ทำเนียบ 1 ส.ค.- “เศรษฐา” ยันทำงานเต็มที่ตราบใดที่ยังเป็นนายกฯ หลังถูกจับตาคำวินิจฉัยศาล รธน. 14 ส.ค.นี้ เมินลูกพรรคพลังประชารัฐ แซะ มองเป็นเรื่องภายในพปชร. บอก ไม่ต้องเคลียร์ใจกับ “ร.อ.ธรรมนัส” ชี้ ถ้าดีก็รับฟัง ถ้าไม่ดีก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีการจับตาถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเรื่องคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรี ของนายกฯ กรณีตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า สถานการณ์ทางการเมืองหลังวันที่ 14 สิงหาคม ยืนยันว่าได้มีการเซ็นและส่งคำแถลงปิดคดีไปตั้งแต่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาแล้ว (30 ก.ค.) และก็อยู่ในกระบวนการยุติธรรมแล้ว ตนไม่อยากก้าวล่วงว่ามั่นใจหรือไม่ แต่มั่นใจว่าทำด้วยความซื่อสัตย์สุจริต บริสุทธิ์
ส่วนกระแสข่าวเรื่องนายกฯ สำรอง นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็แล้วแต่จะคิดกันไป แต่วันนี้ตนทำงานเต็มที่และยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่
ส่วนวันที่14 ส.ค.นั้นศาลตัดสินอย่างไรนั้น ตนก็น้อมรับ เชื่อว่ากระบวนการการเมือง ก็มีขั้นตอน แต่วันนี้ตราบใดที่ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ก็ทำงานเต็มที่ ขณะในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลก็มีการคุยกันดี แต่ไม่ได้เจอ พลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หลายวันแล้ว เข้าใจว่าท่านป่วยก็ขอให้ท่านหายดี แต่เมื่อคืนเจอร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่งานศพ ก็มีการคุยกันดี
เมื่อถามถึงกรณีที่สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ แซะนายกรัฐมนตรี ทำให้เกิดความหวั่นไหวในการทำงานหรือไม่ นายเศรษฐา ระบุว่า ไม่เลยเพราะเป็นเรื่องภายในของเขา ตนไม่เคยรู้จักมาก่อน และอย่างที่บอกคำว่าแซะก็มีนัยเยอะแยะไปหมด ในส่วนตัวโฟกัสที่เนื้อหาสาระมากกว่า ถ้าเข้ามาแนะนำที่เป็นเรื่องที่ดี จะเป็นพรรคเดียวกันหรือพรรคฝ่ายค้าน ตนก็ยินดีรับฟัง และนำไปแก้ไขปฏิบัติ แต่ถ้าเป็นอะไรที่เป็นเรื่องของการแซะ ไม่มีเหตุไม่มีผล อันนี้ตนก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา
เมื่อถามว่าร้อยเอกธรรมนัส ได้มาชี้แจงหรือไม่ ถึงเหตุผลที่ลูกพรรคออกมาทำแบบนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ และร้อยเอกธรรมนัส รู้จักตนดี อยู่แล้ว คิดว่าไม่มาเสียเวลาคุยกันเรื่องพวกนี้ดีกว่า แต่คุยกันเรื่องปลาหมอคางดำหรือเรื่องงาน เรื่องกรมชลประทาน ที่จะเข้าไปดูแลดีกว่า ตนว่าเรื่องพวกนี้สำคัญมากกว่า ท่านธรรมนัสท่านรู้ใจผมดี และผมก็รู้ใจท่านดี ว่าอะไรเป็นเรื่องสำคัญ เรามายืนอยู่ตรงนี้ยืนเพื่ออะไร มายืนเพื่อพี่น้องประชาชน แต่อย่างที่บอกถ้ามีอะไรที่เป็นการแนะนำที่มีประโยชน์ ตนก็พร้อมรับฟัง และหากรับฟังไปแล้วเป็นเรื่องที่ดี ที่ต้องมีการติดต่อพูดคุยกับตัวแทนพรรค ก็จะมีการพูดคุยกันต่อไป
ส่วนกระแสข่าวที่จะมีการเอาพรรคพลังประชารัฐรัฐออกจากพรรครวมรัฐบาล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนยังไม่เคยคุย วันนี้เรามาโฟกัสที่ปัญหาบ้านเมืองดีกว่า .-316 -สำนักข่าวไทย