เชียงราย 27 ส.ค.-“ทักษิณ” ลงพื้นที่เชียงราย อู้กำเมือง ให้กำลังใจผู้ประสบภัยน้ำท่วม คนเสื้อแดงแห่รับแน่น ขอโทษเครื่องดีเลย์ 2 ชั่วโมง ทำลงพื้นที่ช้า บอกต้องมาดู เพราะ 17 ปีอยู่เมืองนอก ประชาชนยังจำได้ ถือเป็นบุญคุณ
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.เชียงราย เพื่อมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยมีมวลชนคนเสื้อแดงมารอให้การต้อนรับแน่นพื้นที่ โดยตะโกนอย่างพร้อมเพียงกันว่า”เรารักทักษิณ” ซึ่งจุดแรกไปสถานีขนส่งอำเภอเทิง
โดยช่วงหนึ่งนายทักษิณ อู้กำเมืองว่า ตนมาในฐานะ คนไทยคนหนึ่ง ที่เป็นห่วงประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ตนเห็นว่าตนไปอยู่เมืองนอกมา 17 ปี พี่น้องก็ยังไม่ลืมตน ดังนั้นตนถือว่าตนต้องตอบแทนบุญคุณ มาเยี่ยม มาหา มาดูสารทุกข์สุขดิบ
นายทักษิณ ยังได้ขอโทษประชาชนที่มารอต้อนรับ หลังเดินทางมาล่าช้า 2 ชั่วโมงเนื่องจากเครื่องบินดีเลย์
ขณะที่ช่วงบ่าย นายทักษิณ พร้อม สส.เพื่อไทย ลงพื้นที่ อ.เทิง จ.เชียงราย กล่าวกับผู้ประสบภัยน้ำท่วม ว่าเมื่อมีทุกข์ก็ต้องมาให้กำลังใจ ถือเป็นธรรมชาติของคนไทยที่ต้องรู้จักบุญคุณคน
นายทักษิณ ยังกล่าวว่า จะนำปัญหาที่ได้รับฟังกลับไปแจ้งรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องการเยียวยา ซึ่งน้ำท่วมเป็นภาวะซ้ำซาก เพราะไม่ได้แก้ปัญหาน้ำทั้งระบบ ถ้าเริ่มใหม่วันนี้ ต้องทำทั้งระบบด้วยการตั้งงบประมาณจำนวนมาก ทุกลุ่มน้ำต้องได้รับการดูแลทั้งหมด
ส่วนสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขง พบว่ามีน้ำไหลมากผิดปกติ ดังนั้นจะต้องพูดคุยกับประเทศจีน ที่อาจปล่อยน้ำมาก เพราะจีนเองก็เผชิญปัญหาน้ำท่วม เพื่อหารือเรื่องจังหวะการปล่อยน้ำไม่ให้ล้นตลิ่ง เบื้องต้นทราบว่า กระทรวงการต่างประเทศ อยู่ระหว่างการพูดคุย
สำหรับการจัดการน้ำในประเทศ นายทักษิณ กล่าวว่า แม่น้ำก็เหมือนรถยนต์ ถ้าไม่มีเบรกก็อันตราย ดังนั้นจะต้องติดเบรกด้วยเขื่อน อ่างเก็บน้ำ หรือแก้มลิง
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เล่าให้ฟังว่า กรมชลประทานพร่องน้ำภาคกลางไว้รับน้ำจากภาคเหนือแล้ว เช่น เขื่อนเจ้าพระยา และเขื่อนป่าสัก มีน้ำเหลือเพียง 20% เพียงพอรอรับน้ำได้อีกมาก จึงเชื่อว่าสถานการณ์จะไม่ซ้ำรอยปี 2554
จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเรื่องการตั้งคณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะการออกหนังสือทวงใบกรอกประวัติของพลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ พรรคพลังประชารัฐ จะสะท้อนว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทย จะไม่ให้มีตระกูล “วงษ์สุวรรณ” ในรัฐบาลชุดใหม่ใช่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวเพียงว่า ไม่ทราบเรื่องนี้ เพราะมีคณะกรรมการบริหารพรรคดูแลอยู่ ก่อนจะโยนให้ไปสอบถามกับรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวด้วยกัน.-316.-สำนักข่าวไทย