นายกฯ ขอบคุณ ศปช.ส่วนหน้า สำเร็จตามเป้าหมาย

กทม.​27 ต.ค. – นายกฯ ขอบคุณ ศปช.ส่วนหน้า สำเร็จตามเป้าหมาย พรุ่งนี้ (28 ต.ค.) มอบ รมว.กลาโหม ส่งคืนพื้นที่ พร้อมขอ อปท. ฟื้นฟูระยะต่อไป ส่วนเชียงใหม่-เชียงราย เตรียมเปิดบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยว ในโครงการไทยแลนด์วินเทอร์


นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขอบคุณรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เจ้าหน้าที่ส่วนราชการ และเอกชนทุกภาคส่วน ในการร่วมแรงร่วมใจเข้าฟื้นฟูให้กับพี่น้องที่ จ.เชียงใหม่ และเชียงราย ขณะนี้การฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย ระยะที่ 1 ที่ จ.เชียงราย ทั้งที่ อ.แม่สาย และเทศบาลเมืองเชียงราย ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว หลังจากหลายหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ เอกชน และจิตอาสา ระดมกำลังช่วยเหลือตลอดช่วงเวลากว่า 1 เดือนที่ผ่านมา

นายจิรายุ กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (28 ต.ค.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผอ.ศปช. พร้อมด้วย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (ประธาน ศปช.ส่วนหน้า) จะเดินทางไป อ.แม่สาย พร้อมด้วย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม (ที่ปรึกษา ศปช.ส่วนหน้า) เตรียมส่งมอบคืนพื้นที่ให้หน่วยงานท้องถิ่น สานต่อภารกิจฟื้นฟูระยะต่อไป จากนั้นจะเข้าสู่การดำเนินนโยบาย “แอ่วเหนือ คนละครึ่ง” จ.เชียงราย พร้อมต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยเตรียมจัดกิจกรรมตลอดฤดูกาล เช่น เทศกาลลอยกระทง, เทศกาล Lanna Winter Wonderland, งานเชียงรายดอกไม้งามปีที่ 21 และตักบาตรดอกไม้


นายจิรายุ กล่าวด้วยว่า จ.เชียงใหม่ ก็พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซันแล้วเช่นกัน บรรยากาศการท่องเที่ยวในพื้นที่เริ่มคึกคัก เช่น งานเชียงใหม่เมืองแห่งเทศกาลบอลลูน ที่สวนดอกไม้ป้านกเอี้ยง เปิดให้ชมวันนี้วันสุดท้าย นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินชมความสวยงามของบอลลูนมากถึง 28 ลูก กลางทุ่งดอกไม้หลากสี พร้อมเปิดประสบการณ์บินบอลลูน รวมทั้งที่บ้านป่าบงเปียง อ.แม่แจ่ม ใกล้อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ นักท่องเที่ยวแห่ไปสัมผัสทะเลหมอกสุดงามตา ที่โอบล้อมด้วยนาขั้นบันไดที่สวยที่สุดในเชียงใหม่ และล่าสุดได้รับรายงานจากนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ว่าได้โอนเงินเยียวยา 9,000 บาท เข้าบัญชีผู้ประสบอุทกภัยแล้ว 10,863 ครัวเรือน ใน 10 อำเภอ รวมเป็นเงิน 97,767,000 บาท ทั้งนี้ หลังประชาชนยื่นเอกสารขอรับเงินเยียวยาแล้ว เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบ หากเอกสารครบ ข้อมูลถูกต้องก็พร้อมอนุมัติให้ประชาชนได้ทันที

ส่วนสภาพอากาศวันพรุ่งนี้ (28 ต.ค.) นายจิรายุ กล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยายังเฝ้าติดตามพายุโซนร้อน “จ่ามี” ที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งเมืองดานังของเวียดนาม แต่จะไม่พัดเข้ามาในประเทศไทย เนื่องจากมีมวลอากาศเย็นจากจีนแผ่ลงมาปกคลุม แต่อาจส่งผลให้ไทยมีเมฆเพิ่มขึ้น และจะมีฝนตกหนักบางแห่งกับมีลมแรง โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งในระบบชลประทานในภาคอีสาน จะเป็นผลดีต่อการเก็บกักน้ำ โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มน้ำมูลที่ยังมีน้ำกักเก็บไว้สำหรับหน้าแล้งปีหน้าไม่มากนัก ส่วนภาคตะวันออกและภาคใต้ (ฝั่งอันดามัน) จะมีฝนตกเพิ่มขึ้น ขณะที่วันที่ 29 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป ประเทศไทยตอนบน อากาศเริ่มเย็นลง และเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ

“ระยะนี้แม้ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะเริ่มเข้าสู่หน้าหนาว แต่ยังมีฝนในภาคอีสานที่ จ.สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ ยโสธร อุบลราชธานี และศรีสะเกษ แต่จะไม่ส่งผลให้เกิดน้ำล้นตลิ่ง เนื่องจากระดับน้ำ ณ สถานีวัดระดับต่างๆ อยู่ในเกณฑ์ลดลงและทรงตัว มีเพียงสถานีโขงเจียมมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 20 ซม. ทั้งนี้ ยังต้องติดตามสภาพอากาศกับหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีการประเมินว่าพายุโซนร้อน “จ่ามี” แม้จะเคลื่อนตัววกกลับไปในทะเลจีนใต้ จากแรงดึงดูดของพายุ “กองเร็ย” ที่เคลื่อนตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก และมวลอากาศเย็นที่แผ่ลงมา แต่ยังจำเป็นที่ต้องเฝ้าระวังและฟังคำเตือนจาก ศปช. อย่างใกล้ชิด” นายจิรายุ กล่าว


นายจิรายุ กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ถึงวันที่ 29 ตุลาคมนี้ กรมทรัพยากรธรณี เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก ในภาคใต้ 6 จังหวัด ที่ จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล, ภาคตะวันออก ที่ จ.ตราด และภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ จ.อุบลราชธานี และศรีสะเกษ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำและจุดเสี่ยง เตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำและกำลังพล เพื่อเข้าพื้นที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที ส่วนสถานการณ์น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง กรมชลประทาน ยังคงการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาอัตราเดิม 1,699 ลบ.ม./วินาที.-319-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์แนวทางดำเนินคดีกัมพูชา

10 ส.ค. – ฟังการวิเคราะห์ปมดำเนินคดีกัมพูชา กับ รศ.ดร. ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำสาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากหลักฐานที่มีชัดเจน กระสุนกัมพูชายิงตกฝั่งไทย เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินพลเรือน และมีกระสุนที่ต้องเก็บกู้มากกว่า 800 นัด ขณะที่หลังการเจรจา GBC ผ่านไป พบกัมพูชายังเสริมกำลังทหารต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้านศรีสะเกษสุดช้ำ บ้านเรือนถูกกัมพูชายิงถล่มเหลือแต่ซาก

ศรีสะเกษ 10 ส.ค. – ชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กลับจากศูนย์อพยพเจอสภาพบ้านเหลือแต่ซาก หลังถูกลูกปืนใหญ่กัมพูชายิงถล่ม ขณะที่พบหัวจรวด BM-21 กลางทุ่งนา อีก 2 จุด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายเรียบร้อย ปลัดอำเภอน้ำยืน เน้นย้ำหากชาวบ้านพบหลุมลึก-ปากหลุมแคบ ให้รีบแจ้งทันที ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นนาทีกระสุนโจมตีของกัมพูชายิงตกใส่บ้านเรือนประชาชนอย่างรุนแรงจนฝุ่นฟุ้งกระจาย จากภาพจะเห็นว่ามีรถอีแต๋นคันหนึ่งวิ่งผ่านจุดที่กระสุนพุ่งตกลงมาเพียงเสี้ยววินาที เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ วันนี้ นายกุลนที อายุ 45 ปี เดินทางกลับมาบ้าน หลังอพยพออกจากพื้นที่ไปกว่า 2 สัปดาห์ ในช่วงเหตุปะทะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทันทีที่เห็นบ้าน นายกุลนทีถึงกับน้ำตาคลอ เพราะบ้านเสียหายอย่างหนัก ทั้งโครงสร้างไม้และปูนได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ประตู หน้าต่าง กระจก และหลังคาถูกกระสุนถล่มจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม […]

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]