“อังคณา” ไม่แปลกใจดีเอสไอรับแค่ฟอกเงิน เชื่อมีดีลระดับหนึ่ง

รัฐสภา 7 มี.ค.- “อังคณา” ไม่แปลกใจบอร์ดดีเอสไอรับแค่ข้อหาฟอกเงินเป็นคดีพิเศษ เชื่อมีดีลในระดับหนึ่ง จี้ กกต.ขอให้ตรวจสอบต่อจริงจัง เชื่อไม่น่าทันอายุ สว.ชุดนี้ พร้อมเตือนดีเอสไออย่าตกเป็นเครื่องมือการเมือง ในอดีตเคยมีอธิบดีติดคุกมาแล้ว


นางอังคณา นีละไพจิตร สว. กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการคดีพิเศษ หรือ กคพ. มีมติรับคดีฮั้วเลือกสว. เป็นคดีพิเศษฐานความผิดฟอกเงิน ว่า ไม่รู้สึกแปลกใจ แต่ที่แปลกใจคือเหตุใดกรรมการไม่มาประชุมให้ครบ ทั้งที่เป็นเรื่องใหญ่และเป็นเรื่องที่สังคม หรือเรียกว่าคนทั้งประเทศให้ความสำคัญและติดตาม แต่กรรมการที่เป็นตำรวจไม่ได้มาประชุม เลยทำให้เสียงหายไปและมีผลต่อกาที่จะรับหรือไม่รับเป็นคดีพิเศษ และที่รับเฉพาะฐานความผิดฟอกเงิน ก็ไม่ได้แปลกใจเหมือนกัน เพราะเท่าที่รู้ ก็น่าจะมีการคุยกันมาแล้วระดับหนึ่ง ในฐานะที่ตนฟังมาจากประชาชน ดังนั้นเห็นว่าเมื่อทำมาถึงตรงนี้ก็ทำต่อให้จริงแล้วกัน

ส่วนที่ว่ามีการคุยกันหมายถึงใครคุยกับใครนั้น นางอังคณา กล่าวว่าที่มีข่าวว่านายเนวิน ชิดชอบ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไปพบและพูดคุยกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเรื่องนี้ก็มีการพูดกันเยอะ และส่วนตัวไม่เชื่อว่า คุยกันแค่เรื่องกฎหมาย อินเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ และคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องนี้ด้วย เพราะถือว่าก็เป็นเรื่องสำคัญ


ส่วนกรณีที่สว.อาจจะมีการตอบโต้จะยื่น ขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 จะร่วมด้วยหรือไม่ นส.อังคณา กล่าวว่า ตนเรียนมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าในที่ประชุมวิปวุฒิก็มีข้อเสนอ ทั้งเรื่องของการไปแจ้งความ การฟ้องร้องดำเนินคดีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม การยื่นเรื่องให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือป.ป.ช. แต่ส่วนตัวยืนยันมาตลอดตั้งแต่ในชั้นวิปว่าไม่เห็นด้วย เนื่องจากว่าการตอบโต้ในลักษณะนี้มันเหมือนกับ

เป็นการปิดปาก ซึ่งตนคัดค้านกาฟ้องเพื่อที่จะปิดปากหรือฟ้องเพื่อที่จะปิดกั้นการมีส่วนร่วมสาธารณะ จึงคงไม่ร่วมด้วยค่ะ แต่ว่าก็เคารพความคิดเห็นของสว.ส่วนใหญ่ก็มีสิทธิก็ทำได้ แต่ว่าจะเอาในฐานะที่ทำงานด้าาสิทธิมนุษยชน ไม่เห็นด้วยคกับการที่จะไปฟ้องร้องเพื่อที่จะปิดบังข้อเท็จจริง และอยากให้ทุกฝ่ายทำงานเต็มที่ทั้ง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และดีเอสไอเอง แล้วก็เปิดเผยความจริงตนในฐานะที่เป็น1 ใน 199 สว.คนจะต้องถูกตรวจสอบด้วย ก็พร้อม

เมื่อถามว่า กกต. เหลือเวลาในการทำคดีอีกไม่กี่เดือน จะทำทันหรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่าตอนที่ กกต. มีออกหมายเรียกตนให้ไปให้ข้อมูล เรื่องประสบการณ์การทำงาน สิบ ปีจริงหรือไม่ ยังใช้เวลาตั้ง 7เดือนกว่าจะเรียก ทั้งที่เป็นเรื่องเล็กเล็ก เข้าไปดูในกูเกิล วิกิพีเดีย ก็เจอ แล้วกรณีเรื่องที่มีความซับซ้อนมากกว่านี้ ต้องตรวจสอบ ต้องใช้เวลามากกว่านี้จะดำเนินการอย่างไร ซึ่งได้รับทราบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ว่าคงขอขยายเวลา ซึ่งไม่ทราบว่าจะขอเวลาได้อีกแค่ไหน เพราะต้องไม่ลืมว่า นับตั้งแต่วันแรกที่มีการ ประกาศผลการเลือกตั้งยังไม่เป็นทางการก็มีเสียง วิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอด เพราะฉะนั้น กกต.ต้องเร่งดำเนินการ ไม่ควรปล่อยให้ล่าช้าแล้วทำให้เกิดความคลุมเครือไปเรื่อยๆ ซึ่งในกระบวนการยุติธรรม ยังต้องใช้เวลาหากขยายเวลาไปอีก 3 เดือน กว่าจะมีการแจ้งข้อหา กล่าวโทษ กว่าจะส่งฟ้อง สืบพยาน เผลอเผลออาจจะหมดวาระ สว.


เมื่อถามว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมระบุว่า หากพบว่ามีการกระทำ ผิดฐานอั้งยี่ ก็สามารถทำเป็นคดีพิเศษได้เลย มองว่าจะมีการนำแผนนี้มาใช้อีกเมื่อไหร่นั้น นางอังคณา กล่าวว่า รู้สึกกังวลว่าอย่าให้เป็นเกมการต่อรอง เพราะว่าถ้าสืบจากเรื่องของการฟอกเงินแล้ว แล้วพบว่ามันเป็นกระบวนการ เป็นอั้งยี่และ มีกลุ่มคนมารวมตัวกันเพื่อกระทำการผิดกฎหมาย แล้วใช้ ข้อเท็จจริงมาเป็นเครื่องต่อรอง ก็มองว่าสังคมจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย แต่ถ้าหากมีข้อมูลจริง โดยตรวจสอบ กฎหมายฟอกเงินแล้วพบว่า มีการตั้งกลุ่มบุคคล แล้วมาทำอะไรที่ผิดกฎหมาย แล้วดำเนินคดีต่อ ฐานอั้งยี่ก็เชื่อว่าจะทำให้สังคมเกิดความชัดเจนและที่สำคัญ จะเป็นการพิสูจน์การทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษทำงานภายใต้แรงกดดันทางการเมือง หรือไม่ รอที่ผ่านมาเราเคยพบ ในรัฐบาล แต่ละสมัย บางครั้งถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง จน อดีตอธิบดีเคยถูกติดคุกมาแล้ว ดังนั้นตรงนี้ต้องให้ความสำคัญ และอยากจะบอกว่า บทบาทของสว. ที่สำคัญที่สุดคือการเห็นชอบและพิจารณาคุณสมบัติของกรรมการในองค์กรอิสระ โดยเฉพาะปีนี้จะมีกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หมดวาระหลายคน ดังนั้นหากเป็นจริงดังที่ ข้อกล่าวหาว่า สว.199 คน หรือ138+2
ก็ถือเป็นเสียงข้างมาก ตรงนี้จะเป็นการทำลายราดฐานของระบอบประชาธิปไตย และจะเป็นการทำลายความโปร่งใส และกลไกการตรวจสอบทั้งหมดเลย หากข้อกล่าวหา ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมพูดมา มีมูลน่าเชื่อถือและ เป็นจริง ดังนั้นขอให้มีการดำเนินการ อย่างตรงไปตรงมาและดีเอสไอก็ต้องพิสูจนตัวเองว่าต้องไม่เป็นเครื่องมือทางการเมือง

เมื่ถามว่าหากเป็นเช่นนี้เท่ากับว่า สว. แต่งตั้ง กกต. ชุดใหม่ให้มาตรวจสอบตัวเอง ใช่หรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่า ใช่ และจะมีผลในการเลือกตั้งครั้งต่อไปด้วย รวมทั้ง การตั้งองค์กรอิสระ อื่นๆทั้ง ปปช ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และจะทำให้สว. ตกเป็น เป้าคำถามจากสังคม ในการแต่งตั้ง คนในองค์กรอิสระ แล้วต่อไปสังคมจะไว้วางใจได้อย่างไรว่าเราจะมีองค์กรอิสระ ที่เป็นอิสระ เราจะได้ผู้แทนของประชาชน ที่เป็นผู้แทนอย่างแท้จริง ไม่ใช่การได้มาด้วยวิธีการต่าง ๆ และกกต. จะทำงานอย่างอิสระ โดยไม่เห็นแก่หน้าใครได้จริงหรือไม่ ซึ่งตรงนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก และหวังว่า คงจะไม่เอาเรื่องนี้มาเป็นเครื่องมือในการต่อรองทางการเมือง จึงจำเป็นที่จะต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็เหมือนเอาตำแหน่งตัวเองเป็นเดิมพัน ด้วยเช่นกัน หากสุดท้ายทำอะไรไม่ได้ ก็น่าเสียใจ ที่พูดอะไรไปตั้งเยอะแล้ว สุดท้ายทำไม่ได้จริง

ส่วน กรรมการในองค์กรอิสระที่เลือกโดยสว.ชุดนี้ไปแล้วจะทำอย่างไรนั้น นางอังคณา กล่าวว่า ส่วนตัวก็ยังกังวล สมมุติว่า สุดท้ายผลออกมาว่ามี สว.150-160 คน อาจจะได้มาโดยที่ไม่ชอบตามรัฐธรรมนูญ แล้วผลจากการที่ สว.ไปเลือกองค์กรอิสระแล้ว จะมีผลกระทบหรือไม่ หรือไม่เป็นไร ตรงนี้คิดว่าน่าสนใจว่าเราก็ควรที่จะต้องมีการติดตาม แต่ขณะนี้ขอให้กกต. รีบดำเนินการตรวจสอบไปก่อน อะไรที่เต็มเรื่องง่ายๆ ชวนจะปล่อยผ่านไป อะไรที่เป็นเรื่องซับซ้อนก็ขอให้รีบเร่งดำเนินการ ไม่ใช่วันนี้มานั่งถามอยู่เลยว่า มีประสบการณ์ทำงาน ครบ 10 ปีหรือเปล่า ซึ่งอันนี้บอกได้เลยว่าเป็นความล่าช้าอย่างมาก.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

เครื่องบิน “ทักษิณ” ออกนอกเส้นทางไปไหน ?

4 ก.ย. – ไปไหน? เครื่องบินส่วนตัว “ทักษิณ” เลี้ยวออกนอกเส้นทาง หลังบินออกจากดอนเมือง ระบุปลายทางสิงคโปร์ พบบินวนอยู่ 2 รอบ ก่อนไปต่อ จับตามุ่งหน้า “ดูไบ” ตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่. – สำนักข่าวไทย

“ทักษิณ” บินสิงคโปร์แล้ว ทนายยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น14

4 ก.ย.- “ทักษิณ” นั่งเจ็ทส่วนตัวบินสิงคโปร์แล้ว ตม.ไม่มีอำนาจกักตัว หลังศาลยกฟ้องคดี ม.112 ขณะที่ “ทนายวิญญัติ” ยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น 14 แน่นอน ช่วงเย็นวันนี้มีกระเเสข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร ขอเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวที่จอดไว้กับลานบินเอกชนย่านดอนเมือง เเละทราบว่าขอเดินทางไปยัง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งนายทักษิณมีบ้านพักส่วนตัวที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และอีกกระเเสเเจ้งว่านายทักษิณขอเดินทางไปพบเเพทย์ที่สิงคโปร์ 2 วัน เเละจะกลับมาขึ้นศาล โดย ตม.ตรวจสอบหนังสือเดินทางเเละสอบถามเหตุผลในการเดินทางของนายทักษิณในตอนนี้เเล้วเเละอนุญาตให้นายทักษิณเดินทางได้ กระเเสข่าวนี้เกิดขึ้น ท่ามกลางการเตรียมลงมติของสส.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 วันที่ 5 กันยายน 2568 เเละวันที่ 9 กันยายน นายทักษิณต้องไปฟังคำตัดสินคดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ซึ่งศาลฎีกาแผนคดีอาญานักการเมืองนัดให้นายทักษิณ ไปฟังคำวินิจฉัยในคดีนี้กับผู้บังคับการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังก่อนหน้านี้ศาลอาญา ตัดสินยกฟ้องนายทักษิณในคดี ม.112 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม เเละอยู่ระหว่างที่อัยการกำลังพิจารณาว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ หลังจากนั้นนายวิญญัติ ชาติมนตรี […]

“อนุทิน” ปัดจัดโผ ครม. บอกไหว้พ่อแม่ก่อนโหวตนายกฯ

รัฐสภา 4 ก.ย.- “อนุทิน” ปัดจัดโผ ครม. บอกยังไม่มี เผยตั้งใจไหว้พ่อ-แม่ เป็นสิริมงคลก่อนโหวตนายกฯ คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางกลับเข้ามาที่อาคารรัฐสภาอีกครั้ง ช่วงเย็นวันนี้ (4 ก.ย.) โดยผู้สื่อข่าวพยามสอบถามถึงโผ “ครม.อนุทิน 1” ว่า มีการจัดเตรียมให้ใครนั่งตำแหน่งใดและนายอนุทิน จะควบตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยด้วยหรือไม่ ซึ่งนายอนุทิน ร้องหูย ก่อนจะบอกว่ายังไม่มี ข่าวก็ลงไปเรื่อย ยังไม่ได้จัดอะไร ขนาดหัวหน้ายังไม่ได้เลย ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า พรุ่งนี้จะมีการโหวตนายกรัฐมนตรีแล้ว ก่อนจะเข้าอาคารรัฐสภา จะไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนเพื่อความเป็นสิริมงคลหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไหว้พ่อไหว้แม่นี่แหละ เป็นสิริมงคลที่สุดแล้ว -สำนักข่าวไทย

“เท้ง” เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย มั่นใจ สส.ปชน.ไม่แตกแถว ย้ำไม่มีฟรีโหวต

รัฐสภา 4 ก.ย.- “เท้ง” ลั่นไม่เสียดาย-ไม่ทบทวนมติโหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย ซัดไม่จริงใจ-ปล่อยข่าวชิงการเมือง มั่นใจ สส.พรรคประชาชน ไม่แตกแถว-ไม่มีฟรีโหวต นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ปฏิเสธกรณีที่มีกระแสข่าวความเห็นต่างภายในพรรคฯ ต่อการลงมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ว่า ไม่ได้มีความเห็นที่แตกต่างกันภายในพรรค และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จนถึงตลอดทั้งวัน ก็มีความชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ยุติกระบวนการยุบสภา และเดินหน้าเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า กระบวนการตัดสินใจของพรรคประชาชน สิ้นสุดลงตั้งแต่คณะกรรมการบริหารพรรคฯ แถลงข่าว และลงนามร่วมกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว ส่วนข้อเสนอไพ่ใบสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย ที่จะยุบสภาทันทีหากนายชัยเกษม ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า ถ้ามีการเสนอมาก่อนหน้านี้ และมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ก่อนพรรคฯ จะมีมติ ตนเชื่อว่า ตน และสส.ภายในพรรค จะรับไว้พิจารณา แต่กระบวนการที่ผ่านมา ยังคงมีการให้ข่าวกลับไป กลับมา […]