“ธรรมนัส” ปัดปม 20 สส.ถูกขับไม่เกี่ยวดีลลับหยุดสอบภูนับดาว

รัฐสภา 19 ธ.ค.- “ร.อ.ธรรมนัส” หอบ สส.แถลงเดินหน้าหนุนรัฐบาล คุยยังมี สส.-รมต.หลายคนพร้อมร่วมอุดมการณ์ แต่ติดขัดข้อกม. บอกไม่ใช่พรรคอะไหล่ มองพรรคไหน ค้านบ่อย ควรออกไป พร้อมปัดปม 20 สส.ถูกขับไม่เกี่ยวดีลลับหยุดสอบภูนับดาว ลั่น “ไม่ทำใครก่อน แต่ใครทำ ผมเอาคืนนะ”


ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แกนนำพรรคกล้าธรรม พร้อม น.ส.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม พร้อม สส.พรรคทั้ง 24 คนแถลงร่วมกัน

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่าวันนี้ถือเป็นเรื่องดียามดี และพวกเราตั้งกลุ่มว่า “มาตามนัด” ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่การรวมตัวกันตั้งรัฐบาล และนายกรัฐมนตรีคนใหม่มาบริหารบ้านเมือง พวกเราประกาศชัดเจนว่าเราสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งในระยะเวลาที่ผ่านมาการเข้าเป็นสมาชิกในสังกัดใหม่ไม่สามารถทำได้ จนกระทั่งพรรคพลังประชารัฐมีมติชัดเจนขับพวกตน 20 ชีวิตคนออกจากพรรคพลังประชารัฐ และเมื่อวานทั้ง 20 คนพร้อมใจกันสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคกล้าธรรมซึ่งมี น.ส.นฤมล เป็นหัวหน้าพรรค และเมื่อรวมกับสมาชิกเดิมแล้วขณะนี้มีจำนวน สส. 24 คนแต่ก่อนที่จะลงมา ก็มีหลายคนที่ต้องการมาร่วมอุดมการณ์ แต่ยังติดขั้นตอนทางกฎหมาย ซึ่งตัวเลขคร่าวคร่าว ที่คุยกันไว้มีมากกว่า 30 คน เมื่อเวลาสุกงอมมาถึงก็คงจะเปิดตัวกัน และจากนี้ทั้ง 24 คนเป็นแนวร่วมกับรัฐบาลต่อไป


ส่วนการต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีในอนาคตนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่าไม่ใช่สาระสำคัญ แต่ ขณะนี้สาระสำคัญคือจะทำงานให้ประชาชนหลุดพ้นจากความเดือดร้อนอย่างไร ซึ่ง สส. 24 คนก็จะนำเสนอผ่านสภา และขอเรียนว่าพรรคกล้าธรรมไม่ใช่เพิ่งเกิด สมาชิกหลายคนก็เป็น สส.สมัยที่ 2 แล้วจะไม่ได้ทำอะไรเก่าๆ ยืนยัน เราจะนำพา สิ่งที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน พร้อมน้ำตนเลยจุดนั้นมาแล้วและไม่ได้เกิดความอยากที่จะเป็นอะไร และวันนี้เราส่งตัวแทนมาเป็นรัฐมนตรีไม่ว่าจะเป็น น.ส.นฤมล และน้องชายของตน ต่างก็ทำงานในกระทรวงเกษตรและเมื่อวานก็ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชที่มีปัญหาน้ำท่วม ไปดูแลความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนและน.ส.นฤมลได้สั่งการ ดูแลพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน ดังนั้นส่วนตนจะเป็นนั้นเป็นนี่ ถ้าจะต้องเป็นอะไรก็เป็น

สำหรับกระแสข่าวเรื่องดีลลับนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่าตั้งแต่ออกมาจากพรรคพลังประชารัฐจนถึงวันนี้ ไม่ได้คุยกับใคร รับรองว่าไม่มีดีลอะไร และตนยืนยันตลอดเวลา ในคำพูดของตนว่าจะออกมาโดยสันติ ไม่ทะเลาะกับใคร และจะทำงานที่สร้างสรรค์มากกว่าทำลายซึ่งกันและกัน ท่าเรื่องเดียว เราจะทำการเมืองแบบใหม่ ไม่ใช่การเมืองแบบเก่า ๆ

เมื่อถามย้ำถึงกระแสดีลลับเลิกสอบเรื่องภูนับดาวลุกล้ำที่ดิน ส.ป.ก. เพื่อแลกกับการขับออกจากพรรคพลังประชาลับหรือไม่นั้น ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันไม่เกี่ยวกับดีลลับใดๆ และเรื่อง ส.ป.ก. ถ้าเราจำประเด็นนี้ได้คนที่เปิดเรื่องนี้ คือ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นคนเปิดเรื่องภูนับดาว เราจำเป็นต้องตรวจสอบ การเข้าครอบครองที่ดินไม่ถูกต้อง และเรื่องการตรวจสอบขั้นตอนการเงินไม่ใช่หน้าที่ของกระทรวงเกษตรฯ เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. และ ป.ป.ง. แต่ถามว่าเส้นทางการเงินช่วงที่ตนเป็นรัฐมนตรีทราบหรือยัง ก็ทราบคร่าวๆ แต่ไม่ใช่หน้าที่ของพวกเรา การตรวจสอบเส้นทางเงินมีคณะกรรมการร่วมผสมผสานกันหลายหน่วยงาน ดังนั้นการทำงานไม่สามารถที่จะบังคับใครให้ทำได้เลย


เมื่อถามว่า สส.ในพลังประชารัฐเข้ามาติดต่อหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า พวกเรา กับ สส.พลังประชารัฐ เราไม่แตกแยก ยังคุยกันปกติ ยังเป็นพี่เป็นน้องกัน

สำหรับกรณีที่คนไทยบน LINE TODAY เลือกโหวตให้ ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็น “บุคคลทางการเมืองแห่งปี 2567” ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เราเป็นนักการเมืองเป้าหมายสำคัญ คือ เราเข้าใจคนไทยเข้าใจพี่น้องประชาชน และทำหน้าที่ในฐานะการเมืองให้ดีที่สุด ต้องขอบคุณที่ไม่น้องคนไทยร่วมกันโหวต ก็จะทำให้ดีที่สุด

ส่วนที่ถูกมองว่าเป็นพรรคอะไหล่ของรัฐบาลนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ณ เวลานี้ เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล หากพรรคใหญ่พรรคแกนนำมีนโยบายอะไรที่เกิดกับพี่น้องประชาชน เราก็ไม่ได้คัดค้าน ไม่ใช่มีอะไรก็ค้านตลอด ตนไม่ชอบหลอกคนอื่น และเห็นว่าทุกครั้งที่มีวาระสำคัญที่จะต้องลงมติ เราควรคุยกันก่อน พรรคไหนไม่เห็นด้วยบ่อยๆ ก็ควรจะแยกตัวออกไป เรามีหัวหน้าพรรคเป็นสุภาพสตรี พร้อมคุยกับทุกฝ่าย ส่วนการปรับโครงสร้างพรรคนใหม่นั้น น.ส.นฤมล หัวหน้าพรรค เป็นคนกำหนดนโยบายเรื่องพรรค ตนมอบไม้ให้น.ส.นฤมลดูแล

ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวถึงเป้าหมายการเลือกตั้งในสมัยหน้าว่า ตอนเลือกตั้งปี 2562 ตนกับ น.ส.นฤมลเป็นแกนนำในการปราศรัยทั่วประเทศ ก็มั่นว่าทำได้และมั่นใจว่าเราแยกมาทำโดยที่ไม่ต้องฟังเสียงอะไรมากมาย ไม่ผ่านขั้นตอนมากมาย และคิดว่าจาก สส. 24คน ต้องเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว โดยจังหวัดเป้าหมายที่จะได้เพิ่ม นราธิวาส สุราษฎร์ธานี ราชบุรี กำแพงเพชร และอีกหลายจังหวัดและมีพี่น้อง ที่เป็นรัฐมนตรีจะมาร่วมกับตน ขณะนี้คนที่ได้คะแนน 20,000 อัป มาอยู่กับตนหมดแล้ว

เมื่อถามว่ากลัวหรือไม่ว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะเอาคืน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เราเป็นนักการเมือง เราไม่สร้างศัตรู ออกมาก็ออกมา และสไตล์ตน ไม่ทำใครก่อน แต่ใครทำตน เอาคืนนะ อันนี้ชัดเจน หมายความว่าในเวทีเลือกตั้ง เราต้องสู้กันทุกรูปแบบ ให้ลูกพรรคได้ชนะ ส่วนอนาคตสามารถกลับมาร่วมงานกับพลเอกประวิตรได้หรือไม่นั้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่าเราไม่พูดถึงเรื่องอนาคตปัจจุบันเราทำ 24 ชีวิตให้มีคุณภาพ

ด้าน น.ส.นฤมล กล่าวว่าพวกเราเป็นกลุ่มการเมืองที่ทำงานมาตั้งแต่เริ่มต้นและเป็นเพื่อน สส. ด้วยกันอยู่แล้ว และอุดมการณ์เดียวกัน ในส่วนที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็จะเดินหน้าทำงาน และในส่วนของพรรคจะเดินหน้ากิจกรรม ไม่ว่าจะเรื่องการจัดการสมาชิกพรรคเพิ่มเติมและดำเนินกิจกรรมในพื้นที่ในแต่ละเขต ไม่ว่าจะเป็นเขตที่มี สส. 24 คนอยู่แล้ว และเป็นเขตที่มีว่าที่ผู้สมัครที่แสดงความประสงค์ว่าจะมาร่วมอุดมการณ์เดียวกับเราด้วยก็จะขับเคลื่อนงานตรงนี้ โดยที่ทำงานพรรคก็อยู่ตรงถนนรัชดา.312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ยันไทยทำถูกต้องปมรั้วลวดหนามบ้านหนองจาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ยันกรณีล้อมรั้วลวดหนาม พื้นที่บ้านหนองจาน ไทยทำถูกต้องภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง บอกโฆษก ทบ. แจงรายละเอียด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กัมพูชาใช้มวลชนมากดดัน เพื่อให้ไทยรื้อลวดหนามบริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รัฐบาลจะมีแนวทางอย่างไร ว่า พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงแล้ว ก็เป็นไปตามนั้น ส่วนจะมีการเพิ่มมาตรการอะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม ย้ำว่าเป็นไปตามที่โฆษกกองทัพบกได้ชี้แจงไปแล้ว เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาที่ยังกระทบกันอยู่ ก็แก้ไขปัญหาไปตามสภาพการณ์ เรายืนยันว่าสิ่งที่เราทำถูกต้องแล้ว และทำทุกอย่างภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงที่ประเทศมาเลเซีย .-315 -สำนักข่าวไทย

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนัก-ลมแรง

กรุงเทพฯ 26 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรง ส่วนพายุโซนร้อน “คาจิกิ” คาดอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ก่อนเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ บริเวณ จ.น่าน เย็นวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ปกคลุมบริเวณประเทศลาว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย […]

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย