พรรคภูมิใจไทย 13 ส.ค.-ภูมิใจไทย เคาะเลือก “ภราดร” ลงชิงรองประธานสภาฯ คนที่ 1 “ไชยชนก” มองมีประสบการณ์การเมืองโดดเด่น เผยจุดยืน ภท. ค้าน 4 ประเด็น พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ หลังวานนี้แกนนำรัฐบาลให้การบ้านพรรคร่วมเสนอความเห็น บอกไม่ตอบโจทย์รัฐ-ประชาชน
นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย แถลงผลการประชุม สส.พรรคประจำสัปดาห์ ว่า จากการประชุมหารือหัวหน้าและเลขาธิการพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวานนี้ (12 ส.ค.) มีสาระสำคัญหลักๆ คือ การหารือในตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 รวมถึงได้มีการส่งร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ให้พรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด เพื่อพิจารณาและคอมเมนต์กลับไปยังรัฐบาล ที่ประชุมพรรคจึงมีการลงมติ 2 เรื่องนี้
โดยมติที่ประชุม สส.พรรค เรื่องแรก รับรองรายชื่อส่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 มีมติร่วมกันส่งนายภราดร ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรค ชิงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ซึ่งไม่ว่าสภาฯ จะมีวาระการเลือกเมื่อใด ก็มีความชัดเจนในเรื่องนี้
นายไชยชนก ยังกล่าวว่า ผลงานของนายภราดร และประสบการณ์ในการทำงานด้านการเมือง ไม่ว่าจะเป็นในพื้นที่ หรือในสภาฯ มีความโดดเด่นอยู่แล้ว ซึ่งมติเป็นเอกฉันท์ ไม่มีความเห็นต่างแม้แต่ท่านเดียว
ส่วนจะต้องคุยกับวิปรัฐบาลหรือไม่ เพราะพรรคเพื่อไทยออกมาระบุก่อนหน้านี้ว่า จะมีการเลือกในวันพรุ่งนี้ และกลับเลื่อนออกไปโดยไม่มีกำหนด นายไชยชนก ยืนยันว่า ไม่ติดขัดว่าจะเลือกเมื่อใด เนื่องจากมีความชัดเจนว่า แคนดิเดตของเราคือใคร และได้มีการแจ้งไปแล้ว และไม่ว่าจะเข้าเมื่อใด ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของมติวิป ไม่ได้คิดว่าเป็นวันพุธนี้ หรือวันพุธหน้า
ส่วนคาดหวังจะให้เร็วที่สุดหรือไม่ นายไชยชนก กล่าวว่า จริงๆ แล้วได้เชิงการปฏิบัติเร็วก็จะดี แต่ไม่น่าจะเป็นปัญหา ไม่ว่าจะสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้า พร้อมยืนยันว่า ไม่มีความกังวล
ทั้งนี้หากดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 จะต้องลาออกจากกรรมการบริหารพรรคหรือไม่ นายไชยชนกระบุว่า จะต้องลาออกจากกรรมการบริหารพรรค รวมถึงประธานกรรมาธิการและตำแหน่งอื่นๆ
เมื่อถามว่าหากได้ดำรงตำแหน่งจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่ นายภราดร หัวเราะก่อนจะกล่าวต่อว่า ยังไม่รู้จะเลือกเมื่อไรเลย ประเด็นนี้ขออย่าเพิ่งพูดคุยกันให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อน หากเป็นไปอย่างที่คาดการณ์กันค่อยมาตั้งโต๊ะคุยกันอีกครั้งหนึ่ง เพราะการเมืองไทยไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น
ส่วนกังวลหรือไม่เนื่องจากจะมีการตรวจรับสภาฯในช่วงนี้ นายภราดร กล่าวว่าเป็นเรื่องของรัฐสภาไม่เกี่ยวกับพวกเราที่อยู่นี้
ส่วนจุดยืนของพรรคภูมิใจไทย เกี่ยวกับร่างพ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจร ภูมิใจไทยไม่เห็นด้วย ที่ในสาระสำคัญมีอยู่ 4 ประเด็น คือจะไม่แก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและ อาจจะทำให้พนันบนดินและใต้ดิน อาจเป็นปัญหาต่อไป รวมถึงเรื่องผลประโยชน์ต่อรัฐและต่อประชาชนที่รู้สึกว่าไม่ค่อยมีความชัดเจนและยังไม่มากพอ สำหรับการลงทุนทำเรื่องเช่นนี้ ส่วนผลกระทบในเชิงการกลับคืนและกระตุ้นการท่องเที่ยว และไม่มั่นใจ 100% ว่าการทำกาสิโนจะเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศไทย เนื่องจากเรามีหลายสิ่งหลายอย่างที่จะเป็นเสน่ห์ เชื้อเชิญนักท่องเที่ยวในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาและการพนันไม่ใช่ใช่หนึ่งในนั้น และหากดูตามร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ในเบื้องต้น ไม่เห็นมาตราไหน ที่ระบุในเรื่องการอำนวยช่วยเหลือดูแลแรงงานชาวไทยในการจ้างงาน ซึ่งเป็นเหตุผลที่เราได้ทำการ ตอบกลับไปและเชื่อว่าพรรคร่วมจะเห็นไปในทิศทางเดียวกัน จึงขอรอดูและหวังว่ารัฐบาลจะนำประเด็นเหล่านี้ไปพิจารณา
ทั้งนี้ดูภาพรวมของกฎหมายกาสิโน เป็นเช่นไร นายไชยชนก ระบุว่าประโยชน์ที่ดูหลักๆ ยังไม่ตกเข้ามาสู่รัฐและประชาชนมาก เท่าที่เราจะเห็น จึงได้มีการส่งข้อสังเกตไปแล้ว จึงอยากขอดูการปรับรอบที่ 2 ว่าจะมีการปรับแก้อย่างไร
ส่วนที่มีการตั้งสเปคของบ่อนกาสิโนที่ต้องมีเงินทุนจดทะเบียนหมื่นล้าน นายภราดร กล่าวว่า เป็นประเด็นที่ทางพรรคตกผลึกกัน เช่นเดียวกับที่นายไชยชนกชนกกล่าวข้างต้น ซึ่งได้รับโจทย์จากรัฐบาล ให้พรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรคแสดงความคิดเห็น.-319.-สำนักข่าวไทย