ทำเนียบฯ 23 ก.ค. – “อนุทิน” เผย “พีระพันธุ์” ในฐานะประธาน ป.ป.ส. เห็นด้วยต้องฟังข้อมูลกัญชาให้รอบด้านก่อนตัดสินใจ ย้ำหากนโยบายเปลี่ยนไปเปลี่ยนมากระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน แถมอาจถูกฟ้องร้องได้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ระบุว่า การพิจารณาเรื่องกัญชาต้องรับฟังข้อมูลกันก่อน ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ดีเกี่ยวกับเรื่องกัญชาหรือไม่ว่านายพีระพันธุ์ พูดมีหลักเกณฑ์ และได้โทรไปขอบคุณที่นายพีระพันธุ์มีความเข้าใจ ซึ่งนายพีระพันธุ์ก็ติดใจในประเด็นเดียวกันว่าทำไมคณะกรรมการชุดเดียวกันถึงมีแนวทางการตัดสินไม่เหมือนกัน ในเมื่อผู้บริหารองค์กรเปลี่ยนไป และคิดเหมือนกับตนว่าต้องขอข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
ทั้งนี้ เมื่อนายพีระพันธุ์ ออกมาส่งสัญญาณแบบนี้ทำให้เลิกไม่สบายใจแล้วหรือไม่ นายอนุทิน ยืนยันว่า ถ้าหากไม่สบายใจคือไม่สบายใจในท่าทีของการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่เราสบายใจเพราะทำสิ่งที่ถูกต้องทุกอย่างไม่เคยมีปัญหา
นายอนุทิน เปิดเผยว่า ทุกวันนี้ได้รับโทรศัพท์ของคนที่ลงทุนไปกับกัญชาไปแล้วว่าจะฟ้องหากนำกลับไปเป็นยาเสพติด พร้อมยกตัวอย่างอธิบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ไปร่วมลงทุนกับกลุ่มทุนต่างประเทศ 900 ล้านบาท และกลุ่มต่างประเทศแจ้งว่าถ้ามาเปลี่ยนนโยบายแบบนี้จะฟ้องรัฐบาล ฟ้องกรรมการ ป.ป.ส. ซึ่งตนไม่พร้อมที่จะถูกฟ้อง เพราะไม่ใช่เรื่องของตน หรือเรื่องของธุรกิจ เมื่อเราออกกฎแบบนี้ไปแล้วมาเปลี่ยนกฎอีก ความเสียหายจะเกิดขึ้นหรือถูกฟ้องร้องได้ รวมถึงจะส่งกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน เพราะหากมีการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบตลอดเวลา ใครจะกล้าเข้ามาลงทุน
ทั้งนี้ เมื่อพูดคุยนายกรัฐมนตรีแล้ว นายกรัฐมนตรีว่าอย่างไรนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีขอตนเงียบๆ เดี๋ยวท่านจัดการเอง แต่ผู้สื่อข่าวถามทีไรของขึ้นทุกที.-314-สำนักข่าวไทย