นายก​ฯ นำถก​ กอ.รมน.​ นัดพิเศษ​ ย้ำเร่งแก้ปัญหายาเสพติด​

กอ.รมน. 3 ก.ค.- นายก​รัฐมนตรี​ นำถก​ กอ.รมน.​ นัดพิเศษ​ ขอส่วนราชการร่วมกันจัดงานเฉลิมพระเกียรติ​อย่างเต็มที่​ แสดงออกถึงความจงรักภักดี พร้อมย้ำที่ประชุม​ เร่งแก้ปัญหายาเสพติด​ วัดผลเป็นรูปธรรมใน 1 ก.ย.​นี้​ พร้อมใช้กลไก กอ.รมน.อย่างสุดกำลังความสามารถ​ ​สร้างความเชื่อมั่นประชาชน​ เปลี่ยนผู้เสพกลับไปเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว-สังคม​


นายเศรษฐา​ ทวีสิน​ นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร​ (วาระพิเศษ)​ โดยมี นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ นายสุทิน​ คลังแสง​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอกเจริญชัย​ หินเธาว์​ ผบ.ทบ.​ ในฐานะรอง ผอ.รมน.​ รวมไปถึง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วม​ประชุม

โดยนายกรัฐมนตรี​ กล่าวก่อนการประชุมว่า วันนี้มีแนวทางในการสั่งการ เดือนนี้เป็นเดือนมหามงคล​ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว​ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 6 รอบ​ พร้อมขอให้ทุกส่วนราชการร่วมกันอย่างเต็มที่​ ในการจัดโครงการกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ​ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและความสามัคคี


นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี​ ยังเน้นย้ำเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติด​ ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ ที่รัฐบาลต้องการแก้ไขปัญหาโดยจะวัดผลให้เป็นรูปธรรม​ ภายใน​ 1 กันยายนนี้​ ซึ่งจากการรายงานผลมีสถิติทั้งในแง่การป้องกันและปราบปราม ที่สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้​ ทำให้เห็นถึงความพยายามของทุกภาคส่วน​ และต้องยอมรับว่ายาเสพติดในปัจจุบันมีปริมาณมากอยู่ และเป็นงานยาก​ ซึ่งไม่น้อยกว่าการปราบปรามคือการสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคม ในการบำบัดรักษา​ เปลี่ยนผู้เสพยาให้เป็นพลเมืองที่มีสุขภาพดีทั้งกายและใจ พร้อมกลับไปเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวและสังคม​ พร้อมขอให้กอ.รมน.ในฐานะหน่วยงานที่มีอำนาจ ตามกฎหมายในด้านความมั่นคงภายใน​ สนับสนุนการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างเต็มที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ

สำหรับวาระการประชุมในวันนี้ที่ประชุม​ 5 วาระ ประกอบด้วยการเปิดประชุมของนายกรัฐมนตรี วาระที่ 2 เป็นเรื่องเพื่อทราบ ถึงความคืบหน้าการดำเนินการตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล​ โครงการเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา รวมไปถึงวาระเรื่องเพื่อพิจารณา ถึงแนวทางการดำเนินการรองรับผลกระทบจากผู้หลบหนีเข้าเมือง และรายงานต่างด้าว​ แนวทางเสริมการปฏิบัติในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ที่มีสถานการณ์รุนแรง และวาระเรื่องอื่นๆ รวมทั้งการมอบนโยบายและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ในฐานะผอ.รมน.-319 -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”