“ลิซ่า” เรียกร้อง “ณัฐวุฒิ” เร่งรัดกฎหมายนิรโทษกรรม

กทม. 8 ต.ค.-“ลิซ่า” สส.ประชาชน เรียกร้อง “ณัฐวุฒิ” ทำหน้าที่ที่ปรึกษานายกฯ เร่งรัดกฎหมายนิรโทษกรรม-ยุติลอยนวลพ้นผิด เริ่มที่คดีตากใบ มองตามน้ำ ปีเดียวเปลี่ยนจุดยืนได้ขนาดนี้

นางสาวภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ รองโฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ว่าไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหมายเพราะนายณัฐวุฒิไม่เคยหายไปในฐานะนักการเมืองอยู่แล้ว เพียงแต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายคือเหตุผลที่ระบุว่าการยอมรับตำแหน่งวันนี้เพราะเกิดการเรียนรู้ว่าต้องอยู่กับความจริงของสถานการณ์และการเมืองวันนี้เป็นเรื่องของการจัดสรรอำนาจ


นางสาวภคมน กล่าวว่า เวลาเพียง 1 ปี นายณัฐวุฒิมีเหตุผลรองรับการเสียสัจจะและเหยียบย่ำศรัทธาคนที่เคยเชื่อมั่นในตัวได้ขนาดนี้ และมักมีเหตุผลรองรับเพื่อให้โอกาสตัวเองเสมอ แต่เพื่อนร่วมรบ ประชาชนร่วมสู้ เขาไม่เคยได้รับแม้แต่โอกาสจะเลือก บางคนต้องหลบหนี ไม่ได้กลับมาเจอครอบครัว บางคนสูญหายไม่รู้ชะตากรรม และบางคนเสียชีวิตใจกลางเมือง ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม

“ถ้าจะสรุปง่ายๆ ก็คือ ตามน้ำไป ทำอะไรไม่ได้ แบบนั้นใช่หรือไม่ ถ้าเป็นแบบนี้ แล้วประชาชนยังคาดหวังอะไรได้บ้างจากนักสู้ประชาธิปไตย อย่างคุณณัฐวุฒิในฐานะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ประชาชนยังหวังได้ไหมว่าจะไม่นิ่งเฉยและให้คำปรึกษากับนายกรัฐมนตรีในเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเร่งรัดร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้เข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมสภาฯ โดยเร็วที่สุด หรือพอจะเป็นปากเป็นเสียงเรียกร้องรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยยุติวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิด อย่างกรณีคดีตากใบและคดีคนเสื้อแดงปี 53ถ้ายังพอมีเลือดนักสู้อยู่ คุณณัฐวุฒิต้องรีบผลักดันจัดการเรื่องเหล่านี้ให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปี เพราะปีหน้าไม่รู้ว่าคุณณัฐวุฒิจะมีเหตุผลให้ต้องตามน้ำอะไรอีกไหม” นางสาวภคมน กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย