ทำเนียบรัฐบาล 22 ต.ค.- “ทวี” หวังมีปาฏิหาริย์ รวบตัวผู้ต้องหาคดีตากใบ ขึ้นศาลทันอายุความ ยันทุกหน่วยเร่งติดตามเต็มที่ ศึกษาหามาตรการแก้ไข หากคดีหมดอายุความและยังจับผู้ต้องหาไม่ได้
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงคดีตากใบที่กำลังจะหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค.ว่า ขณะนี้ฝ่ายความั่นคงพยายามนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษอย่างเต็มที่ หวังว่าจะมีปาฏิหารย์เกิดขึ้นได้ เมื่อวานนี้ (21 ต.ค.) ก็ได้มีการหยิบเรื่องนี้มาพูดคุยหัวหน้าพรรคต่างๆ ในส่วนของกระทรวงยุติธรรมแม้จะไม่มีอำนาจจับกุม เพราะคดีนี้ไม่ใช่คดีพิเศษ แต่เราก็ได้ตั้งชุดสอบสวนเข้าไปช่วยสนับสนุนการทำงานของตำรวจ เรามีความเห็นใจครอบครัวผู้เสียชีวิต แต่ในส่วนของอายุความคดีมีการพิจารณาแก้ไขยืดอายุความหลายครั้ง แต่ส่วนนี้ต้องแก้เป็นกฎหมาย และต้องไม่ให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่ง ซึ่งต้องพิจารณาให้รอบด้าน ทั้งนี้ได้มีการออกหมายตำรวจสากลเพื่อหากหนีไปอยู่ประเทศใด ก็สามารถจำตัวกลับมาได้ แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ต้องทำงานอย่างเต็มที่ หามรุ่งหามค่ำในช่วง 3 วันนับจากนี้
พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อไปว่า ส่วนเรื่องคดีความนั้นได้พิจารณา อาจต้องมีการแก้ไขหลายครั้ง และเวลาที่หยิบมาแก้ไขนั้นต้องไม่ใช่ทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง ซึ่งคดีในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีคนที่หนีหมายจับ ประมาณ 1,789 หมาย แต่ถ้าเป็นตัวบุคคล มีจำนวน 1,067 หมาย มีหมายซ้ำกัน 722 หมาย และส่วนใหญ่คนที่ถูกออกหมายจับนั้นไม่ใช่ข้าราชการ แต่เป็นบุคคลที่อ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงหลบหนี และขาดอายุความ 140 ราย ทั้งนี้ขอย้ำว่าทุกหน่วยงานทำอย่างเต็มที่ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ขณะที่ตำรวจสากลจะประสานงาน ไม่ว่าจะอยู่ประเทศใด ก็ต้องนำตัวกลับมาให้ได้
เมื่อถามว่าจะใช้วิธีการใด เพื่อนำตัวคนผิดมาลงโทษ หากคดีหมดอายุความ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมกำลังให้มีการศึกษาเรื่องนี้ ส่วนความล่าช้าของสำนวนคดีนี้ พบว่าปี 2562 หลังจากอัยการลดการสอบสวน ต่อมาต้นปี 2567 คณะกรรมาธิการได้ติดตามเรื่องมาดู พบว่ากรณีที่ศาลสั่งไต่สวน ยังไม่ได้บอกว่าใครเป็นผู้ทำให้ตาย และผู้ตายเป็นใคร ส่วนเพิ่มเติมตรงนี้ตำรวจต้องสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม และจากการตรวจสอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พบว่า มีการสอบพยาน 700 ปาก จนนำมาสู่การออกหมายจับ แต่เนื่องจาก ระบบกฎหมายของเราต้องมีตัวบุคคลไปร้องต่อศาล ภายในอายุความ 20 ปี ซึ่งเราต้องมาร่วมการศึกษาตรงนี้ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าเห็นใจครอบครัวผู้เสียชีวิต แม้จะมีการเยียวยา แต่ไม่ได้ตัดสิทธิ ทั้งคดีแพ่ง คดีอาญา และคดีทางปกครอง รวมถึงการรับผลประโยชน์อื่น
เมื่อถามว่าหากไม่สามรถนำตัวผู้ต้องหารับโทษได้จะกระทบกับคะแนนฐานเสียงของพรรคประชาชาติที่เป็นหัวหน้าพรรรคหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า คดีตากใบจริงๆ จบไปแล้วด้วยซ้ำ แต่พรรคประชาชาติ โดยมีนายกมลศักดิ์ ลีวาเหมาะ สส.นราธิวาส เป็นผู้ผลักดันให้รื้อฟื้นคดีให้กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง ซึ่งนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหา ทำให้ญาติผู้เสียชีวิตได้ทราบถึงข้อเท็จจริง ส่วนผู้ที่ถูกออกหมายจับถ้ามีหลักฐานว่าไปอยู่ต่างประเทศ 2 คน และมีส่วนที่ยังไม่เป็นทางการที่เราไปสะกดรอยติดตาม ช่วยเทคโนโลยี เราก็ต้องเร่งติดตามเช่นกัน ทั้งนี้ ในช่วงเวลาที่เหลือ ตนขอให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน รวมถึงญาติผู้เสียชีวิต และประชาชนที่ออกมาต่อสู้ ทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และนักวิชาการ
ส่วนแนวโน้มที่จะได้ตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีภายในอายุความหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ผู้ต้องหาไม่ฟังผู้บังคับบัญชา ญาติ ถ้าผู้ต้องหาคิดว่าอยากได้เสรีภาพ เขาก็ต้องออกไป เพราะรู้ว่าคดีมีอายุความ ขอย้ำว่าเจ้าหน้าที่ทุ่มเทกำลังทุกอย่าง .-317 -สำนักข่าวไทย
