รัฐสภา 8 ก.ค.- “เสรี” ไม่เห็นด้วยตั้ง กมธ.สอบเลือก สว. ย้ำ รับรองก่อน สอยทีหลังได้ ขอเปิดใจกว้างได้คนระดับล่างมา ความรู้น้อย ไม่รวย ต้องยอมรับ
นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา ลุกขึ้นอภิปรายญัตติตั้งกรรมาธิการตรวจสอบการเลือกสมาชิกวุฒิสภา 2567 ว่าการอภิปรายแสดงความคิดเห็นของตนอาจไม่ตรงกับเพื่อนสมาชิกแต่เมื่อจะอภิปรายแล้ว ตนได้มีการคิดแล้วคิดอีก แต่การขัดแย้งในช่วงสุดท้ายไม่มองหน้า ไม่พูดกันก็อาจเกิดขึ้นได้ แต่เมื่อคิดแล้วสิ่งที่ตนแสดงความเห็นนั้นเป็นหน้าที่สำคัญของการเป็นสมาชิกวุฒิสภาคนหนึ่งที่มีความเห็นไม่ตรงกับเพื่อนสมาชิกหลายท่านซึ่งหากตนไม่นำเสนอ หรือพูดไปก็ถือได้ว่าเป็นการทำหน้าที่ๆใช้ไม่ได้ ไม่รับผิดชอบ ตนจะละอายใจเพราะเป็นสมาชิกวุฒิสภาถือเป็นหนึ่งในอำนาจอธิปไตยสูงสุด
ด้วยประสบการณ์ด้วยความรู้ทางด้านกฎหมายและอดีตเคยเป็น สสร. ปี 2540 เคยเขียนกฎหมายมาหลายฉบับหากตนไม่พูดจะถือเป็นคนใช้ไม่ได้ ก่อนหน้านี้ตนเคยเสนอความเห็นต่อกระบวนการเลือกสมาชิกวุฒิสภาไปว่าเป็นกระบวนการที่ผิดปกติที่ กกต.ควรนำมาพิจารณา แต่เนื้อความที่เสนอไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับ กกต. คำว่าองค์กรอิสระ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 215 ที่บัญญัติว่าองค์กรอิสระตั้งขึ้นมาให้มีความอิสระในการปฏิบัติหน้าที่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ซึ่งหาก กกต. ทุจริตและทำผิดต่อหน้าที่ก็มีโอกาสที่ต้องรับผิดชอบและต้องติดคุกได้
ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 109 ได้บัญญัติไว้ว่าให้สมาชิกวุฒิสภาชุดเดิมปฏิบัติหน้าที่จนกว่า จะมีสมาชิกวุฒิสภาชุดใหม่ ไม่อยากให้พ้นจากหน้าที่สมาชิกวุฒิสภาไปแล้วต้องมีคดีอาญาติดตัว
ที่ผ่านมาตน ไม่ค่อยเสนอความเห็นหรือให้กรรมาธิการไปทำในเรื่องของการเลือกสมาชิกวุฒิสภาไม่ใช่ไม่ทำหน้าที่อยากทำแต่กฎหมายกำกับไว้ว่าการเป็น สว. ไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับการเลือกส.ว. เพราะอย่างน้อยมีส่วนได้เสียหลายคนที่มองว่าเป็นส่วนได้เสียที่จะต้องทำนั้นหากไม่ได้ชุดใหม่ขึ้นมาก็ต้องอยู่ต่อไปแม้เจตนาของทุกคนไม่มีเจตนาอยู่ต่อตนเชื่ออย่างนั้นแต่โดยสถานการณ์และเหตุการณ์มันปฏิเสธไม่ได้มีส่วนได้เสียเนื่องจากอยู่ในตำแหน่งที่มีอำนาจมีหน้าที่ตรวจสอบคนตรวจสอบคนนี้ดังนั้นเมื่อตรวจสอบไปก็มีส่วนได้เสีย เมื่อมีอำนาจอยู่ก็กลายเป็นแทรกแซงและก้าวก่ายจึงเป็นเรื่องในข้อกฎหมายว่าเมื่อเป็นสมาชิกวุฒิสภาในระหว่างที่รักษาการอยู่ เป็นหน้าที่ของ สว. หรือไม่ในเมื่อการตั้งกรรมาธิการการศึกษาขึ้นมา ในเรื่องเหล่านี้ทำได้จริงหรือไม่ ถือว่ามีส่วนได้เสีย หากเป็นเรื่องทั่วไปสามารถตั้งได้แต่ในเรื่องนี้มองว่าทำไม่ได้
ข้อสำคัญมีหลายท่านที่พูดว่าให้รับรองไปก่อนสอยทีหลังไม่เห็นมีกฎหมายส่วนไหน ในส่วนนี้นายเสรีได้เปิดรัฐธรรมนูญได้เปิดมาตรา 225 โดยกล่าวว่า ภายหลังการประกาศผลการเลือกตั้งหรือการเลือกแล้วมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ใดกระทำการทุจริตในการเลือกตั้ง ให้กกต. ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา เพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิ์ในการรับเลือกตั้ง เค้าว่าสอยได้
ยืนยันว่าตนไม่ได้ขัดแย้งกับเพื่อนสมาชิก ขอให้กกต. เร่งตรวจสอบและเร่งรับรองนี่คือหน้าที่ของสมาชิกวุฒิสภาที่จะต้องใจกว้าง และยอมรับว่าหมดวาระของเราแล้วและชุดใหม่เข้ามาแล้วด้วยคุณสมบัติอะไรหากไม่ได้ขัดตามรัฐธรรมนูญหรือไปว่าเค้าขายก๋วยเตี๋ยวขายกล้วยแขกหรือขับรถเป็นคุณสมบัติที่น่ายินดีให้คนเหล่านี้เข้ามาเป็นสมาชิกวุฒิสภา
โดยนายเสรี ยังกล่าวว่าการที่สมาชิกวุฒิสภาฃจะเข้ามาในชุดต่อไปเราต้องดีใจที่ได้คนระดับร่างมาอาจจะความรู้น้อยไม่ได้ร่ำรวย ไม่ได้มีอิทธิพลแต่อาจจะมาด้วยกลุ่มที่เลือกเข้ามา แต่หากคนกลุ่มไหน สีไหน ก็ต้องยอมรับว่าถ้าผิดกฎหมายก็เอาโทษ ถ้าไม่เอากลุ่มสีน้ำเงิน จะเอากลุ่มสีส้ม หรือจะเอากลุ่มสีแดงจนกว่าจะพอใจ จะเอาสีอะไรไม่มีทางจบได้ ต้องยอมรับ ดังนั้นตนจึงไม่เห็นด้วยในการตั้งกรรมาธิการมองว่าเป็นการแทรกแซงการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระ.-319 -สำนักข่าวไทย