“จุรินทร์” อัดงบ 68 ไม่ต่างจาก “เป็ดขี้เหร่” เงินดิจิทัลกลายเป็นนโยบายเรือเกลือ

รัฐสภา 19 มิ.ย.- “จุรินทร์” ตั้งชื่องบ 68 “ขี้ฮก-ขี้เหร่” ไม่ต่างจาก “เป็ดขี้เหร่” บอกปี 67 รัฐบาลตั้งจีดีพีเกินจริง โครงการเรือธงดิจิทัลวอลเล็ต กลายเป็นเรือเกลือ ที่ยังไม่มีเงิน มาแจกประชาชน หวังน้ำบ่อหน้า จากงบ 68 ขณะที่ชาวบ้านสะท้อน ขอตั้งชื่อว่า “รัฐบาลสามหวย” เพราะมีแต่โครงการหวย


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นอภิปราย ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ว่า อันนี้อิเหนาทำเอง 100% ไม่ได้มีฐานรากมาจากรัฐบาลชุดที่แล้ว แต่ใส่ดิจิทัลวอลเล็ตโดยสารมาด้วยในงบกลาง 152,700 ล้านบาท เมื่อดูภาพรวมทั้งขี้หกและขี้เหร่ ทั้งที่เคยให้สัญญาว่าจะเพิ่มรายได้ให้ประเทศและลดการขาดดุลงบประมาณลงมา แต่พอมาเปิดตัวเลขลึกลงในรายละเอียดกลายเป็นละครคนละซีรีส์เลย เหมือนเห็นสภาเป็นศาลาโกหก และถ้าดูลึกลงไปในรายละเอียด ก็ไม่ได้งดงามเหมือนอย่างที่นายกรัฐมนตรี อภิปรายต่อสภาฯ เพราะพบความขี้เหร่ซุกซ่อนอยู่มากมาย

นายจุรินทร์ กล่าวว่าขี้เหร่ เรื่องแรก คือ รายได้ หากรายได้น้อย รายได้ลด รายจ่ายสูง งบก็ขาดดุล สุดท้ายก็ต้องกู้ เพื่อชดเชยการขาดรายได้ รายได้น้อย รายจ่ายมาก ก็จะทำให้ประเทศเป็นหนี้มาก หนี้ล้นพ้นตัว สุดท้ายไปต่อไม่ได้ ดังนั้นรายได้จึงเป็นส่วนสำคัญ ซึ่งในงบประมาณมีการประเมินรายได้เอาไว้เพียงแค่ 76.9% ซึ่งน้อยกว่าปีที่แล้ว ไม่ตรงกับที่นายกรัฐมนตรีสัญญากับสภาฯ เอาไว้


ขี้เหร่ที่สอง คือ การขาดดุลงบประมาณ แต่ปรากฏว่านอกจากไม่ลดแล้ว ยังเพิ่มการขาดดุลอีกมหาศาล สูงถึง 24.9% หรือราว 8.6 แสนล้านบาท ซึ่งปีที่แล้วตั้งงบขาดดุลไว้เพียงแค่ 6.9 แสนล้านบาท เท่านั้น นายกรัฐมนตรีจะอ้างว่าขาดดุลเพราะโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ได้ ซึ่งจะทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น ตลอด 4 ปีที่อยู่ในอายุของรัฐบาล และจะเพิ่มขึ้นทุกปีทบกันไป ดูจากแผนการคลังระยะปานกลาง ปี 2568 จนถึง 2572

ขี้เหร่ที่สาม เรื่องเงินกู้ งบประมาณ 2 ปี รัฐบาลกู้มาชดเชยการขาดดุลถึง 1.5 ล้านล้านบาท รวมถึงการกู้มาแจกในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1.5 แสนล้าน ยังไม่รวมส่วนต่างที่เหลือ ที่ต้องกู้เพิ่มอีก ซึ่งหากรวมแล้วอีกประมาณ 1.9 ล้านล้านบาท หากรวมบริหาร 2 ปี กู้เกือบ 2 ล้านล้านบาท

นายจุรินทร์ระบุด้วยว่าเมื่อปีที่แล้ว ตนเองตั้งฉายาให้กับนายกรัฐมนตรี ว่าเป็น “นักกู้ถุงเท้าสีชมพู” แต่ปีนี้ ขอให้เป็น “นักกู้ผ้าขาวม้าพันคอ”


สำหรับขี้เหร่ที่สี่ คือการตั้งจีดีพีเกินจริง เพราะตัวเลขประมาณการจีดีพีปี 2567 บวกขึ้นมา 4.1% แต่จากสถาบันต่างๆ รายงานว่าบวกขึ้นมาแค่ 2% ขณะเดียวกันในปี 2568 รัฐบาลประมาณการจีดีพีสูงถึง 4.9% เป็นการตั้งจีดีพีจากจีดีพีเดิมที่เกินจริงอยู่แล้ว จึงกลายเป็น “จีดีพีฟองสบู่” แต่หลายสถาบันประเมินแล้วว่าในปี 2568 จีดีพีของประเทศจะโตเพียงแค่ 3% เท่านั้น แม้แต่สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ก็ยังประเมินในตัวเลขเท่านี้

ขี้เหร่ที่ห้า โครงการดิจิทัลวอลเล็ต จากนโยบายเรือธงกลายเป็นนโยบายเรือเกลือไปแล้ว ตนเองทวงถามแทนประชาชนทุกครั้ง เพราะตั้งหลักว่าเมื่อรัฐบาลสัญญากับประชาชนไว้แล้ว ก็ต้องมีความรับผิดชอบ ล่าสุดรัฐบาลแถลงออกมา 3 ข้อ แจกแน่ในไตรมาส 4 พร้อมแจกรวดเดียว 500,000 ล้านบาท ไม่แยก นั่นหมายความว่าต้องมีเงินครบทั้งหมดจึงจะแจกใช่หรือไม่ ที่มาของเงินมาจาก 3 แหล่งสำคัญ คืองบปี 2568 งบปี 2567 กู้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งนักวิชาการต่างยืนยันว่าไม่สามารถนำมาให้รัฐบาลกู้ได้ เพราะเป็นเงินสำหรับเกษตรกร ฝืนทำไปก็จะผิดกฎหมาย

ดังนั้นตนเองจึงขอถามรัฐบาลว่ายังไม่มีเงินซักบาทที่จะใช้ในโครงการนี้หรือไม่ เพราะยังรออนุมัติงบประมาณจากพระราชบัญญัติฉบับนี้ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลมีความพยายามที่จะใช้งบประมาณในปี 2567 ให้น้อยที่สุด เพื่อจะได้เหลือเงินไปสมทบกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แต่หากรัฐบาลใช้วิธีการนี้จริง เป็นการทำงานที่ใจดำมาก เพราะจะทำให้จีดีพีของประเทศในปี 2567 ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน

ตนเองขอตำหนิรัฐบาล ว่าจนถึงตอนนี้ยังไม่ถามความเห็นจากกฤษฎีกา ว่า การกู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์มาใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ทำได้หรือไม่ หากดำเนินการโครงการไปแล้วแต่ผิดกฎหมาย ใครจะรับผิดชอบ ดังนั้นอนาคตยังเหมือนกับแขวนอยู่บนเส้นด้าย ดังนั้นการตั้งงบประมาณปี 2568 ก็ยังคงเป็นงบประมาณ “เป็ดขี้เหร่”

ขณะที่ การลดรายจ่ายลด ภาระหนี้สิน ยังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน แต่รัฐบาลชุดนี้กำลังซ้ำเติมประชาชนอีก ด้วยนโยบายบาป ทั้งหวยและบ่อน อย่างเช่นหวย 3 ประเภท ลอตเตอรี่ หวยเกษียณ หวยสามตัว หวยN3 จากที่ตนเองลงพื้นที่พบประชาชน สะท้อนว่าขอตั้งชื่อให้รัฐบาลนี้ว่า “รัฐบาลสามหวย”.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]