fbpx

รมว.กต. พอใจผลเยือนอินเดีย สรุปภาพรวมกรอบ Bimstec

อินเดีย 13 ก.ค.- “มาริษ” พอใจผลเยือนอินเดีย สรุปภาพรวมกรอบ Bimstec เน้นความมั่นคงทางอาหาร-พลังงาน-ทรัพยากรมนุษย์ ขณะชูท่องเที่ยว แบบ Digital Nomad ย้ำความพร้อมไทยเจ้าภาพจัดประชุมระดับผู้นำในเดือนกันยายน และขอให้สนับสนุนไทย เป็นสมาชิก BRICS ปลายปีนี้


นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สรุปภาพรวมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศบิมสเทค (อย่างไม่เป็นทางการ) ครั้งที่ 2 ที่กรุงนิวเดลี อินเดีย ระหว่างวันที่ 11-12 กรกฎาคม 2567 เพื่อเป็นการปูทางให้ประเทศสมาชิกของบิมสเทคเข้ามาหารือกัน แลกเปลี่ยนความเห็นกันอย่างอิสระเสรี เพื่อที่จะวางแนวทางไปสู่การประชุมบิมสเทค ซัมมิท ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในเดือนกันยายนนี้

ช่วงของการประชุม ในฐานะที่ประเทศไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพ ซึ่งดร.สุพรหมณยัม ชัยศังกระ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย ก็ให้เกียรติประเทศไทยเป็นผู้ริเริ่ม โดยตนได้เสนอความสำคัญของการร่วมมือกันในกรอบ 3 ประเด็น


  1. พัฒนาความมั่นคงทางด้านอาหาร เนื่องจากประเทศไทยและอินเดียและประเทศสมาชิกส่วนใหญ่เป็นประเทศเกษตรกรรม ดังนั้น ทั้ง 7 ประเทศสมาชิก สามารถมีความร่วมมือรักษาความมั่นคงทางด้านอาหารให้เกิดขึ้นในภูมิภาคและช่วยเหลือประชาคมโลกได้ด้วย โดยเฉพาะด้านการประมง รวมถึงการปลูกข้าว ซึ่งความมั่นคงทางอาหารสามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันได้
  2. ความมั่นคงด้านพลังงาน โดยมองจุดสำคัญที่พลังงานหมุนเวียน ซึ่งหลายประเทศสมาชิกมีศักยภาพ ในการส่งเสริมและพัฒนาความมั่นคงเช่น เมียนมา ถือเป็นประเทศที่มีพลังงานน้ำ โดยในประเทศไทยรัฐบาลพยายามส่งเสริมพลังงานทางเลือก
  3. ความมั่นคงของทรัพยากรมนุษย์คือ ความร่วมมือในเรื่องของการมี Health Care ถือว่าประเทศไทยเป็นผู้เล่นหลักในเรื่องนี้

ดังนั้น กรอบความร่วมมือทั้ง 3 เรื่อง จะนำไปสู่การพิจารณาของการประชุมผู้นำบิมสเทคที่ประเทศไทยในเดือนกันยายนนี้

นอกจากนี้ รัฐบาลอินเดีย ยังจัดให้ประเทศสมาชิกบิมสเทค ร่วมหารือกับ นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ซึ่งนายกรัฐมนตรีอินเดีย ก็ได้กล่าวถึงหลักการ “เชื่อมต่อแบบไร้ร้อยต่อ ซึ่งตนได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีอินเดียว่า จะนำเอาข้อคิดเห็นของนายกฯ ไปประยุกต์ใช้ให้เข้ากับธีมของการประชุมบิมสเทค ซัมมิท ที่ไทย ซึ่งจะอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลง รวมถึงการเปิดขอบเขตของประเทศสมาชิกบิมสเทคมากขึ้น ถือเป็นแนวทางเบื้องต้นของการหารือในกรอบของรัฐมนตรีต่างประเทศบิมสเทค เพื่อปูทางไปสู่การให้นายกรัฐมนตรีของประเทศสมาชิกบิมสเทคในการทำงานร่วมกันในอนาคตต่อไป

สำหรับการพบปะพูดคุยกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย ได้พูดคุยกันอย่างกว้างขวาง เพื่อผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันของไทยและอินเดีย ประกอบไปด้วย การพัฒนาศักยภาพด้านการทหารร่วมกัน ทั้งความร่วมมือซ้อมรบระหว่างไทย-อินเดีย การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ที่อยากเห็นการครอบคลุมทั้งระบบ นำมาสู่การวิเคราะห์ และประยุกต์ใช้ เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการร่วมมือด้านความมั่นคง รวมถึงความร่วมมือด้านยุทโธปกรณ์ ถือเป็นเป้าหมายสำคัญของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพราะไทยมีศักยภาพในการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งในอินเดียเองก็มีศักยภาพด้านนี้เป็นอย่างมาก


ส่วนการท่องเที่ยวก็มองเห็นความสำคัญที่ไทยและอินเดียมีความตกลงฟรีวีซ่า ถือเป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันการท่องเที่ยวของประชาชน ที่จะสร้างความเชื่อมต่อระหว่างประชาชนและภาคธุรกิจ รวมถึงการแลกเปลี่ยน Digital Nomad ทั้งอินเดียและไทย ยังมีศักยภาพในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งนโยบายต่างๆ จะถ่ายทอดไปสู่ภาคปฏิบัติหรือเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรมก็ต้องอาศัยบทบาทและศักยภาพของนักธุรกิจ ดังนั้น ทั้งสองฝ่ายก็มองเห็นความสำคัญที่จะเน้นความสำคัญและความร่วมมือภาคธุรกิจถือเป็นนโยบายหลักของนายกรัฐมนตรีเศรษฐาที่ต้องการเห็นศักยภาพของนักธุรกิจ ทั้งสองประเทศนำไปสู่ผลสรุปที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น

ขณะด้านการค้าการลงทุน สามารถเพิ่มพื้นที่การค้าระหว่างกันได้ ทั้งนี้ตนได้เชิญชวนนักลงทุนอินเดียเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นในหลายสาขาทั้ง ด้าน EV ด้านเศรษฐกิจ ดิจิทัล

สำหรับด้านการศึกษา โดยอินเดียมีสถาบันการศึกษาที่มีศักยภาพ มีความเห็นพ้องร่วมกันที่จะเกิดความร่วมมือด้านการศึกษา โดยเฉพาะการส่งเสริมให้สถาบันการศึกษาสามารถทำธุรกิจด้านการศึกษาร่วมกันได้

นอกจากนี้ ยังพูดคุยถึงบทบาทของประเทศไทยที่ต้องการเป็นจุดเชื่อม ทั้งไทยและอินเดียต่างเป็นสมาชิกของกลุ่มต่างๆ และสามารถร่วมมือกันในกรอบของกลุ่มภาคีอื่นได้ โดยเฉพาะ BRICS ซึ่งได้ขอความร่วมมืออินเดียให้ความสนับสนุนประเทศไทย เป็นสมาชิกที่สมบูรณ์ของประเทศไทยในกลุ่มประเทศ BRICS ภายในปีนี้ ซึ่ง ดร.สุพรหมณยัม ชัยศังกระ จะนำไปพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีอินเดียต่อไป.-315-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ภูเก็ตฝนตกต่อเนื่อง เกิดดินสไลด์จากเขานาคเกิด

สถานการณ์น้ำท่วม จ.สตูล เพิ่มความรุนแรง เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ส่วน จ.ภูเก็ต ฝนตกต่อเนื่องทั้งวัน ส่งผลบริเวณปฎักซอย 8 บ้านกะตะ ต.กะรน ที่เคยเกิดดินสไลด์จากเขานาคเกิด ปรากฏภาพน้ำและดินโคลนไหลลงมาจากบนเขา สร้างความกังวลให้กับชาวบ้าน เพราะยังไม่มีมาตรการป้องกัน

ธารน้ำใจหลั่งไหลช่วยชาวเชียงราย

สถานการณ์น้ำท่วม อ.เมืองเชียงราย ดีขึ้นต่อเนื่อง แม้ดูเหมือนเป็นข่าวดี แต่ปัญหาที่ชาวเชียงรายต้องเผชิญคือดินโคลนที่ยังต้องรอการฟื้นฟู หลายคนยังทำใจไม่ได้ แต่ฮึดสู้จากธารน้ำใจของพี่น้องชาวไทยที่ส่งไปช่วยเหลือและให้กำลังใจสู้วิกฤติครั้งนี้

ชายแดนเสียหายหนัก “แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก” ยังจมโคลน

น้ำท่วมชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย มาเกือบสัปดาห์ลดลงเกือบหมดแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายอย่างหนัก ทั้งฝั่งไทยและเมียนมา เต็มไปด้วยโคลนมหาศาลท่วมอาคารบ้านเรือน ทำให้หลายคนยังกลับเข้าไปอาศัยในบ้านไม่ได้

เร่งสูบน้ำบรรเทาน้ำท่วมตัวเมืองหนองคาย

หลังแม่น้ำโขงล้นตลิ่งเข้าสู่วันที่ 5 วันนี้ระดับน้ำลดลงอย่างเห็นได้ชัด จนต่ำกว่าแนวพนังกั้นน้ำถาวรแล้ว ทำให้สามารถสูบน้ำได้อย่างเต็มที่ คาดว่าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) จะเห็นน้ำในตัวเมืองหนองคาย ลดระดับลงอย่างชัดเจน