“อังคณา” ชี้ไม่เหนือความคาดหมาย เลือกประธาน-รองประธานวุฒิสภา

รัฐสภา 23 ก.ค.- “อังคณา” มองผลคะแนนเลือก ประธาน-รองประธานวุฒิสภา ไม่เหนือความคาดหมาย ชี้สะท้อนถึงความไม่เป็นอิสระของ สว.ชุดนี้ กังวลกฎหมายประชาชนคว่ำหากรัฐบาลไม่เห็นด้วย


นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) จากกลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการลงมติเลือกประธานวุฒิสภา และรองประธานคนที่ 1-2 ในการประชุมวุฒิสภาครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 ) ว่า การลงคะแนนโหวตเลือกประธาน และรองประธานวุฒิสภาในครั้งนี้ ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย เพราะหากดูชื่อของประธาน และรองประธานวุฒิสภาทั้ง 3 คน ก็จะให้เห็นได้ว่ามีการเสนอชื่อกันเอง และเป็นไปตามที่คาด

นางอังคณา กล่าวต่อว่า ไม่ได้รู้สึกแปลกใจ และรู้สึกดีใจที่ได้พูดในสิ่งที่อยากพูด รวมถึงได้พูดแทนประชาชนด้วย เช่น การเมืองภาคพลเมืองที่มีความสำคัญ เรื่องเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และการแสดงออก รวมทั้งเรื่องกฎหมายเข้าชื่อของประชาชน ว่าในฐานะวุฒิสภาเราจะสามารถทำอะไรได้บ้าง


สำหรับคะแนนที่ได้ ก็ไม่ต่างจากเพื่อน ๆ ในกลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ ไม่เกิน 20 คะแนน และไม่กระทบจิตใจ เพราะผ่านอะไรมาเยอะแล้ว และไม่ต่างอะไรจากการเลือก สว. ระดับประเทศ ที่ใครมีคะแนนมาสูงก็สูงลิ่ว และเหมือนที่กำหนดมาให้เป็นแบบนี้ก็ขึ้นอยู่กับคนที่กำหนดว่าจะชี้นำตลอดไป หรือจะรับฟังเสียงคนข้างนอกบ้างหรือไม่ แต่ส่วนตัวไม่ได้กังวลอยู่ที่ไหนเราก็สามารถทำงานได้หมด

ส่วนการที่ สว. เสียงส่วนใหญ่เป็นเอกภาพจะกระทบต่อการทำงานหรือไม่ นางอังคณา ระบุว่า มองถึงในตอนต่อๆ ไป เช่นกฎหมายที่ผ่านเข้าสภาฯ หรือเป็นกฎหมายที่รัฐบาลไม่เห็นด้วย ก็กังวลว่าเสียงจะเทไปทางนั้นจนหมด แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เห็นได้ชัดในวันนี้อีกครั้งหนึ่งคือ “ความไม่เป็นอิสระ” เพราะในช่วงของการเลือกเข้ามา เราก็รู้ในระดับหนึ่งว่ามีการจัดตั้งอย่างเข้มแข็งมากๆ แต่วันนี้ก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า วุฒิสภามีความเป็นอิสระจริงหรือไม่ เพราะไม่น่าจะเป็นไปได้ที่คะแนนจะเทไปให้คนใดคนหนึ่งจนมากแบบนี้ จนทำให้ดูว่าคนที่ได้คะแนนน้อยดูไม่มีค่าอะไรเลย

นางอังคณา ย้ำว่าไม่เคยรู้สึกกดดัน แค่จะทำงานได้ยากขึ้น แต่ในการผลักดันประเด็นสำคัญที่เราเชื่อว่าเป็นประโยชน์กับประชาชน ที่อาจจะทำให้ไม่สามารถเป็นไปได้เลย อย่างน้อยที่สุดเราได้ทำแล้ว อะไรที่ยังทำไม่ได้ก็จะต้องชี้แจงกับประชาชนว่าเราทำเต็มที่แล้วแต่มันไม่ได้ เพราะวันนี้ทำให้เห็นชัดว่า วุฒิสภาไม่มีความเป็นอิสระจริง


ผู้สื่อข่าวถามว่า การลงคะแนนของกลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ จะถูกโยงว่าเป็น สว.สีส้ม หรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่า หากดูจะเห็นว่ามีความเป็นเพื่อนและลูกศิษย์กันมาก่อน เมื่อมาสมัครก็มาสมัครกันมากกว่านี้แต่ก็ร่วงลงไปเยอะ เหลือไม่กี่คน แต่ที่ทำให้รู้สึกดีใจคือการทำให้รู้ว่ายังมีใครบ้างที่ยืนอยู่กับเรา และถือเป็นเรื่องที่ดีจะได้ประเมินตนต่อไป ว่าหากจะทำอะไรต่อไป หรือการเสนอกฎหมายก็จะต้องทำงานหนักขึ้นในการพูดคุยกับเพื่อน สว.

นางอังคณา ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า ตามกฎหมายแล้ว สว. จะต้องเป็นอิสระ แต่สิ่งที่เห็นวันนี้มาสะท้อนให้เห็นแล้ว มีการแท็กทีมที่จะล็อกโหวตกันมา และไม่เหลือพื้นที่ให้กับ สว.เสียงข้างน้อยเลย พร้อมฝากถึงประธาน และรองประธานวุฒิสภา ให้ตอบคำถามกับสังคมเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเราไม่สามารถปกปิดอะไรกับสังคมได้แล้ว เพราะสิ่งที่เห็นมันบอกเราแล้วว่าความเป็นอิสระของ สว.ไม่มีจริง .-317

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

หมายจับแก๊งไทใหญ่

ออกหมายจับ 2 คนร้ายแก๊งไทใหญ่ 999 ยกพวกไล่ฟันเพื่อนร่วมชาติ

ออกหมายจับ 2 คนร้ายแก๊งไทใหญ่ 999 ยกพวกบุกใช้มีดไล่ฟันเพื่อนร่วมชาติย่านประชาสงเคราะห์ เร่งตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

การประชุมเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่เริ่มแล้ว

การประชุมลับเพื่อเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ ที่จะเป็นพระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ที่นครรัฐวาติกัน ได้เริ่มขึ้นต้นแล้วในวันนี้

ระอุอีกครั้ง KNLA ร่วม KNDO โจมตีทหารเมียนมา

ชายแดนไทย-เมียนมา ด้านตรงข้าม จ.ตาก กลับมาระอุอีกครั้ง กองกำลัง KNLA ร่วมกองกำลัง KNDO โจมตีทหารเมียนมา ฐานเรปะนาดิ ผู้อพยพทะลักข้ามฝั่งเข้าไทยกว่า 100 คน