รัฐสภา 29 ส.ค.-รัฐสภา มีมติเห็นชอบร่างกรอบความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือรอบด้านระหว่างสหภาพยุโรปและไทย โดยรัฐบาล ย้ำกรอบความตกลงนี้จะเป็นการขยายความสัมพันธ์ที่รอบด้านทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม รวมทั้งถึงการค้าการลงทุนที่ยั่งยืน
การประชุมร่วมกันของรัฐสภา วันนี้ (29 ส.ค.67) ที่ประชุุมได้พิจารณาร่างกรอบความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือรอบด้านระหว่างสหภาพยุโรปและรัฐสมาชิกฝ่ายหนึ่งกับราชอาณาจักรไทยอีกฝ่ายหนึ่ง ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ โดยนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ผู้แทนคณะรัฐมนตรีชี้แจงว่า ความตกลงดังกล่าวสหภาพยุโรปและประเทศไทยได้เจรจามาตั้งแต่ปี 2547 และสามารถจะบรรลุข้อสรุปร่วมกันในปี 2556 แต่เนื่องจากปี 2557 มีสถานการณ์ทางการเมืองเกิดขึ้นจึงไม่สามารถลงนามข้อตกลงได้ ต่อมาเมื่อประเทศไทยมีการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ สหภาพยุโรปจึงมีการขยายความสัมพันธ์กับไทยอีกครั้ง พร้อมรื้อฟื้นความตกลงดังกล่าวและปรับปรุงให้เหมาะสมสอดคล้องกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน จนคณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบความตกลงไปแล้ว สำหรับความตกลงนี้เป็นความตกลงที่ไทยจัดทำอย่างรอบด้านกับสภาพยุโรป และสมาชิกสหภาพยุโรปอีก 27 ประเทศ เพื่อเป็นพื้นฐานในการเพิ่มพูนขยายความสัมพันธ์ร่วมกันในสาขาต่าง ๆ ให้มีทิศทางและแบบแผนร่วมกัน ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งจะครอบคลุมกับหลักการสากลด้านประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน หลักนิติรัฐ และหลักนิติธรรม รวมถึงการค้าการลงทุนที่ยั่งยืน การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมย้ำว่าความตกลงฉบับนี้สอดคล้องกับกฎหมายของประเทศไทย หน่วยงานต่าง ๆ สามารถดำเนินการได้ทันทีโดยไม่ต้องออกกฎหมายภายในประเทศเพิ่มเติมอีก
ขณะที่สมาชิกรัฐสภา ได้อภิปรายสนับสนุนร่างกรอบความตกลงนี้ เพราะจะเป็นประโยชน์กับประเทศไทยและคนไทยในระยะยาว เนื่องจากจะยกระดับความร่วมมือกับประเทศต่างๆ มากถึง 27 ประเทศ ดังนั้นเชื่อว่ากรอบความตกลงนี้จะเป็นเครื่องมือให้ประเทศสร้างดุลยภาพและภูมิรัฐศาสตร์ในเวทีโลกได้ รวมถึงจะเป็นกลไกลสำคัญช่วยให้การเจรจาเขตการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไทยและสหภาพยุโรปราบรื่นและรวดเร็ว หลังการอภิปรายที่ประชุมร่วมรัฐสภา มีมติเห็นชอบด้วยคะแนน 612 เสียง และงดออกเสียง 2 เสียง.-319.-สำนักข่าวไทย