“อังคณา” ไม่แปลกใจดีเอสไอรับแค่ฟอกเงิน เชื่อมีดีลระดับหนึ่ง

รัฐสภา 7 มี.ค.- “อังคณา” ไม่แปลกใจบอร์ดดีเอสไอรับแค่ข้อหาฟอกเงินเป็นคดีพิเศษ เชื่อมีดีลในระดับหนึ่ง จี้ กกต.ขอให้ตรวจสอบต่อจริงจัง เชื่อไม่น่าทันอายุ สว.ชุดนี้ พร้อมเตือนดีเอสไออย่าตกเป็นเครื่องมือการเมือง ในอดีตเคยมีอธิบดีติดคุกมาแล้ว


นางอังคณา นีละไพจิตร สว. กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการคดีพิเศษ หรือ กคพ. มีมติรับคดีฮั้วเลือกสว. เป็นคดีพิเศษฐานความผิดฟอกเงิน ว่า ไม่รู้สึกแปลกใจ แต่ที่แปลกใจคือเหตุใดกรรมการไม่มาประชุมให้ครบ ทั้งที่เป็นเรื่องใหญ่และเป็นเรื่องที่สังคม หรือเรียกว่าคนทั้งประเทศให้ความสำคัญและติดตาม แต่กรรมการที่เป็นตำรวจไม่ได้มาประชุม เลยทำให้เสียงหายไปและมีผลต่อกาที่จะรับหรือไม่รับเป็นคดีพิเศษ และที่รับเฉพาะฐานความผิดฟอกเงิน ก็ไม่ได้แปลกใจเหมือนกัน เพราะเท่าที่รู้ ก็น่าจะมีการคุยกันมาแล้วระดับหนึ่ง ในฐานะที่ตนฟังมาจากประชาชน ดังนั้นเห็นว่าเมื่อทำมาถึงตรงนี้ก็ทำต่อให้จริงแล้วกัน

ส่วนที่ว่ามีการคุยกันหมายถึงใครคุยกับใครนั้น นางอังคณา กล่าวว่าที่มีข่าวว่านายเนวิน ชิดชอบ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไปพบและพูดคุยกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเรื่องนี้ก็มีการพูดกันเยอะ และส่วนตัวไม่เชื่อว่า คุยกันแค่เรื่องกฎหมาย อินเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ และคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องนี้ด้วย เพราะถือว่าก็เป็นเรื่องสำคัญ


ส่วนกรณีที่สว.อาจจะมีการตอบโต้จะยื่น ขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 จะร่วมด้วยหรือไม่ นส.อังคณา กล่าวว่า ตนเรียนมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าในที่ประชุมวิปวุฒิก็มีข้อเสนอ ทั้งเรื่องของการไปแจ้งความ การฟ้องร้องดำเนินคดีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม การยื่นเรื่องให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือป.ป.ช. แต่ส่วนตัวยืนยันมาตลอดตั้งแต่ในชั้นวิปว่าไม่เห็นด้วย เนื่องจากว่าการตอบโต้ในลักษณะนี้มันเหมือนกับ

เป็นการปิดปาก ซึ่งตนคัดค้านกาฟ้องเพื่อที่จะปิดปากหรือฟ้องเพื่อที่จะปิดกั้นการมีส่วนร่วมสาธารณะ จึงคงไม่ร่วมด้วยค่ะ แต่ว่าก็เคารพความคิดเห็นของสว.ส่วนใหญ่ก็มีสิทธิก็ทำได้ แต่ว่าจะเอาในฐานะที่ทำงานด้าาสิทธิมนุษยชน ไม่เห็นด้วยคกับการที่จะไปฟ้องร้องเพื่อที่จะปิดบังข้อเท็จจริง และอยากให้ทุกฝ่ายทำงานเต็มที่ทั้ง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และดีเอสไอเอง แล้วก็เปิดเผยความจริงตนในฐานะที่เป็น1 ใน 199 สว.คนจะต้องถูกตรวจสอบด้วย ก็พร้อม

เมื่อถามว่า กกต. เหลือเวลาในการทำคดีอีกไม่กี่เดือน จะทำทันหรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่าตอนที่ กกต. มีออกหมายเรียกตนให้ไปให้ข้อมูล เรื่องประสบการณ์การทำงาน สิบ ปีจริงหรือไม่ ยังใช้เวลาตั้ง 7เดือนกว่าจะเรียก ทั้งที่เป็นเรื่องเล็กเล็ก เข้าไปดูในกูเกิล วิกิพีเดีย ก็เจอ แล้วกรณีเรื่องที่มีความซับซ้อนมากกว่านี้ ต้องตรวจสอบ ต้องใช้เวลามากกว่านี้จะดำเนินการอย่างไร ซึ่งได้รับทราบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ว่าคงขอขยายเวลา ซึ่งไม่ทราบว่าจะขอเวลาได้อีกแค่ไหน เพราะต้องไม่ลืมว่า นับตั้งแต่วันแรกที่มีการ ประกาศผลการเลือกตั้งยังไม่เป็นทางการก็มีเสียง วิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอด เพราะฉะนั้น กกต.ต้องเร่งดำเนินการ ไม่ควรปล่อยให้ล่าช้าแล้วทำให้เกิดความคลุมเครือไปเรื่อยๆ ซึ่งในกระบวนการยุติธรรม ยังต้องใช้เวลาหากขยายเวลาไปอีก 3 เดือน กว่าจะมีการแจ้งข้อหา กล่าวโทษ กว่าจะส่งฟ้อง สืบพยาน เผลอเผลออาจจะหมดวาระ สว.


เมื่อถามว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมระบุว่า หากพบว่ามีการกระทำ ผิดฐานอั้งยี่ ก็สามารถทำเป็นคดีพิเศษได้เลย มองว่าจะมีการนำแผนนี้มาใช้อีกเมื่อไหร่นั้น นางอังคณา กล่าวว่า รู้สึกกังวลว่าอย่าให้เป็นเกมการต่อรอง เพราะว่าถ้าสืบจากเรื่องของการฟอกเงินแล้ว แล้วพบว่ามันเป็นกระบวนการ เป็นอั้งยี่และ มีกลุ่มคนมารวมตัวกันเพื่อกระทำการผิดกฎหมาย แล้วใช้ ข้อเท็จจริงมาเป็นเครื่องต่อรอง ก็มองว่าสังคมจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย แต่ถ้าหากมีข้อมูลจริง โดยตรวจสอบ กฎหมายฟอกเงินแล้วพบว่า มีการตั้งกลุ่มบุคคล แล้วมาทำอะไรที่ผิดกฎหมาย แล้วดำเนินคดีต่อ ฐานอั้งยี่ก็เชื่อว่าจะทำให้สังคมเกิดความชัดเจนและที่สำคัญ จะเป็นการพิสูจน์การทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษทำงานภายใต้แรงกดดันทางการเมือง หรือไม่ รอที่ผ่านมาเราเคยพบ ในรัฐบาล แต่ละสมัย บางครั้งถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง จน อดีตอธิบดีเคยถูกติดคุกมาแล้ว ดังนั้นตรงนี้ต้องให้ความสำคัญ และอยากจะบอกว่า บทบาทของสว. ที่สำคัญที่สุดคือการเห็นชอบและพิจารณาคุณสมบัติของกรรมการในองค์กรอิสระ โดยเฉพาะปีนี้จะมีกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หมดวาระหลายคน ดังนั้นหากเป็นจริงดังที่ ข้อกล่าวหาว่า สว.199 คน หรือ138+2
ก็ถือเป็นเสียงข้างมาก ตรงนี้จะเป็นการทำลายราดฐานของระบอบประชาธิปไตย และจะเป็นการทำลายความโปร่งใส และกลไกการตรวจสอบทั้งหมดเลย หากข้อกล่าวหา ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมพูดมา มีมูลน่าเชื่อถือและ เป็นจริง ดังนั้นขอให้มีการดำเนินการ อย่างตรงไปตรงมาและดีเอสไอก็ต้องพิสูจนตัวเองว่าต้องไม่เป็นเครื่องมือทางการเมือง

เมื่ถามว่าหากเป็นเช่นนี้เท่ากับว่า สว. แต่งตั้ง กกต. ชุดใหม่ให้มาตรวจสอบตัวเอง ใช่หรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่า ใช่ และจะมีผลในการเลือกตั้งครั้งต่อไปด้วย รวมทั้ง การตั้งองค์กรอิสระ อื่นๆทั้ง ปปช ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และจะทำให้สว. ตกเป็น เป้าคำถามจากสังคม ในการแต่งตั้ง คนในองค์กรอิสระ แล้วต่อไปสังคมจะไว้วางใจได้อย่างไรว่าเราจะมีองค์กรอิสระ ที่เป็นอิสระ เราจะได้ผู้แทนของประชาชน ที่เป็นผู้แทนอย่างแท้จริง ไม่ใช่การได้มาด้วยวิธีการต่าง ๆ และกกต. จะทำงานอย่างอิสระ โดยไม่เห็นแก่หน้าใครได้จริงหรือไม่ ซึ่งตรงนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก และหวังว่า คงจะไม่เอาเรื่องนี้มาเป็นเครื่องมือในการต่อรองทางการเมือง จึงจำเป็นที่จะต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็เหมือนเอาตำแหน่งตัวเองเป็นเดิมพัน ด้วยเช่นกัน หากสุดท้ายทำอะไรไม่ได้ ก็น่าเสียใจ ที่พูดอะไรไปตั้งเยอะแล้ว สุดท้ายทำไม่ได้จริง

ส่วน กรรมการในองค์กรอิสระที่เลือกโดยสว.ชุดนี้ไปแล้วจะทำอย่างไรนั้น นางอังคณา กล่าวว่า ส่วนตัวก็ยังกังวล สมมุติว่า สุดท้ายผลออกมาว่ามี สว.150-160 คน อาจจะได้มาโดยที่ไม่ชอบตามรัฐธรรมนูญ แล้วผลจากการที่ สว.ไปเลือกองค์กรอิสระแล้ว จะมีผลกระทบหรือไม่ หรือไม่เป็นไร ตรงนี้คิดว่าน่าสนใจว่าเราก็ควรที่จะต้องมีการติดตาม แต่ขณะนี้ขอให้กกต. รีบดำเนินการตรวจสอบไปก่อน อะไรที่เต็มเรื่องง่ายๆ ชวนจะปล่อยผ่านไป อะไรที่เป็นเรื่องซับซ้อนก็ขอให้รีบเร่งดำเนินการ ไม่ใช่วันนี้มานั่งถามอยู่เลยว่า มีประสบการณ์ทำงาน ครบ 10 ปีหรือเปล่า ซึ่งอันนี้บอกได้เลยว่าเป็นความล่าช้าอย่างมาก.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้กำกับโจ้เสียชีวิต

ราชทัณฑ์ แจงชัดเหตุ “ผู้กำกับโจ้” เสียชีวิตในเรือนจำ

ราชทัณฑ์ ออกเอกสารชี้แจงกรณี “ผู้กำกับโจ้” เสียชีวิตในเรือนจำกลางคลองเปรม ด้าน จนท.พิสูจน์หลักฐาน เตรียมเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ธ.ก.ส. ออก “สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์” หนุนคนใกล้เกษียณทำเกษตร

กรุงเทพฯ 6 มี.ค.- ธ.ก.ส. เปิดตัว “สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์” ให้กู้เพื่อซื้อที่ดินทำการเกษตรคู่ขนาน รองรับการเข้าสู่ Aging Society สูงสุด 8 ล้านบาท ธ.ก.ส. จัดสินเชื่อเกษตรวิวัฒน์ ส่งเสริมการดึงคนกลับเข้าสู่ภาคการเกษตร กรอบวงเงินรวม 3.75 หมื่นล้านบาท สานฝันบุคลากรภาครัฐและเอกชนที่มีรายได้ประจำอายุ 50 – 59 ปี สร้างรายได้คู่ขนานจากการทำการเกษตร และกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาสินค้าเกษตรไปสู่เกษตร มูลค่าสูง วงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 8 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำ 5 ปีแรก MRR – 2 และปีที่ 6 เป็นต้นไป เท่ากับ MRR แจ้งความประสงค์ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้มีรายได้ประจำเป็นรายเดือน สามารถวางแผนการสร้างรายได้คู่ขนานจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม หรืออาชีพที่เกี่ยวกับการเกษตรในวัยก่อนและหลังเกษียณ รองรับการก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) เพิ่มการเกษตรที่มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม […]

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบนฝนลดลง อุณหภูมิสูงขึ้น ใต้ฝนหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนฝนลดลง อุณหภูมิสูงขึ้น ขอประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ ฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่ง

ผู้กำกับโจ้

ทนายโต้ราชทัณฑ์ อดีต “ผกก.โจ้” ไม่สมัครใจขอขังเดี่ยว

ทนายโต้ราชทัณฑ์ ยืนยัน อดีต “ผกก.โจ้” ไม่สมัครใจขอขังเดี่ยว-ไม่ป่วยจิตเวช อ้างถูกบีบให้ยอมเรื่องการสอบวินัย

พบสารเสพติดจากนมแม่

เร่งช่วยทารก 3 เดือน พบสารเสพติดจากการกินนมแม่

เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน เร่งช่วยเหลือทารกวัย 3 เดือน ถูกตรวจพบสารเสพติดในร่างกายจากกินนมแม่ ล่าสุดสั่งให้หยุดกินนมแม่ จนกว่าจะบำบัดการติดยาเสพติดให้หาย ส่วนพ่อถูกส่งไปบำบัดและเตรียมหาอาชีพให้มีรายได้เลี้ยงภรรยาและลูก