่งการ ดูแลพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน ดังนั้นส่วนตนจะเป็นนั้นเป็นนี่ ถ้าจะต้องเป็นอะไรก็เป็น

สำหรับกระแสข่าวเรื่องดีลลับนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่าตั้งแต่ออกมาจากพรรคพลังประชารัฐจนถึงวันนี้ ไม่ได้คุยกับใคร รับรองว่าไม่มีดีลอะไร และตนยืนยันตลอดเวลา ในคำพูดของตนว่าจะออกมาโดยสันติ ไม่ทะเลาะกับใคร และจะทำงานที่สร้างสรรค์มากกว่าทำลายซึ่งกันและกัน ท่าเรื่องเดียว เราจะทำการเมืองแบบใหม่ ไม่ใช่การเมืองแบบเก่า ๆ

เมื่อถามย้ำถึงกระแสดีลลับเลิกสอบเรื่องภูนับดาวลุกล้ำที่ดิน ส.ป.ก. เพื่อแลกกับการขับออกจากพรรคพลังประชาลับหรือไม่นั้น ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันไม่เกี่ยวกับดีลลับใดๆ และเรื่อง ส.ป.ก. ถ้าเราจำประเด็นนี้ได้คนที่เปิดเรื่องนี้ คือ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นคนเปิดเรื่องภูนับดาว เราจำเป็นต้องตรวจสอบ การเข้าครอบครองที่ดินไม่ถูกต้อง และเรื่องการตรวจสอบขั้นตอนการเงินไม่ใช่หน้าที่ของกระทรวงเกษตรฯ เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. และ ป.ป.ง. แต่ถามว่าเส้นทางการเงินช่วงที่ตนเป็นรัฐมนตรีทราบหรือยัง ก็ทราบคร่าวๆ แต่ไม่ใช่หน้าที่ของพวกเรา การตรวจสอบเส้นทางเงินมีคณะกรรมการร่วมผสมผสานกันหลายหน่วยงาน ดังนั้นการทำงานไม่สามารถที่จะบังคับใครให้ทำได้เลย


เมื่อถามว่า สส.ในพลังประชารัฐเข้ามาติดต่อหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า พวกเรา กับ สส.พลังประชารัฐ เราไม่แตกแยก ยังคุยกันปกติ ยังเป็นพี่เป็นน้องกัน

สำหรับกรณีที่คนไทยบน LINE TODAY เลือกโหวตให้ ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็น “บุคคลทางการเมืองแห่งปี 2567” ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เราเป็นนักการเมืองเป้าหมายสำคัญ คือ เราเข้าใจคนไทยเข้าใจพี่น้องประชาชน และทำหน้าที่ในฐานะการเมืองให้ดีที่สุด ต้องขอบคุณที่ไม่น้องคนไทยร่วมกันโหวต ก็จะทำให้ดีที่สุด

ส่วนที่ถูกมองว่าเป็นพรรคอะไหล่ของรัฐบาลนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ณ เวลานี้ เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล หากพรรคใหญ่พรรคแกนนำมีนโยบายอะไรที่เกิดกับพี่น้องประชาชน เราก็ไม่ได้คัดค้าน ไม่ใช่มีอะไรก็ค้านตลอด ตนไม่ชอบหลอกคนอื่น และเห็นว่าทุกครั้งที่มีวาระสำคัญที่จะต้องลงมติ เราควรคุยกันก่อน พรรคไหนไม่เห็นด้วยบ่อยๆ ก็ควรจะแยกตัวออกไป เรามีหัวหน้าพรรคเป็นสุภาพสตรี พร้อมคุยกับทุกฝ่าย ส่วนการปรับโครงสร้างพรรคนใหม่นั้น น.ส.นฤมล หัวหน้าพรรค เป็นคนกำหนดนโยบายเรื่องพรรค ตนมอบไม้ให้น.ส.นฤมลดูแล

ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวถึงเป้าหมายการเลือกตั้งในสมัยหน้าว่า ตอนเลือกตั้งปี 2562 ตนกับ น.ส.นฤมลเป็นแกนนำในการปราศรัยทั่วประเทศ ก็มั่นว่าทำได้และมั่นใจว่าเราแยกมาทำโดยที่ไม่ต้องฟังเสียงอะไรมากมาย ไม่ผ่านขั้นตอนมากมาย และคิดว่าจาก สส. 24คน ต้องเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว โดยจังหวัดเป้าหมายที่จะได้เพิ่ม นราธิวาส สุราษฎร์ธานี ราชบุรี กำแพงเพชร และอีกหลายจังหวัดและมีพี่น้อง ที่เป็นรัฐมนตรีจะมาร่วมกับตน ขณะนี้คนที่ได้คะแนน 20,000 อัป มาอยู่กับตนหมดแล้ว

เมื่อถามว่ากลัวหรือไม่ว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะเอาคืน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เราเป็นนักการเมือง เราไม่สร้างศัตรู ออกมาก็ออกมา และสไตล์ตน ไม่ทำใครก่อน แต่ใครทำตน เอาคืนนะ อันนี้ชัดเจน หมายความว่าในเวทีเลือกตั้ง เราต้องสู้กันทุกรูปแบบ ให้ลูกพรรคได้ชนะ ส่วนอนาคตสามารถกลับมาร่วมงานกับพลเอกประวิตรได้หรือไม่นั้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่าเราไม่พูดถึงเรื่องอนาคตปัจจุบันเราทำ 24 ชีวิตให้มีคุณภาพ

ด้าน น.ส.นฤมล กล่าวว่าพวกเราเป็นกลุ่มการเมืองที่ทำงานมาตั้งแต่เริ่มต้นและเป็นเพื่อน สส. ด้วยกันอยู่แล้ว และอุดมการณ์เดียวกัน ในส่วนที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็จะเดินหน้าทำงาน และในส่วนของพรรคจะเดินหน้ากิจกรรม ไม่ว่าจะเรื่องการจัดการสมาชิกพรรคเพิ่มเติมและดำเนินกิจกรรมในพื้นที่ในแต่ละเขต ไม่ว่าจะเป็นเขตที่มี สส. 24 คนอยู่แล้ว และเป็นเขตที่มีว่าที่ผู้สมัครที่แสดงความประสงค์ว่าจะมาร่วมอุดมการณ์เดียวกับเราด้วยก็จะขับเคลื่อนงานตรงนี้ โดยที่ทำงานพรรคก็อยู่ตรงถนนรัชดา.312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

ภูมิต้านภัย : จับตาทุจริตงบซ่อม ฮ.ตำรวจ

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – คอลัมน์ “ภูมิต้านภัย” ตรวจสอบหาสาเหตุเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตก 2 เหตุการณ์ในรอบ 1 เดือน หลังถูกตั้งข้อสังเกตถึงการนำ ฮ.ที่เสีย มาตั้งงบซ่อมแบบไม่ได้มาตรฐาน ทำให้นักบินต้องเสี่ยงชีวิตทุกครั้งที่ยก ฮ.ขึ้นน่านฟ้า. – สำนักข่าวไทย

นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้

รัฐสภา 31 พ.ค.-นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนโยกกระทรวงให้ถาม “ทักษิณ” คนพูด ปมดึง มท. มาดูเอง ย้ำครอบงำไม่ได้ แต่พ่อให้คำปรึกษา ลูกรับไว้พิจารณา เผยยกหูหากลางห้องประชุมแล้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่า วันนี้ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไร ถ้าจะมีการปรับเปลี่ยนอะไร หากเป็นรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเดี๋ยวตนจะคุยเอง เห็นเป็นกระแสข่าวออกไปหลายอย่างมาก ทำให้รัฐมนตรีทุกคนรู้สึกหวั่นไหวและท้อใจ ซึ่งตนไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ซึ่งตนพยายามสื่อสารในพรรคเพื่อไทยว่าอย่างไรเดี๋ยวจะคุยเอง ส่วนคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้บั่นทอนจิตใจพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า ไม่ เมื่อสักครู่ก็นั่งอยู่ข้างๆ กันไม่ได้มีอะไร ไม่มีใครถามถึงเรื่องนี้เลย เมื่อถามว่ากระทรวงมหาดไทยทำงานไม่ดีจริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นั่นเป็นความคิดเห็นของนายทักษิณ แต่ตนยังไม่ได้ประเมินอะไร เดี๋ยวก็รอดู ส่วนมีการพูดคุยกับนายทักษิณ หรือไม่ว่าเหตุใดจึงให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า คุยกันทุกวัน หากถ่ายรูปมา เมื่อสักครู่ได้ตนก็คุยโทรศัพท์กับคุณพ่อ ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าตอนนี้ถูกมองว่าเป็นการครอบงำพรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรี […]

สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 นายกฯ เชื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย

รัฐสภา 31 พ.ค.-สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 วาระแรก เสียงท่วม 322 เสียง ตั้ง กมธ. 73 คน พบ “อนุดิษฐ์” โผล่เป็น กมธ.โควตารัฐบาล ด้านนายกฯ ขอบคุณสภาฯ ยันรัฐบาลจัดลำดับความสำคัญงบฯ ตามสถานการณ์ เชื่องบประมาณที่เสนอไปจะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทยทุกคน ตั้งใจใช้เป็นเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันสุดท้ายของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยหลังจากใช้เวลากว่า 3 วัน รวม 41 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ด้วยคะแนน 322 ต่อ 158 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการ จำนวน 73 คน ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า มีชื่อ […]

โฆษก ทบ. ยันสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน

กองทัพบก 31 พ.ค.-โฆษก ทบ. ยืนยันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน แต่ยอมรับว่า แนวทางการปิดด่านเป็นแผนส่วนหนึ่งที่หน่วยงานระดับพื้นที่อาจพิจารณาใช้ เพื่อดูแลความมั่นคงและความปลอดภัยประชาชน พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงกรณีกระแสข่าวการพิจารณาปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาบางจุดว่า ปกติจะเป็นส่วนหนึ่งของแผน สำหรับใช้ในการบริหารจัดการต่อสถานการณ์ ที่อาจส่งผลกระทบความมั่นคง และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ของหน่วยงานในระดับพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การปิดด่านจะดำเนินการต่อเมื่อมีความจำเป็นจริง โดยในอดีตจะดำเนินการเฉพาะต่อเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่นั้นๆ มีปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในระดับที่น่ากังวลสูง โดยเฉพาะข่าวสารที่น่าเชื่อว่าจะมีการใช้อาวุธระยะไกล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน หากพิจารณาในภาพรวม ส่วนใหญ่มีความเรียบร้อย มีเพียงบางจุดบางพื้นที่เท่านั้นที่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากังวลมากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้อาศัยกลไกที่มีอยู่ในระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ยึดถือกันอยู่อย่างเคร่งครัด.-313.-สำนักข่าวไทย