“อังคณา” ไม่แปลกใจดีเอสไอรับแค่ฟอกเงิน เชื่อมีดีลระดับหนึ่ง

รัฐสภา 7 มี.ค.- “อังคณา” ไม่แปลกใจบอร์ดดีเอสไอรับแค่ข้อหาฟอกเงินเป็นคดีพิเศษ เชื่อมีดีลในระดับหนึ่ง จี้ กกต.ขอให้ตรวจสอบต่อจริงจัง เชื่อไม่น่าทันอายุ สว.ชุดนี้ พร้อมเตือนดีเอสไออย่าตกเป็นเครื่องมือการเมือง ในอดีตเคยมีอธิบดีติดคุกมาแล้ว


นางอังคณา นีละไพจิตร สว. กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการคดีพิเศษ หรือ กคพ. มีมติรับคดีฮั้วเลือกสว. เป็นคดีพิเศษฐานความผิดฟอกเงิน ว่า ไม่รู้สึกแปลกใจ แต่ที่แปลกใจคือเหตุใดกรรมการไม่มาประชุมให้ครบ ทั้งที่เป็นเรื่องใหญ่และเป็นเรื่องที่สังคม หรือเรียกว่าคนทั้งประเทศให้ความสำคัญและติดตาม แต่กรรมการที่เป็นตำรวจไม่ได้มาประชุม เลยทำให้เสียงหายไปและมีผลต่อกาที่จะรับหรือไม่รับเป็นคดีพิเศษ และที่รับเฉพาะฐานความผิดฟอกเงิน ก็ไม่ได้แปลกใจเหมือนกัน เพราะเท่าที่รู้ ก็น่าจะมีการคุยกันมาแล้วระดับหนึ่ง ในฐานะที่ตนฟังมาจากประชาชน ดังนั้นเห็นว่าเมื่อทำมาถึงตรงนี้ก็ทำต่อให้จริงแล้วกัน

ส่วนที่ว่ามีการคุยกันหมายถึงใครคุยกับใครนั้น นางอังคณา กล่าวว่าที่มีข่าวว่านายเนวิน ชิดชอบ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไปพบและพูดคุยกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเรื่องนี้ก็มีการพูดกันเยอะ และส่วนตัวไม่เชื่อว่า คุยกันแค่เรื่องกฎหมาย อินเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ และคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องนี้ด้วย เพราะถือว่าก็เป็นเรื่องสำคัญ


ส่วนกรณีที่สว.อาจจะมีการตอบโต้จะยื่น ขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 จะร่วมด้วยหรือไม่ นส.อังคณา กล่าวว่า ตนเรียนมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าในที่ประชุมวิปวุฒิก็มีข้อเสนอ ทั้งเรื่องของการไปแจ้งความ การฟ้องร้องดำเนินคดีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม การยื่นเรื่องให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือป.ป.ช. แต่ส่วนตัวยืนยันมาตลอดตั้งแต่ในชั้นวิปว่าไม่เห็นด้วย เนื่องจากว่าการตอบโต้ในลักษณะนี้มันเหมือนกับ

เป็นการปิดปาก ซึ่งตนคัดค้านกาฟ้องเพื่อที่จะปิดปากหรือฟ้องเพื่อที่จะปิดกั้นการมีส่วนร่วมสาธารณะ จึงคงไม่ร่วมด้วยค่ะ แต่ว่าก็เคารพความคิดเห็นของสว.ส่วนใหญ่ก็มีสิทธิก็ทำได้ แต่ว่าจะเอาในฐานะที่ทำงานด้าาสิทธิมนุษยชน ไม่เห็นด้วยคกับการที่จะไปฟ้องร้องเพื่อที่จะปิดบังข้อเท็จจริง และอยากให้ทุกฝ่ายทำงานเต็มที่ทั้ง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และดีเอสไอเอง แล้วก็เปิดเผยความจริงตนในฐานะที่เป็น1 ใน 199 สว.คนจะต้องถูกตรวจสอบด้วย ก็พร้อม

เมื่อถามว่า กกต. เหลือเวลาในการทำคดีอีกไม่กี่เดือน จะทำทันหรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่าตอนที่ กกต. มีออกหมายเรียกตนให้ไปให้ข้อมูล เรื่องประสบการณ์การทำงาน สิบ ปีจริงหรือไม่ ยังใช้เวลาตั้ง 7เดือนกว่าจะเรียก ทั้งที่เป็นเรื่องเล็กเล็ก เข้าไปดูในกูเกิล วิกิพีเดีย ก็เจอ แล้วกรณีเรื่องที่มีความซับซ้อนมากกว่านี้ ต้องตรวจสอบ ต้องใช้เวลามากกว่านี้จะดำเนินการอย่างไร ซึ่งได้รับทราบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ว่าคงขอขยายเวลา ซึ่งไม่ทราบว่าจะขอเวลาได้อีกแค่ไหน เพราะต้องไม่ลืมว่า นับตั้งแต่วันแรกที่มีการ ประกาศผลการเลือกตั้งยังไม่เป็นทางการก็มีเสียง วิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอด เพราะฉะนั้น กกต.ต้องเร่งดำเนินการ ไม่ควรปล่อยให้ล่าช้าแล้วทำให้เกิดความคลุมเครือไปเรื่อยๆ ซึ่งในกระบวนการยุติธรรม ยังต้องใช้เวลาหากขยายเวลาไปอีก 3 เดือน กว่าจะมีการแจ้งข้อหา กล่าวโทษ กว่าจะส่งฟ้อง สืบพยาน เผลอเผลออาจจะหมดวาระ สว.


เมื่อถามว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมระบุว่า หากพบว่ามีการกระทำ ผิดฐานอั้งยี่ ก็สามารถทำเป็นคดีพิเศษได้เลย มองว่าจะมีการนำแผนนี้มาใช้อีกเมื่อไหร่นั้น นางอังคณา กล่าวว่า รู้สึกกังวลว่าอย่าให้เป็นเกมการต่อรอง เพราะว่าถ้าสืบจากเรื่องของการฟอกเงินแล้ว แล้วพบว่ามันเป็นกระบวนการ เป็นอั้งยี่และ มีกลุ่มคนมารวมตัวกันเพื่อกระทำการผิดกฎหมาย แล้วใช้ ข้อเท็จจริงมาเป็นเครื่องต่อรอง ก็มองว่าสังคมจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย แต่ถ้าหากมีข้อมูลจริง โดยตรวจสอบ กฎหมายฟอกเงินแล้วพบว่า มีการตั้งกลุ่มบุคคล แล้วมาทำอะไรที่ผิดกฎหมาย แล้วดำเนินคดีต่อ ฐานอั้งยี่ก็เชื่อว่าจะทำให้สังคมเกิดความชัดเจนและที่สำคัญ จะเป็นการพิสูจน์การทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษทำงานภายใต้แรงกดดันทางการเมือง หรือไม่ รอที่ผ่านมาเราเคยพบ ในรัฐบาล แต่ละสมัย บางครั้งถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง จน อดีตอธิบดีเคยถูกติดคุกมาแล้ว ดังนั้นตรงนี้ต้องให้ความสำคัญ และอยากจะบอกว่า บทบาทของสว. ที่สำคัญที่สุดคือการเห็นชอบและพิจารณาคุณสมบัติของกรรมการในองค์กรอิสระ โดยเฉพาะปีนี้จะมีกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หมดวาระหลายคน ดังนั้นหากเป็นจริงดังที่ ข้อกล่าวหาว่า สว.199 คน หรือ138+2
ก็ถือเป็นเสียงข้างมาก ตรงนี้จะเป็นการทำลายราดฐานของระบอบประชาธิปไตย และจะเป็นการทำลายความโปร่งใส และกลไกการตรวจสอบทั้งหมดเลย หากข้อกล่าวหา ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมพูดมา มีมูลน่าเชื่อถือและ เป็นจริง ดังนั้นขอให้มีการดำเนินการ อย่างตรงไปตรงมาและดีเอสไอก็ต้องพิสูจนตัวเองว่าต้องไม่เป็นเครื่องมือทางการเมือง

เมื่ถามว่าหากเป็นเช่นนี้เท่ากับว่า สว. แต่งตั้ง กกต. ชุดใหม่ให้มาตรวจสอบตัวเอง ใช่หรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่า ใช่ และจะมีผลในการเลือกตั้งครั้งต่อไปด้วย รวมทั้ง การตั้งองค์กรอิสระ อื่นๆทั้ง ปปช ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และจะทำให้สว. ตกเป็น เป้าคำถามจากสังคม ในการแต่งตั้ง คนในองค์กรอิสระ แล้วต่อไปสังคมจะไว้วางใจได้อย่างไรว่าเราจะมีองค์กรอิสระ ที่เป็นอิสระ เราจะได้ผู้แทนของประชาชน ที่เป็นผู้แทนอย่างแท้จริง ไม่ใช่การได้มาด้วยวิธีการต่าง ๆ และกกต. จะทำงานอย่างอิสระ โดยไม่เห็นแก่หน้าใครได้จริงหรือไม่ ซึ่งตรงนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก และหวังว่า คงจะไม่เอาเรื่องนี้มาเป็นเครื่องมือในการต่อรองทางการเมือง จึงจำเป็นที่จะต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็เหมือนเอาตำแหน่งตัวเองเป็นเดิมพัน ด้วยเช่นกัน หากสุดท้ายทำอะไรไม่ได้ ก็น่าเสียใจ ที่พูดอะไรไปตั้งเยอะแล้ว สุดท้ายทำไม่ได้จริง

ส่วน กรรมการในองค์กรอิสระที่เลือกโดยสว.ชุดนี้ไปแล้วจะทำอย่างไรนั้น นางอังคณา กล่าวว่า ส่วนตัวก็ยังกังวล สมมุติว่า สุดท้ายผลออกมาว่ามี สว.150-160 คน อาจจะได้มาโดยที่ไม่ชอบตามรัฐธรรมนูญ แล้วผลจากการที่ สว.ไปเลือกองค์กรอิสระแล้ว จะมีผลกระทบหรือไม่ หรือไม่เป็นไร ตรงนี้คิดว่าน่าสนใจว่าเราก็ควรที่จะต้องมีการติดตาม แต่ขณะนี้ขอให้กกต. รีบดำเนินการตรวจสอบไปก่อน อะไรที่เต็มเรื่องง่ายๆ ชวนจะปล่อยผ่านไป อะไรที่เป็นเรื่องซับซ้อนก็ขอให้รีบเร่งดำเนินการ ไม่ใช่วันนี้มานั่งถามอยู่เลยว่า มีประสบการณ์ทำงาน ครบ 10 ปีหรือเปล่า ซึ่งอันนี้บอกได้เลยว่าเป็นความล่าช้าอย่างมาก.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่

กทม. 19 ก.ค. – รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่ ระบุข้อมูลคดีใหม่ เป็นพระในพื้นที่ต่างจังหวัด และไม่เกี่ยวกับคดี “กอล์ฟ” พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า เพิ่งรับทราบจากสื่อมวลชนเกี่ยวกับกระแสข่าวลือพาดพิงถึงพระชั้นผู้ใหญ่บางรูป ซึ่งไม่ต้องการให้มีการเผยแพร่ข่าวลือจนสร้างความเสียหาย โดยยืนยันว่าที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า ยังมีพระชั้นผู้ใหญ่มีความเกี่ยวข้องสีกาอีก แต่ไม่เกี่ยวข้องกับกอล์ฟ เป็นพระที่มีสมณศักดิ์สูงกว่าพระในคดีกอล์ฟ แต่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ไม่ใช่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการกระทำเข้าข่ายผิดวินัยสงฆ์ โดยไม่เกี่ยวข้องกับคดีกอล์ฟ และยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ได้หลักฐานชัดเจนก่อน ส่วนการตั้งศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เพื่อรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพระโดยเฉพาะ ขณะนี้ มีประชาชนแจ้งเบาะแสมาแล้วหลายร้อยสาย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังคัดแยกข้อมูล จึงยังไม่สามารถตอบได้ว่า จะมีเรื่องที่เกี่ยวกับกอล์ฟอีกหรือไม่.-412-สำนักข่าวไทย