ซูเปอร์โพลเผยประชาชน 51.7% เชื่อมั่น “นายกฯ แพทองธาร”

กรุงเทพฯ 18 ส.ค. – ซูเปอร์โพล เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นต่อนายกฯ คนใหม่ “แพทองธาร ชินวัตร” พบเกินครึ่ง 51.7% เชื่อมั่นค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ส่วน 48.3% เชื่อมั่นค่อนข้างน้อยถึงไม่เชื่อมั่นเลย ชี้ต้องการให้เร่งแก้ปัญหาปากท้อง ค่าครองชีพ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และหนี้สิน


สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจเรื่องความเชื่อมั่นต่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) รวมจำนวนตัวอย่างในการวิเคราะห์ทางสถิติจำนวนทั้งสิ้น 1,054 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 16-17 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 46.1 เห็นด้วยต่อสภาฯ สนับสนุนนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ในขณะที่ร้อยละ 26.4 ไม่เห็นด้วย และร้อยละ 27.5 ไม่มีความเห็น

ที่น่าสนใจคือเมื่อถามถึงความเชื่อมั่นของประชาชนต่อนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรีหญิงคนรุ่นใหม่ แก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชนได้สำเร็จ พบว่าเกินครึ่ง หรือร้อยละ 51.7 เชื่อมั่นค่อนข้างมากถึง มากที่สุด ในขณะที่ร้อยละ 48.3 เชื่อมั่นค่อนข้างน้อยถึงไม่เชื่อมั่นเลย


ที่น่าพิจารณาคือเมื่อถามถึงปัญหาเร่งด่วนที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร แก้ไข พบว่าส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 74.5 ระบุปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง ค่าครองชีพ รองลงมาคือร้อยละ 46.5 ระบุปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มิจฉาชีพ หลอกลวงประชาชน ร้อยละ 42.1 ระบุปัญหาหนี้ในระบบ ธนาคารและสถาบันการเงิน ร้อยละ 41.9 ระบุปัญหาหนี้นอกระบบ ร้อยละ 36.9 ระบุอาชญากรรม ความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์ของประชาชน ร้อยละ 36.2 ระบุปัญหาแหล่งเงินทุนผู้ประกอบการ นักลงทุนรายย่อย และขนาดกลาง ร้อยละ 34.4 ระบุปัญหายาเสพติด และร้อยละ 12.0 ระบุอื่นๆ ได้แก่ ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ขยะมลพิษ สิ่งแวดล้อม เป็นต้น

รายงานของซูเปอร์โพล ระบุว่าผลโพลชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่าความเชื่อมั่นของประชาชนต่อนายกรัฐมนตรีหญิงคนใหม่อย่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในหลายมิติที่น่าสนใจ ทั้งในแง่ของการสนับสนุนและการมองเห็นถึงความสามารถในการแก้ไขปัญหาของประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชี้วัดความเชื่อมั่นที่ประชาชนมีต่อผู้นำได้เป็นอย่างดี ประเด็นที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลแก้ไข โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ และการหลอกลวงจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แสดงให้เห็นว่าความต้องการด้านความปลอดภัยทางเศรษฐกิจและการเงินยังคงเป็นสิ่งที่เร่งด่วนและสำคัญต่อชีวิตประจำวันของประชาชนในทุกสาขาอาชีพ

รายงานของซูเปอร์โพล ระบุด้วยว่าการเชื่อมั่นที่แบ่งเป็นสองฝ่ายค่อนข้างชัดเจน โดยมีเกินครึ่งที่เชื่อมั่นในความสามารถของนายกรัฐมนตรีหญิงคนใหม่ในการแก้ไขปัญหา แต่ก็มีอีกส่วนหนึ่งที่ยังคงไม่เชื่อมั่น อาจสะท้อนถึงความแตกต่างในความคาดหวังและความต้องการที่หลากหลายของประชาชนในสังคมไทยในปัจจุบัน การติดตามและวิเคราะห์ผลสำรวจเหล่านี้อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้เห็นทิศทางและการตอบสนองของรัฐบาลต่อความคาดหวังของประชาชนได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น และเป็นส่วนสำคัญในการกำหนดนโยบายและแนวทางการบริหารจัดการของรัฐบาลในอนาคต


การพัฒนาและตอบสนองต่อผลสำรวจดังกล่าวนี้อาจรวมถึงข้อเสนอแนะหลายด้านที่นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร และทีมงาน สามารถพิจารณาเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นและตอบโจทย์ปัญหาที่ประชาชนเผชิญอยู่ในปัจจุบันมีต่อไปนี้

1.การสื่อสารที่ชัดเจนและตรงไปตรงมา การสื่อสารนโยบายและการดำเนินงานของรัฐบาลอย่างชัดเจนและเข้าใจง่ายจะช่วยให้ประชาชนมีความเข้าใจที่ดีขึ้น และเพิ่มความเชื่อมั่นในรัฐบาลได้ โดยเฉพาะในเรื่องที่ประชาชนมีความกังวลสูงอย่างเรื่องเศรษฐกิจและความปลอดภัยทางการเงิน

2.การพัฒนาและปรับปรุงนโยบายเศรษฐกิจ รัฐบาลควรพิจารณานโยบายที่ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนเร่งด่วน เช่น การควบคุมราคาสินค้าและบริการพื้นฐาน การสนับสนุนการจ้างงาน และการช่วยเหลือด้านการเงินสำหรับครัวเรือนที่มีรายได้น้อย

3.มาตรการปราบปรามการหลอกลวงและอาชญากรรมทางการเงิน การกำหนดมาตรการเข้มงวดและการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังในการป้องกันและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมทางเศรษฐกิจอื่นๆ จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชน

4.การจัดการปัญหาหนี้สิน นโยบายที่ช่วยบรรเทาปัญหาหนี้สินของประชาชนทั้งในและนอกระบบธนาคาร อาจรวมถึงการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือด้านการเงิน การปรับโครงสร้างหนี้ และการส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มีความยืดหยุ่นและเป็นธรรม

5.การเสริมสร้างการศึกษาและการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมสังคม การลงทุนในการศึกษาและการส่งเสริมวัฒนธรรมที่เน้นความโปร่งใสและความรับผิดชอบจะช่วยสร้างสังคมที่มีความยั่งยืนและลดปัญหาทุจริตคอร์รัปชันได้

การใช้ข้อมูลจากการสำรวจและการวิจัยอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้รัฐบาลตอบสนองต่อความต้องการและความคาดหวังของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันเวลา ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มความเชื่อมั่นในรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และการสนับสนุนนโยบายอย่างต่อเนื่อง.-316-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]