“ธรรมนัส” ปัดปม 20 สส.ถูกขับไม่เกี่ยวดีลลับหยุดสอบภูนับดาว

รัฐสภา 19 ธ.ค.- “ร.อ.ธรรมนัส” หอบ สส.แถลงเดินหน้าหนุนรัฐบาล คุยยังมี สส.-รมต.หลายคนพร้อมร่วมอุดมการณ์ แต่ติดขัดข้อกม. บอกไม่ใช่พรรคอะไหล่ มองพรรคไหน ค้านบ่อย ควรออกไป พร้อมปัดปม 20 สส.ถูกขับไม่เกี่ยวดีลลับหยุดสอบภูนับดาว ลั่น “ไม่ทำใครก่อน แต่ใครทำ ผมเอาคืนนะ”


ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แกนนำพรรคกล้าธรรม พร้อม น.ส.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม พร้อม สส.พรรคทั้ง 24 คนแถลงร่วมกัน

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่าวันนี้ถือเป็นเรื่องดียามดี และพวกเราตั้งกลุ่มว่า “มาตามนัด” ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่การรวมตัวกันตั้งรัฐบาล และนายกรัฐมนตรีคนใหม่มาบริหารบ้านเมือง พวกเราประกาศชัดเจนว่าเราสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งในระยะเวลาที่ผ่านมาการเข้าเป็นสมาชิกในสังกัดใหม่ไม่สามารถทำได้ จนกระทั่งพรรคพลังประชารัฐมีมติชัดเจนขับพวกตน 20 ชีวิตคนออกจากพรรคพลังประชารัฐ และเมื่อวานทั้ง 20 คนพร้อมใจกันสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคกล้าธรรมซึ่งมี น.ส.นฤมล เป็นหัวหน้าพรรค และเมื่อรวมกับสมาชิกเดิมแล้วขณะนี้มีจำนวน สส. 24 คนแต่ก่อนที่จะลงมา ก็มีหลายคนที่ต้องการมาร่วมอุดมการณ์ แต่ยังติดขั้นตอนทางกฎหมาย ซึ่งตัวเลขคร่าวคร่าว ที่คุยกันไว้มีมากกว่า 30 คน เมื่อเวลาสุกงอมมาถึงก็คงจะเปิดตัวกัน และจากนี้ทั้ง 24 คนเป็นแนวร่วมกับรัฐบาลต่อไป


ส่วนการต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีในอนาคตนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่าไม่ใช่สาระสำคัญ แต่ ขณะนี้สาระสำคัญคือจะทำงานให้ประชาชนหลุดพ้นจากความเดือดร้อนอย่างไร ซึ่ง สส. 24 คนก็จะนำเสนอผ่านสภา และขอเรียนว่าพรรคกล้าธรรมไม่ใช่เพิ่งเกิด สมาชิกหลายคนก็เป็น สส.สมัยที่ 2 แล้วจะไม่ได้ทำอะไรเก่าๆ ยืนยัน เราจะนำพา สิ่งที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน พร้อมน้ำตนเลยจุดนั้นมาแล้วและไม่ได้เกิดความอยากที่จะเป็นอะไร และวันนี้เราส่งตัวแทนมาเป็นรัฐมนตรีไม่ว่าจะเป็น น.ส.นฤมล และน้องชายของตน ต่างก็ทำงานในกระทรวงเกษตรและเมื่อวานก็ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชที่มีปัญหาน้ำท่วม ไปดูแลความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนและน.ส.นฤมลได้สั่งการ ดูแลพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน ดังนั้นส่วนตนจะเป็นนั้นเป็นนี่ ถ้าจะต้องเป็นอะไรก็เป็น

สำหรับกระแสข่าวเรื่องดีลลับนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่าตั้งแต่ออกมาจากพรรคพลังประชารัฐจนถึงวันนี้ ไม่ได้คุยกับใคร รับรองว่าไม่มีดีลอะไร และตนยืนยันตลอดเวลา ในคำพูดของตนว่าจะออกมาโดยสันติ ไม่ทะเลาะกับใคร และจะทำงานที่สร้างสรรค์มากกว่าทำลายซึ่งกันและกัน ท่าเรื่องเดียว เราจะทำการเมืองแบบใหม่ ไม่ใช่การเมืองแบบเก่า ๆ

เมื่อถามย้ำถึงกระแสดีลลับเลิกสอบเรื่องภูนับดาวลุกล้ำที่ดิน ส.ป.ก. เพื่อแลกกับการขับออกจากพรรคพลังประชาลับหรือไม่นั้น ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันไม่เกี่ยวกับดีลลับใดๆ และเรื่อง ส.ป.ก. ถ้าเราจำประเด็นนี้ได้คนที่เปิดเรื่องนี้ คือ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นคนเปิดเรื่องภูนับดาว เราจำเป็นต้องตรวจสอบ การเข้าครอบครองที่ดินไม่ถูกต้อง และเรื่องการตรวจสอบขั้นตอนการเงินไม่ใช่หน้าที่ของกระทรวงเกษตรฯ เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. และ ป.ป.ง. แต่ถามว่าเส้นทางการเงินช่วงที่ตนเป็นรัฐมนตรีทราบหรือยัง ก็ทราบคร่าวๆ แต่ไม่ใช่หน้าที่ของพวกเรา การตรวจสอบเส้นทางเงินมีคณะกรรมการร่วมผสมผสานกันหลายหน่วยงาน ดังนั้นการทำงานไม่สามารถที่จะบังคับใครให้ทำได้เลย


เมื่อถามว่า สส.ในพลังประชารัฐเข้ามาติดต่อหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า พวกเรา กับ สส.พลังประชารัฐ เราไม่แตกแยก ยังคุยกันปกติ ยังเป็นพี่เป็นน้องกัน

สำหรับกรณีที่คนไทยบน LINE TODAY เลือกโหวตให้ ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็น “บุคคลทางการเมืองแห่งปี 2567” ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เราเป็นนักการเมืองเป้าหมายสำคัญ คือ เราเข้าใจคนไทยเข้าใจพี่น้องประชาชน และทำหน้าที่ในฐานะการเมืองให้ดีที่สุด ต้องขอบคุณที่ไม่น้องคนไทยร่วมกันโหวต ก็จะทำให้ดีที่สุด

ส่วนที่ถูกมองว่าเป็นพรรคอะไหล่ของรัฐบาลนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ณ เวลานี้ เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล หากพรรคใหญ่พรรคแกนนำมีนโยบายอะไรที่เกิดกับพี่น้องประชาชน เราก็ไม่ได้คัดค้าน ไม่ใช่มีอะไรก็ค้านตลอด ตนไม่ชอบหลอกคนอื่น และเห็นว่าทุกครั้งที่มีวาระสำคัญที่จะต้องลงมติ เราควรคุยกันก่อน พรรคไหนไม่เห็นด้วยบ่อยๆ ก็ควรจะแยกตัวออกไป เรามีหัวหน้าพรรคเป็นสุภาพสตรี พร้อมคุยกับทุกฝ่าย ส่วนการปรับโครงสร้างพรรคนใหม่นั้น น.ส.นฤมล หัวหน้าพรรค เป็นคนกำหนดนโยบายเรื่องพรรค ตนมอบไม้ให้น.ส.นฤมลดูแล

ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวถึงเป้าหมายการเลือกตั้งในสมัยหน้าว่า ตอนเลือกตั้งปี 2562 ตนกับ น.ส.นฤมลเป็นแกนนำในการปราศรัยทั่วประเทศ ก็มั่นว่าทำได้และมั่นใจว่าเราแยกมาทำโดยที่ไม่ต้องฟังเสียงอะไรมากมาย ไม่ผ่านขั้นตอนมากมาย และคิดว่าจาก สส. 24คน ต้องเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว โดยจังหวัดเป้าหมายที่จะได้เพิ่ม นราธิวาส สุราษฎร์ธานี ราชบุรี กำแพงเพชร และอีกหลายจังหวัดและมีพี่น้อง ที่เป็นรัฐมนตรีจะมาร่วมกับตน ขณะนี้คนที่ได้คะแนน 20,000 อัป มาอยู่กับตนหมดแล้ว

เมื่อถามว่ากลัวหรือไม่ว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะเอาคืน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เราเป็นนักการเมือง เราไม่สร้างศัตรู ออกมาก็ออกมา และสไตล์ตน ไม่ทำใครก่อน แต่ใครทำตน เอาคืนนะ อันนี้ชัดเจน หมายความว่าในเวทีเลือกตั้ง เราต้องสู้กันทุกรูปแบบ ให้ลูกพรรคได้ชนะ ส่วนอนาคตสามารถกลับมาร่วมงานกับพลเอกประวิตรได้หรือไม่นั้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่าเราไม่พูดถึงเรื่องอนาคตปัจจุบันเราทำ 24 ชีวิตให้มีคุณภาพ

ด้าน น.ส.นฤมล กล่าวว่าพวกเราเป็นกลุ่มการเมืองที่ทำงานมาตั้งแต่เริ่มต้นและเป็นเพื่อน สส. ด้วยกันอยู่แล้ว และอุดมการณ์เดียวกัน ในส่วนที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็จะเดินหน้าทำงาน และในส่วนของพรรคจะเดินหน้ากิจกรรม ไม่ว่าจะเรื่องการจัดการสมาชิกพรรคเพิ่มเติมและดำเนินกิจกรรมในพื้นที่ในแต่ละเขต ไม่ว่าจะเป็นเขตที่มี สส. 24 คนอยู่แล้ว และเป็นเขตที่มีว่าที่ผู้สมัครที่แสดงความประสงค์ว่าจะมาร่วมอุดมการณ์เดียวกับเราด้วยก็จะขับเคลื่อนงานตรงนี้ โดยที่ทำงานพรรคก็อยู่ตรงถนนรัชดา.312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ทนายวัดนาป่าพง แจงปมโอนเงินไปเยอรมนี ยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ

16 ก.ย. – ทนายวัดนาป่าพง แจงยิบไทม์ไลน์โอนเงิน 12 ล้าน ไปให้สีกาที่เยอรมนี ยืนยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ หวังเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ใช่เสน่หาหรือยักยอกเงินวัด เชื่อเป็นขบวนการล้มพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ความคืบหน้าการตรวจสอบพระวัดดังใน จ.ปทุมธานี หลังมีการแจ้งความกองปราบฯ ให้ตรวจสอบปมเงินบริจาควัดที่มีการโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงปล่อยคลิปลักษณะที่ใกล้ชิดกับสีกาในร้านเครื่องประดับ วันนี้ (16 ก.ย.) นายนันทน อินทนนท์ และคณะทนายความของวัดนาป่าพง ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงประเด็นต่างๆ โดยมี อ.เบียร์ คนตื่นธรรม พระลูกวัด และศิษยานุศิษย์ของวัด มาร่วมฟังคำแถลงข่าวอีกเป็นจำนวนมาก ในส่วนของคลิปกับสีกาในร้านเครื่องประดับในต่างประเทศ ทนายความยืนยันว่าสีกาคนดังกล่าวเป็นโยมอุปัฏฐาก ที่ทำหน้าที่ดูแลพระอาจารย์คึกฤทธิ์ และดูแลช่องทางการสื่อสารของวัด คือพุทธวจนเรียล อย่างเปิดเผยตั้งแต่แรก แต่คลิปวิดีโอที่ถูกนำมาเผยแพร่พยายามเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสีกาคนดังกล่าวกับพระอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นการตัดต่อที่ตั้งใจให้เกิดความเข้าใจผิด แจงไทม์ไลน์ยิบ โอนเงินไปต่างประเทศใช้ก่อตั้งมูลนิธิส่วนกรณีมีการโอนเงินจากพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ไปยังสีกาที่เยอรมนี ทีมทนายความยอมรับว่าเอกสารต่างๆ ที่เผยแพร่ในสื่อ เป็นเอกสารที่ทางวัดยื่นต่อศาลที่เยอรมนี ไม่ใช่เอกสารที่ต้องปิดบัง สามารถเปิดเผยได้ เพราะไวยาวัจกรเป็นผู้โอนเงินเอง พร้อมชี้แจงว่าเป็นการโอนเงินเพื่อไปสร้างวัดและมูลนิธิที่ประเทศเยอรมนี โดยไล่เรียงไทม์ชี้แจงอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่ปี 2561 พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ต้องการเผยแพร่คำสอนในต่างประเทศ หนึ่งในวิธีการคือการจัดตั้งวัดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเยอรมนีมีลูกศิษย์ของวัดจำนวนมาก […]

รวบบัญชีม้ายกแก๊ง ตระเวนถอนเงินให้คอลเซ็นเตอร์จีนเทา

16 ก.ย. – จับยกแก๊งบัญชีม้า 7 คน ตระเวนถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา ยึดเงินสดกว่า 5 แสนบาท สารภาพได้ค่าจ้างล้านละ 7,000 บาท เงินที่หลอกผู้เสียหายถูกถ่ายโอนไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท นายเอกชัย เจ้าของบัญชีม้า พร้อมหญิงสาวทำหน้าที่ประสานงานถอนเงิน ถูกตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมได้บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ก่อนขยายผลจับกุมนายศรัณย์พงศ์ และนางสาวนันท์ธนัษฐ์ 2 คนไทย ทำหน้าที่ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า และผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ที่นั่งรอในรถกระบะ นายคิโอ ชาวลาว หัวหน้าแก๊งที่ถอนเงินให้จีนเทาเครือข่ายคิงส์โรมันฝั่งลาว พร้อมยึดของกลางเงินสดกว่า 5 แสนบาท สมุดบัญชีเงินฝากอีก 1 เล่ม กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์วนเวียนถอนเงินสดจากธนาคารหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ เตรียมรวบรวมหลักฐานขยายผลถึงบอสชาวจีน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค […]

อัปเดตโผ ครม. ครบ 100% “โสภณ​” มีชื่อนั่งรอง​นายก​ฯ

กทม.16 ก.ย.- อัปเดตโผ ครม. ล่าสุด “โสภณ​ ​ซา​รัมย์​” ผงาดรอง​นายก​ฯ ขณะที่ รมต.สำนักนายกฯ มีถึง 4 เก้าอี้ ด้าน “มัลลิกา” โผล่นั่ง รมช.คมนาคม วันที่ 16 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เซ็นส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม. ) ซึ่งคาดว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ 36 รายชื่อ ดังนี้ โควตา​คนนอก​ พรรคกล้าธรรม พรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสุชาติ กลุ่มการเมืองอื่น

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย