กทม. 27 ส.ค.-นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคำพิพากษาจำคุกคดี การซื้อขายข้าวจีทูจี ที่มีนักการเมือง ข้าราชการ และนักธุรกิจ ถูกตัดสินจำคุกคนละหลายสิบปี ว่า ถือเป็นคำพิพากษาที่เป็นบทเรียนสำคัญของสังคมไทย โดยเฉพาะผู้ที่ทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน ทั้งนักการเมือง และข้าราชการ ที่มีพฤติกรรมทุจริตคอรัปชั่น และยังมีส่วนสำคัญในการยับยั้งการทุจริตเชิงนโยบายที่สร้างผลเสียหายแก่ประเทศชาติบ้านเมืองอย่างใหญ่หลวง และผู้มีส่วนร่วมกับการทุจริตเชิงนโยบายได้รับประโยชน์จากทรัพย์สินเงินทองที่ทุจริตไปเป็นจำนวนมาก
นายองอาจ กล่าวว่า คำพิพากษาจำคุกครั้งนี้ ถือเป็นการส่งสัญญาณให้เห็นว่าถึงแม้จะเป็นผู้บริหารระดับสูงของประเทศ ถ้ามีการใช้อำนาจหน้าที่โดยไม่ชอบ ด้วยการจัดฉาก สร้างหลักฐานเท็จ อำพรางข้อเท็จจริงต่างๆ เพื่อทุจริตแสวงหาประโยชน์โดยไม่ชอบ ก็มีโอกาสถูกดำเนินคดีและถูกลงโทษตามกฎหมายได้
“อีกทั้งยังเป็นบรรทัดฐานทำให้การทุจริตเชิงนโยบายที่เป็นอันตรายต่อบ้านเมือง เป็นเรื่องที่กระทำได้ด้วยความยากลำบากมากขึ้นในอนาคต และเป็นอุทาหรณ์สอนใจให้นักการเมืองข้าราชการ นักธุรกิจ ระลึกว่าการร่วมมือกันทุจริตคอรัปชั่นอาจเจอชะตากรรมเช่นเดียวกับจำเลยในคดีข้าวจีทูจี
นายองอาจ กล่าวต่อว่าคำพิพากษาคดีข้าวจีทูจีครั้งนี้ จึงถือเป็นคุณูปการที่สำคัญของการป้องกันปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยกระบวนการยุติธรรม ซึ่งทำให้ระบบนิติรัฐ นิติธรรม ของไทยเดินหน้าเป็นหลักให้บ้านเมืองต่อไปได้.-สำนักข่าวไทย