ก้าวไกลแนะ “พีระพันธุ์” คุยพรรคใหญ่หั่นงบเงินดิจิทัล ลดค่าไฟ

รัฐสภา 25 ก.ค.- “ก้าวไกล” แนะ “พีระพันธุ์” กล้าคุยพรรคใหญ่ขอหั่นงบดิจิทัลวอลเล็ต ช่วยลดค่าไฟแพง แซะคงคุยกันง่าย หลังรูปนายทุนพลังงานร่วม “ก๊วนเขาใหญ่”


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2 นายศุภโชติ ไชยสัจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โดยนายกฯ มอบหมายให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นผู้ตอบกระทู้ถามแทน

นายศุภโชติ ได้อภิปรายถึงราคาน้ำมันแพงและพลังงานที่แพงขึ้นในขณะนี้ว่า ในฐานะ สส. ได้ยินเสียงบ่นด่าของประชาชนราคาน้ำมันแพง รับไม่ไหว มาตรการตึงราคาน้ำมันดีเซลราคาลิตรละ 33 บาท มาพร้อมปัญหา กลุ่มผู้ใช้น้ำมันเบนซินกลับไม่มีมาตรการช่วยเหลือ จึงอยากจะถามว่ามีมาตรการที่ดีกว่านี้หรือไม่ เพราะท่านทำแบบเดิมให้กองทุนน้ำมันแบกรับส่วนต่างด้านราคา กองทุนน้ำมันติดลบกว่า 110,000 ล้านบาท สุ่มเสี่ยงต่อการล้มละลาย แม้ท่านจะบอกว่าให้กองทุนไปกู้ธนาคารพาณิชย์ ให้กระทรวงการคลังค้ำประกัน ธนาคารที่ไหนจะกล้าให้กู้ ในเมื่อหนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตนอยากให้ท่านถามพรรคร่วมรัฐบาล ถ้าประเทศรายได้ลดลง เงินที่พรรคแกนนำรัฐบาลจะเอามาทำดิจิทัลวอลเล็ตจะพอหรือไม่ นอกจากกกกองทุนหรือการลดภาษีสรรพสามิต มีมาตรการหรือวิธีการอย่างไรที่จะช่วยลดราคาน้ำมันให้กับประชาชน


นายพีระพันธุ์ ลุกขึ้นชี้แจงว่า ก่อนเป็นรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน ก็ไม่ต่างจากประชาชนทั่วไป ไม่รู้เรื่องว่าอะไรคืออะไร ถึงเวลาก็ต้องจ่ายค่าน้ำมัน ไปเติมที่ปั๊มขึ้นราคาเท่าไหร่ก็จ่ายไปเท่านั้น ปัญหาจะแก้ด้านขวาก็มาเจอด้านซ้าย พอมาเป็นรัฐมนตรีเห็นปัญหาต่างๆ ที่เป็นประเด็น รวมถึงภาระกองทุนน้ำมันที่กำหนดเอาไว้กว่า 40 ปี ไม่มีใครคิดจะปรับปรุงแก้ไข ใช้แต่กองทุนน้ำมัน ได้รู้ว่าค่าน้ำมัน 38-40 บาทต่อลิตร เพราะไทยมีเนื้อน้ำมันผสม 2 สูตร คือแก๊สโซฮอล์กับไบโอดีเซล ราคาอยู่ที่ 21 บาท ส่วนภาษีน้ำมัน ถ้าจะช่วยประชาชนก็ต้องเก็บพอสมควร แต่ถ้าต้องการหารายได้เข้ารัฐก็ต้องเก็บเยอะ ทำอย่างไรจึงจะอยู่ในความพอดี ในอาเซียนมีแค่ 3 ประเทศที่เก็บภาษี คือ ไทย สิงคโปร์ และเวียดนาม ไทยเก็บสรรพสามิต 5.99 บาท อีกทั้งต้องเสียภาษีบำรุงท้องถิ่น 60 สตางค์ ราคาอยู่ที่ 6.50 บาท รวมทั้ง vat และเงินเข้ากองทุนอนุรักษ์พลังงาน ประชาชนต้องแบกภาระสองต่อ ทำให้ทำให้ราคาน้ำมันแพงถึงเกือบ 40 บาท

อำนาจหน้าที่ของกระทรวงพลังงานคือการกำหนดภาษี แต่ไม่ได้เก็บ คนเก็บคือกระทรวงการคลัง แต่กฎหมายกองทุนน้ำมันที่ออกมาใหม่ ตัดอำนาจออกเหลือแต่ใช้เงิน นี่คือสาเหตุทำให้หนี้กองทุนน้ำมัน รัฐบาลเป็นหนี้กว่า 50,000 ล้านบาท เพราะไม่สามารถกำหนดเพดานภาษีได้ ปัญหาที่ผ่านมามัวแต่ใช้เงินยัน ไม่คิดวิธีอื่น ตนคิดเหมือนท่านว่าไม่คิดกันบ้างหรือไง และวันนี้ตนกำลังคิดและกำลังทำ เราทำอะไรไม่ได้ถ้าไม่มีกฎหมาย ท่านต้องดูกฎหมายกองทุนน้ำมันมีอำนาจตรงไหนให้กระทรวงพลังงานหรือรัฐมนตรีพลังงานทำได้ ไม่มีเลย พูดเปรียบเทียบมาตลอดจะขึ้นราคาต้องขออนุญาต

จากนั้น นายศุภโชติ ลุกขึ้นตอบกลับว่า ตนเพิ่งทราบว่าท่านจะแก้ไขกฎหมาย แต่ไม่มั่นใจว่าการเข้าไปแทรกแซงราคาเป็นผลดีหรือผลเสียกับประชาชนมากกว่ากัน ต้องขอดูรายละเอียดก่อน และมาถกกันทีหลัง สำหรับประเด็นที่สองเรื่องค่าไฟแพงขึ้นถึง 4.60 บาท หรือ 6 บาทต่อหน่วย ค่าไฟจริงๆอยู่ที่ 4.10 เพราะต้องนำเงินไปใช้หนี้จากมาตรการในอดีต หนี้ก้อนนี้ 100,000 กว่าล้านบาท หากยังใช้กลไกเดิมๆ หนี้อาจจะขยายไปถึง 150,000 ล้านบาท จึงอยากจะถามว่า จะเอาอย่างไรกับหนี้เก่า แล้วหนี้ใหม่ในอนาคตที่กำลังจะเพิ่มขึ้น


ตนขอเสนอให้รัฐมนตรี กล้าคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะขอแบ่งงบกลางมา 30,000-40,000 ล้านบาท แทนที่จะเอาเงินตรงนี้ไปทำดิจิทัลวอลเล็ต เอามาลดค่าไฟลดค่าครองชีพให้กับประชาชน อย่าให้เอางบกลางไปทำนโยบายของพรรคเขาเพียงคนเดียว แบ่งมาบ้าง ตนจำว่าตอนพรรคท่านหาเสียง เคยหาเสียงว่าจะลดค่าไฟให้กับประชาชน งบกลางควรจะเป็นของทุกพรรคร่วมรัฐบาล ควรแบ่งมาลดค่าไฟมาตามนโยบายที่หาเสียง รัฐบาลถึงจะไปต่อได้ หรือถ้าพรรคใหญ่ดึงดันไม่ให้ใช้งบกลาง ตนแนะนำให้หันหลังกลับมาคุยในพรรครวมไทยสร้างชาติ คุยกับนายทุนพลังงานเจ้าของโรงไฟฟ้า เรื่องสัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่ไม่เป็นธรรมกับประชาชน ตนเชื่อว่ารัฐมนตรีมาถึงตรงนี้ท่านเข้าใจว่าประชาชนต้องจ่ายเงินฟรีให้กับโรงไฟฟ้าที่สร้างแล้วไม่ได้เดินเครื่อง ตนแนะนำให้คุยกับนายทุนพลังงาน เพราะรูปที่ออกมาจากเขาใหญ่แสดงให้เห็นว่าพวกท่านสนิทกันดี ไม่ใช่เพื่อใครแต่เพื่อประโยชน์ของประชาชน ถึงเวลาหรือยังที่จะใช้อำนาจรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานแก้ไขปัญหา

ด้านนายพีระพันธุ์ ชี้แจงว่า เป็นปัญหาที่หมักหมมก่อนตนเป็นรัฐมนตรี ตนให้คณะกรรมการกฤษฎีกาและอัยการ ดูสัญญาว่าจะปรับลดหรือแก้ไขอะไรได้บ้าง เพราะการไฟฟ้าเป็นหน่วยงานของรัฐไม่ใช่เอกชน ไม่จำเป็นต้องหากำไรเข้าบริษัท แบ่งปันให้ผู้ถือหุ้น แต่ต้องมีเงินนำส่งรัฐบาล ตนเห็นตรงกับท่านต้องมานั่งคิดว่าจะทำอย่างไรให้ต้นทุนไฟฟ้าถูก ลงมอบนโยบายให้ผู้ว่าฯ คนใหม่ไปคิดมาแล้ว

นายศุภโชติ ยังได้ถามต่ออีกว่า การแบกหนี้เหมือนระเบิดเวลา ค่าไฟ-น้ำมันเป็นผลพวงมาจากการวางแผนที่ผิดพลาดในอดีต เกิดจากการสร้างโรงไฟฟ้าเกินความจำเป็น เพื่อความเป็นธรรม ปัญหานี้ นายพีระพันธุ์ ไม่ได้ก่อเพราะปัญหามีมาก่อนที่ท่านจะเข้ามาดำรงตำแหน่ง แต่ร่างแผนพลังงานชาติฉบับใหม่ที่ออกมาเมื่อเดือนมิถุนายน ท่านทำผิดพลาดเหมือนเดิม ภายใต้การบริหารของท่าน

“ท่านกำลังทำให้ประเทศนี้มีโรงไฟฟ้าเกินความจำเป็น เพิ่มขึ้น 8 โรงใน 13 ปี ร่างแผนนี้กำลังนำพาประเทศไปในทิศทางที่เลวร้าย ค่าไฟแพงขึ้น ลดการปล่อยมลพิษไม่ได้ ท่านต้องทำงานเพื่อประเทศชาติไม่ใช่เพื่อเอาใจในทุนพลังงาน ตนยังสงสัยว่าใครคือรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานที่แท้จริง ช่วยยืนยันกับสภาและประชาชนว่าท่านคือรัฐมนตรีของประเทศไทย กำลังทำงานเพื่อประชาชน”

นายพีระพันธุ์ ชี้แจงว่า ร่างแผนดังกล่าวตนไม่ได้เป็นคนร่างเป็นเพียงแค่ผู้กำกับ แต่แผนจะกำหนดค่าไฟให้อยู่ที่ 3.80-3.90 บาท แผนรูปแบบใหม่ต้องนำเทคโนโลยี และหน่วยงานหลักต้องคิดจะทำอย่างไรให้ค่าไฟถูกลง ท้ายที่สุดตนก็ต้องจ่ายค่าไฟ พร้อมย้ำว่า รัฐมนตรีพลังงานชื่อ พีระพันธุ์ ถ้าท่านเป็น สส. แล้วไม่ทราบ ต้องกลับไปทบทวน .-317 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. แต่งตั้งนายพล 250 ตำแหน่ง

1 ก.ย. – เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. บัญชีแต่งตั้งนายพลตำรวจ 250 ตำแหน่ง “บิ๊กเต่า” แห้ว “นพศิลป์” ได้ขึ้น พล.ต.ท. เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม 2568 ที่ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (รองประธาน ก.ตร.) เป็นประธานการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 8/2568 วาระแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับผู้บังคับการ (ผบก.) ถึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ประจำปี 2568 โดยแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น และโยกย้ายสับเปลี่ยน กว่า 250 ตำแหน่ง ทั้งนี้ ก.ตร.ครบองค์ประชุม ขาดเพียงนายภูมิธรรม […]

“บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทนอดีตพระอลงกต

กรุงเทพฯ 1 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ส่วน “สมปอง” ยังอยู่ในข่ายถูกดำเนินคดี แม้อ้างว่าเป็นการยืมเงินและคืนไปบางส่วนแล้ว ขณะที่วง “พิงค์แพนเตอร์” ประสานเข้าพบตำรวจเร็วๆ นี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนคดี “อลงกตการละคร” ระบุว่า คดีมีความคืบหน้าไปพอสมควร และมีตัวละครที่สามารถดำเนินคดีได้หลายคน แต่ตำรวจต้องการพยานหลักฐานมาประกอบข้อมูลตรงนี้ให้ชัดเจนมากขึ้นก่อน ซึ่งตอนนี้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามทยอยเรียกสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องมากขึ้นเรื่อย ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบขยายผลเส้นทางการเงินและทรัพย์สิน โดยเฉพาะประเด็นที่มีคนใกล้ชิด อักษรย่อ นางสาว ว. ถือครองโฉนดที่ดินมูลค่ารวม 140 ล้านบาทนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่าตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบบุคคลเกี่ยวข้องทั้งหมด โดยในจำนวนนั้นยอมรับว่ามีอดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ด้วย โดยทั้งคู่มีพฤติกรรมคล้ายๆ กัน คือ เข้าไปหาผลประโยชน์ และไม่ใช่เพียงผลประโยชน์จากเงินวัดก้อนเดียว แต่หาผลประโยชน์จากกลุ่มเครือข่ายด้วย ซึ่งมีมูลค่าเงินจำนวนมาก และทางอดีตพระอลงกต ก็มองว่าตนเองถูกรังแก ถูกโกงเงินไป ทั้งเรื่องคอนเสิร์ต เรื่องที่ดิน และถือครองทรัพย์สินแทน […]

พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ

พรรคกล้าธรรม 30 ส.ค.-พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์ โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ ชี้ปล่อยให้ประเทศเกิดสุญญากาศไม่ได้ เผยภูมิใจไทยรับข้อเสนอ แก้ กม.ต้องไม่กระทบสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อเวลา 15.55 น. พรรคกล้าธรรม (กธ.) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากความเป็นนายกรัฐมนตรี จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทำให้คณะรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และจะต้องมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ต่อไปว่า คณะกรรมการบริหารพรรค ร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ได้ร่วมกันพิจารณารับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรคทุกท่าน เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินการของพรรค รวมถึงพิจารณาข้อเสนอของพรรคภูมิใจไทย โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า พรรคกล้าธรรม จะลงมติในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สนับสนุนให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 เนื่องด้วยสถานการณ์ของประเทศไทยขณะนี้ จำเป็นที่จะต้องมีฝ่ายบริหารมาขับเคลื่อนและแก้ปัญหาให้กับประชาชนในทุกด้าน ทั้ง ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ ปัญหาเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศ ปัญหาสังคมด้านต่าง ๆ อย่างเร่งด่วน โดยไม่สามารถประวิงเวลาไปได้อีก พรรคกล้าธรรม ได้แสดงจุดยืนของพรรคให้กับพรรคภูมิใจไทยทราบ คือ 1.พรรคกล้าธรรม ยึดถือ […]

“เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล

พรรคประชาธิปัตย์ 31 ส.ค.- “เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล กร้าว ถ้าหนุนก็ไม่เหลือความเป็นคน บอก รัฐประหาร 100 ครั้ง ก็ไม่เลวร้ายเท่าฮั้ว สว. ยกอำนาจให้คนเดียวชี้ขาดประเทศ ย้ำคดีเขากระโดง ต้องเอาผิดให้เด็ดขาด บอก 2-3 เดือน ก็ยุบสภาได้ ไม่ต้องรอ 4 เดือน นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุภายหลังการเจรจากับพรรคประชาชน ที่พรรคร่วมรัฐบาลรับเงื่อนไขทั้งหมดของพรรคประชาชน ว่า จริงๆ เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย กับพรรคประชาชน ตนไปเป็นเพื่อนเขา ส่วนประเด็นเป็นเรื่องของทั้งสองพรรคต้องคุยกัน เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้รับเงื่อนไขทั้งหมดใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ปฏิบัติตามเงื่อนไขของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด ส่วนจะนำข้อหารือระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน เข้าสู่ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ด้วยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยอมรับว่า อาจอยู่ในวาระอื่นๆ เนื่องจากมีวาระสำคัญอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับข้อเสนอของพรรคประชาชนและและข้อเสนอเพิ่มเติมของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยืนยันว่า […]

ข่าวแนะนำ

พายุหนองฟ้ายังไม่สิ้นฤทธิ์ หลายพื้นที่ภาคเหนืออ่วม

1 ก.ย. – พายุ “หนองฟ้า” แม้อ่อนกำลังลงแล้ว แต่ยังไม่สิ้นฤทธิ์ ทำให้หลายพื้นที่ทางภาคเหนือมีฝนตกต่อเนื่องนับสัปดาห์ จนเกิดน้ำป่าหลากจากบนดอยสูงหลายจุด โดยเฉพาะภาพน้ำป่าหลากลงมาผ่านน้ำตกผาแก่งสร้อย ในอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนภูมิพล กลายเป็นภาพที่สวยงามแต่น่ากลัว นอกจากนี้ยังมีน้ำทะลักท่วมภาคเหนือตอนล่าง ทั้งที่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ และอีกหลายอำเภอของ จ.พิษณุโลก.-สำนักข่าวไทย

เปิดวงจรปิดล่า 4 คนร้ายลอบวางระเบิดตู้ ATM

1 ก.ย. – เปิดภาพวงจรปิดไล่ล่า 4 คนร้าย สวมชุดปิดบังอำพราง พร้อมอาวุธครบมือ ลอบวางระเบิดตู้ ATM ในพื้นที่ จ.ยะลา โดยพยายามปล้นเงินในตู้เซฟ แต่ไม่สามารถนำเงินออกมาได้ กล้องวงจรปิดในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง สาขาบ้านบุ อ.เมืองยะลา จับภาพเมื่อเวลาประมาณ 01.15 น. มี 4 คนร้ายใส่ชุดปิดบังอำพราง สวมหมวกปีกปิดหน้า ถืออาวุธปืน ลอบนำระเบิดแสวงเครื่องมาวางระเบิดตู้ ATM จากนั้นทั้ง 4 คน หลบไปซ่อนตัว ผ่านไปประมาณ 1 นาที เกิดระเบิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 01.16 น. โดยคนร้าย 2 คน พยายามงัดตู้เซฟเก็บเงิน ส่วนอีก 2 คน ถือปืนประกบ แต่ไม่สามารถงัดตู้เซฟออกมาได้ จึงหลบหนีไปในเวลา 01.18.10 น. หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ปิดกั้นพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมประสานชุดเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา เข้าตรวจสอบเมื่อเช้าที่ผ่านมา […]

“ปชน.” ยังไม่เคาะโหวตนายกฯ ประชุมต่อพรุ่งนี้

พรรคประชาชน 1 ก.ย.- “ปชน.” ยังไม่เคาะโหวตเลือกใครเป็นนายกฯ พรุ่งนี้ประชุมต่อ “พริษฐ์” เผยสุดท้าย จบ กก.บห.เหตุต้องรับผิดชอบ ไม่ปล่อยโหวตในวง สส. ยันไม่ใช้อารมณ์มาตัดสิน แต่ไม่ลืมอดีตเพื่อไทยฉีก MOU – ภูมิใจไทย ซัด “พิธา” นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคประชาชน เปิดเผยภายหลังประชุมกรรมการบริหารพรรค และ สส. นับ 90 คน นานเกือบ 4 ชั่วโมงว่า ที่ประชุมมีความเห็นที่หนักหลายหลายคนแสดงความคิดเห็น และมีความหนักใจในการเลือกทางใดทางหนึ่ง ที่ประชุมจึงได้ข้อสรุปว่าเจ้าของประชุมในวันพรุ่งนี้ต่อ เพื่อให้สส. ที่มาในวันนี้และแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม รวมทั้ง สส.ที่ไม่ได้มาร่วมประชุมในวันนี้แสดงความคิดเห็นด้วย ก่อนจะนำความเห็นของสส.มาประกอบกับภาคส่วนอื่น ๆ ซึ่งในการพูดคุยมี 2 ประเด็นที่ชัดเจนคือ ยังยืนยันจุดยืนเดิมว่าสิ่งที่ตอบโจทย์ประเทศ คือ การเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว ซึ่งพรรคประชาชนได้ออกมาเรียกร้องเรื่องยุบสภามาโดยตลอด ตั้งแต่มีคลิปเสียงหลุดออกมา เพียงแต่ผู้มีอำนาจไม่ตอบสนอง วันนี้ยังยืนยันว่าการยุบสภาและการเลือกตั้งใหม่โดยรวมเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ประเทศ หากรักษาการนายกรัฐมนตรี ที่มีอำนาจยุบสภาจะยืนดำเนินการยุบสภาก็จะสอดคล้องกับจุดยืนของพรรค ซึ่งพรรคยินดีและพร้อมเลือกตั้ง แต่หากรักษาการนายกไม่ยุบสภาและมีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งรวบรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่ง ก็ต้องใช้กระบวนการพิจารณาเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่เพื่อนำไปสู่การยุบสภาและเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว […]

“วันนอร์” ยันสภาพร้อมโหวต “นายกฯ คนใหม่”

กทม.1 ก.ย.- “วันนอร์” ยันสัปดาห์นี้ สภาฯ พร้อมโหวต “นายกฯ คนใหม่” แต่ต้องให้ทุกฝ่ายมีความพร้อม ชี้ต้องมีรัฐบาลชุดใหม่โดยเร็ว เพื่อไม่ให้กระทบงบประมาณและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ ว่า สัปดาห์นี้ ได้ออกระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร 3 วัน คือวันที่ 3-5 กันยายน โดยวันพุธที่ 3 กันยายน จะเป็นการพิจารณากฎหมาย ส่วนวันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน จะเป็นการพิจารณากระทู้แต่ต้องยกเลิกไปเนื่องจาก คณะรัฐมนตรีทุกคนพ้นจากตำแหน่ง จึงไม่สามารถตอบกระทู้ถามได้ แต่ยังมีเรื่องเพื่อทราบ ที่จะต้องเชิญหน่วยงานมาชี้แจง ขณะที่ในวันศุกร์ที่ 5 กันยายน เป็นการพิจารณาวาระพิเศษ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ค้างอยู่หลายฉบับ ที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เสนอเข้ามาและมีความจำเป็น ต้องเร่งประกาศใช้จะต้องเร่งพิจารณาโดยไม่มีวาระหารือ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ให้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี ส่งผลให้คณะรัฐมนตรีทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่ง โดยกระบวนการจากนี้สภาผู้แทนราษฎรจะต้องมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพื่อจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี มี 2 […]