นายกฯ สั่งการเร่งวางแนวทางจัดการปัญหาสารเคมีรั่วไหล 7 พื้นที่

กทม. 8 ส.ค.-นายกฯ สั่งการเร่งวางแนวทางจัดการปัญหาสารเคมีรั่วไหล 7 พื้นที่ เน้นย้ำกำหนดมาตรการที่ชัดเจนเป็นระบบและรูปธรรม ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำ

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยความคืบหน้าการดำเนินการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาสารเคมีรั่วไหล ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567 ซึ่งเห็นชอบตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เสนอให้แก้ไขปัญหาสารเคมีรั่วไหล และกำหนดมาตรการที่ชัดเจนในการควบคุมสถานการณ์และผลกระทบต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อประชาชนและสังคมโดยรวม ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้บูรณาการร่วมกันวางแนวทางการจัดการปัญหาสารเคมีรั่วไหลในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมเตรียมเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พิจารณายกระดับพื้นที่เป็นเขตควบคุมมลพิษ เพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูพื้นที่และเยียวยาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบต่อไป


โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรมบูรณาการความร่วมมือกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกันวางแนวทางการจัดการปัญหาสารเคมีรั่วไหล จำนวน 7 พื้นที่ ในจังหวัดระยอง พระนครศรีอยุธยา นครราชสีมา และเพชรบูรณ์ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม โดยหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน เช่น การเยียวยาช่วยเหลือ การป้องกันปริมาณน้ำฝนไม่ให้ชะล้างสารเคมีหรือกากอุตสาหกรรมไหลปนเปื้อนออกสู่พื้นที่ของชาวบ้านข้างเคียง การบำบัดกำจัดของเสียและกากอุตสาหกรรมอย่างถูกต้อง รวมถึงการฟื้นฟูดิน น้ำใต้ดินและสภาพแวดล้อมโดยรอบ พร้อมทั้งร่วมกันจัดทำแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหาโดยการยกระดับเสนอให้พื้นที่ที่มีการลักลอบทิ้งของเสียและกากอุตสาหกรรมดังกล่าวเป็นเขตควบคุมมลพิษ เพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูพื้นที่และเยียวยาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 เสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพิจารณาต่อไป

นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคีเครือข่ายภาคอุตสาหกรรม ยังร่วมกันจัดโครงการ “อุตสาหกรรมรวมใจ” รวมพลัง ร่วมแรงร่วมใจ ช่วยเยียวยา บรรเทาปัญหาและความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในพื้นที่ในเบื้องต้น เช่น การมอบถุงยังชีพและหน้ากากอนามัย การจัดให้มีบริการตรวจสุขภาพ การกำจัดบำบัดของเสีย การสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมและการบริหารจัดการของเสียและกากอุตสาหกรรม รวมถึงการสนับสนุนเครื่องจักร อุปกรณ์ เครื่องมือ และบุคลากรเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ เพื่อแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนให้ได้มากที่สุด


“นายกรัฐมนตรี เห็นถึงความสำคัญและความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ขับเคลื่อนความร่วมมือจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการความร่วมมืออย่างเต็มกำลังสู่การลดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ที่ประสบปัญหาสารเคมีรั่วไหล พร้อมเน้นย้ำถึงการกำหนดแนวทางและมาตรการป้องกันที่เคร่งครัด ชัดเจน เป็นระบบ และครอบคลุมทุกขั้นตอน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวอีก และเพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อประชาชนและสังคมโดยรวม” นายชัย กล่าว.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ