ทำเนียบ 7 พ.ย.- รัฐบาลเดินหน้าผนึกกำลังป้องกันและปราบปรามบัญชีม้านิติบุคคลและนอมินี ลงนาม MOU ระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สกัดมิจฉาชีพใช้เป็นช่องทางหลอกลวงคนไทย เผยล่าสุดพบบัญชีม้านิติบุคคล 602 บัญชี สร้างความเสียหาย 680 ล้านบาท
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีนโยบายในการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเน้นให้ความสำคัญกับมาตรการการตรวจสอบและปราบปรามบัญชีม้า ซึ่งเป็นช่องทางหลักการหลอกลวงรับเงินของมิจฉาชีพ โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการเรื่องดังกล่าวอย่างเร่งด่วนและรายงานผลให้คณะรัฐมนตรีทราบภายใน 30 วัน
นายคารม กล่าวว่า รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์ร่วมลงนามบันทึกความตกลงการป้องกันและปราบปรามปัญหาการเปิดบัญชีม้าของนิติบุคคลและการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (Nominee) ระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำหรับการลงนามบันทึกความตกลงในครั้งนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นที่สำคัญในการใช้อำนาจที่ต่างฝ่ายต่างมีอำนาจรัฐมาร่วมกันเพื่อป้องความเสียหายที่เกิดขึ้น ป้องปรามผู้กระทำความผิดที่มีความคิด วางแผน เตรียมการให้หยุดกระทำและปราบปรามผู้กระทำความผิดไม่ให้เกิดความเสียหายมากขึ้น เพื่อให้คนไทยไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ และมีเป้าหมายเพื่อร่วมกันแก้ปัญหาบัญชีม้านิติบุคคลตามขอบข่ายภารกิจของแต่ละหน่วยงาน โดยมุ่งที่จะนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ถึงที่สุด เพื่อสร้างความมั่นใจให้นิติบุคคลไทยและปิดวงจรมิจฉาชีพไม่ให้มีโอกาสมาหลอกลวงคนไทยอีก
“ปัจจุบันมิจฉาชีพได้เปลี่ยนวิธีการการหลอกลวงผู้เสียหาย โดยใช้วิธีการจดทะเบียนนิติบุคคลและนำหลักฐานการจดทะเบียนนิติบุคคลไปเปิดบัญชีธนาคาร (บัญชีม้านิติบุคคล) และนำบัญชีม้านิติบุคคลนั้น มาใช้เป็นบัญชีรับเงินจากผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงโดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีการหลีกเลี่ยงการจดทะเบียนนิติบุคคลโดยการหลีกเลี่ยงกฎหมายการจดทะเบียนของคนต่างด้าว โดยล่าสุด พบว่ามีบัญชีม้าที่เป็นนิติบุคคล 602 บัญชี สร้างมูลค่าความเสียหาย 680 ล้านบาท” นายคารม กล่าว .314.-สำนักข่าวไทย