รัฐสภา 11 ก.ย.- สภาฯ เถียงเรื่องส่งตัว สส. ดำเนินคดี “รอมฎอน” ลุกจี้ “วันนอร์” ส่ง “พิศาล เพื่อไทย” ขึ้นศาลปมตากใบ โอดใกล้หมดอายุความ ด้านประธานแจงไม่มีอำนาจ ชี้ตามรัฐธรรมนูญ สส.มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง หวั่นสมาชิกถูกกลั่นแกล้ง
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานในการประชุม ช่วงวาระการหารือ นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ขอหารือต่อประธานว่า ตนต้องหารือโดยตรงหนังสือของประชาชนที่ยื่นต่อประธานสภา เพราะถ้าเรานับจากวันนี้ไปถึง 25 ต.ค. จะครบรอบเหตุการณ์ตากใบ ซึ่งจะสิ้นสุดอายุความคดีอาญาด้วย เหลืออีก 44 วันเท่านั้น ซึ่งจำเลยหนึ่งในนั้นเป็นเพื่อนสมาชิกของเราคือ พลเอกพิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ตนทราบว่าภรรยาของผู้เสียชีวิต ได้ทำหนังสือถึงประธาน ผ่านนายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎรแล้ว ไม่ทราบว่าท่านประธานได้รับหนังสือแล้วหรือยัง ซึ่งวันพรุ่งนี้จะมีการเปิดคำให้การจำเลยครั้งแรก โดยญาติของผู้เสียชีวิตอยากให้ประธานให้ความยุติธรรม และให้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผู้ที่เกี่ยวข้อง ขอให้อนุญาตพลเอกพิศาลเดินทางไปศาล จึงอยากปรึกษาว่าแนวทางปฏิบัติเป็นอย่างไร
ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า เรามีรัฐธรรมนูญมาตรา 125 ระหว่างสมัยประชุม ห้ามให้จับคุมขังหรือหมายเรียกตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสมาชิกวุฒิสภา ไปทำการสอบสวนได้เพราะฉะนั้น ถือเป็นเอกสิทธิ์ที่สมาชิกรัฐสภาได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ แต่วิธีปฏิบัติที่เราทำกันมาคือในกรณีที่ศาลมีความจำเป็นขอสอบสวนหรือตำรวจขอดำเนินคดีในสมัยประชุม ก็ขอมาที่ประธาน ซึ่งประธานไม่ได้มีอำนาจ สภาจะเป็นผู้พิจารณาว่าจะสมควรอนุญาตหรือไม่ หรือเจ้าตัวเป็นคนขอเข้าสู่กระบวนการเพื่อไม่ให้คดียืดเยื้อ ก็มาขอที่สภาทุกครั้ง แต่ที่ผ่านมาสภามักจะให้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 125 คือจะลงมติไม่อนุญาต
“ผมก็อยากจะเรียนกับรอมฎอนและประชาชนว่า มิได้หมายความว่าสภาของเรา ทั้ง 2 สภาจะไม่เห็นใจเจ้าหน้าที่ดำเนินคดี แต่สภาเห็นว่าเชื่อพิทักษ์เอกสิทธิ์ของสมาชิก เราเกรงว่าสมาชิกฝ่ายค้านหรือไม่ได้อยู่กับฝ่ายรัฐบาล จะถูกกลั่นแกล้งไปพร้อมกับคดีอาญา แล้วให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกไปสอบสวน จนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ โดยเฉพาะดาวสภาทั้งหลาย แต่ยังไม่เคยเกิดขึ้น เพราะรัฐบาลมีอำนาจที่จะให้ตำรวจเรียกไปไต่สวนหรือคุมขังได้ ยิ่งตอนนี้ยิ่งยุ่งใหญ่เลย ถ้าไปคุมขังนี่ เพราะถ้าพลาดจะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สภาก็มองในแง่นี้” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า มีหลายคดีที่เจ้าตัวขอไปดำเนินคดีเอง แต่สภาก็ไม่ให้ เพราะถ้าให้กรณีนี้แล้ว กรณีอื่นก็จะต้องให้ เท่าที่ตนจำได้ 40 กว่าปีในสภานี้ ก็เป็นอย่างนี้ สมัยก่อนการเมืองมันดุเดือดกว่านี้ ซึ่งหากตำรวจระบุว่าคดีจะหมดอายุความก็จะนำมาพิจารณา พร้อมย้ำว่าประธานไม่มีสิทธิ์ อยู่ที่สภาจะอนุญาต
นายรอมฎอน จึงอ่านรัฐธรรมนูญ มาตรา 125 ให้ฟัง ก่อนระบุว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ ปี 2560 ไม่ทราบว่าที่ประธานชี้แจงเป็นของฉบับไหน ก่อนที่นายวันมูหะมัดนอร์จะชี้แจงอีกรอบ ย้ำว่าเป็นข้อเท็จจริง ศาลยังไม่มีหนังสือขอไปดำเนินคดี รวมถึงเจ้าตัว ถ้าจะขอต้องมาขอที่สภา แต่ตอนนี้ยังไม่มีมาทั้ง 2 ฉบับ
ทำให้นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ขอลุกขึ้นกล่าวว่า วันนี้ศาลอาญามีนัดพิจารณาเรื่องตน ซึ่งเป็นจำเลยกรณีเป็นผู้บงการให้เกิดเหตุการณ์ที่พัทยา กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับนี้ในวรรคสุดท้ายที่โต้กัน ศาลจะพิจารณาคดีนั้นในสมัยประชุมก็ได้ วันนี้ตนก็ไม่ได้ไป ส่งทนายไปแทน แต่หากศาลขอมาโดยประเพณีแล้วสภาเราไม่ให้โดยกรณีใดๆทั้งสิ้น
“วันนี้ตัวผมความเป็นจริงต้องไปที่ศาลอาญา ซึ่งทุกคนไม่ควรไปนะครับ ไม่จำเป็นอย่าไปสั่งเด็ดขาด ถ้ามีธุระก็ไปกินกาแฟที่ร้าน จึงขอเสนอทั้ง 2 ท่าน ให้กำลังใจทุกคน ไม่ไปเด็ดขาด ที่นี่คือฝ่ายนิติบัญญัติ” นายอดิศร กล่าว
นายกมลศักดิ์ จึงลุกกล่าวว่า ตนเข้าใจตามที่ประธานชี้แจงและเข้าใจนายรอมฎอน ตามรัฐธรรมนูญ ทุกคนเป็นห่วง เรื่องนี้ประเด็นไม่ต่างจากคดีอื่นๆ ซึ่งจะครบกำหนดอายุความในวันที่ 25 ต.ค.นี้ ประเด็นอยู่ที่ว่าคดีนี้การนับอายุความต้องนับ 20 ปีจากการได้ตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยไปศาล หมายความว่าถ้าพรุ่งนี้ ผู้ที่เป็น สส. ใช้เอกสิทธิ์ไม่ไปศาลก็เป็นเรื่องของสภา ตนเข้าใจว่าประธานไม่มีอำนาจ เพราะเป็นเรื่องของสภา ตนว่าเรื่องนี้ ขึ้นอยู่กับสามัญสำนึกของผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าปิดสมัยสามารถเดินทางไปศาลได้ อยากทำความเข้าใจกับเพื่อนสมาชิกว่าเรื่องนี้จะขาดอายุความในวันที่ 25 ต.ค. และไม่ได้เป็นอำนาจของสภาฯท่านเดียว แต่เป็นเรื่องของทั้งสภาฯ
ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวตัดจบว่า เรื่องนี้ให้ประธานบรรจุ แต่กรณีนี้ไม่มีเรื่องที่มาถึงประธานให้บรรจุ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ห่วงใยเรื่องสิทธิของพี่น้องประชาชน.-315 -สำนักข่าวไทย