นายกฯ น้อมรับคำติ หลังผลโพลย้อนแย้งสำนักงานสถิติ

ลำปาง 9 มิ.ย.- นายกฯ น้อมรับคำติ บอกน่าคิดผลสำรวจนิด้าโพลย้อนแย้งกับสำนักงานสถิติแห่งชาติ มั่นใจไตรมาส 4 เศรษฐกิจดีขึ้น มอง “ทักษิณ” ให้สัมภาษณ์ไม่ได้ปลุกปั่น แต่หวังดีกับบ้านเมือง ไม่หวั่นกระทบเสถียรภาพรัฐบาล


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชนที่ระบุว่า 9 เดือน รัฐบาลเศรษฐา พบส่วนใหญ่ยังไม่พอใจการทำงาน มองการบริหารจัดการล่าช้าและงานไม่คืบหน้าเท่าที่ควร ว่า ตนว่าตรงนี้ก็น่าคิดอยู่เหมือนกัน เพราะสำนักงานสถิติแห่งชาติก็เพิ่งมีผลสำรวจออกมา ว่าจริงๆ แล้วตัวเลขมันก็ออกมาใช้ได้ ขณะที่นิด้าโพลก็อีกหนึ่งอาทิตย์ให้หลัง ซึ่งย้อนแย้งกัน แต่ตนก็ยินดีรับฟัง เพราะพูดมาตลอดว่า เสียงที่เราควรจะได้ยินไม่ใช่เสียงชมอย่างเดียว และก็ควรเป็นเสียงที่มีอคติด้วย เราก็พยายามไปดูว่า วิธีการที่เราทำสถิติ เก็บตัวเลขมาเป็นอย่างไร ครบทุกหมวดทุกเหล่า ถามเกษตรกรหรือเปล่า แต่สมมติว่ายังไม่พอใจ ตนคิดว่าทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ มีความเข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชน และน้อมรับในผลโพลที่ออกมา ต้องพยายามทำให้ดีขึ้น

เมื่อถามว่า มีความมั่นใจใช่หรือไม่ว่าในไตรมาสที่ 4 ตัวเลขทางเศรษฐกิจจะดีขึ้น นายกฯ ระบุว่า มั่นใจ


เมื่อถามต่อว่า แต่ภาคเอกชนเป็นห่วงภาคการเมืองจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เหมือนทุกครั้งที่ตนให้สัมภาษณ์ เรื่องของการเมืองนั้นก็อยู่ควบคู่ไปกับเศรษฐกิจไทย รวมทั้งชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งหมด แต่หน้าที่ของผู้หลักผู้ใหญ่บ้านเมืองที่เป็นฝ่ายบริหารก็ต้องทำหน้าที่บริหารต่อไป และพยายามลดทอนในเรื่องของความขัดแย้ง หรือการใช้คำพูดอะไรที่เป็นการท้าทาย ตนเชื่อว่าทุกคนทราบดีว่าการเมืองคืออะไร แต่ก็ต้องไม่ให้เรื่องเหล่านี้มาบั่นทอน แต่ละคนมีหน้าที่อะไรก็ขอให้ทำกันไป แต่เหนือสิ่งอื่นใด ถ้าเราเอาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นที่ตั้ง

“เชื่อว่าถนนการเมืองทุกเส้นก็วิ่งสู่ความต้องการของพี่น้องประชาชน ใครจะมีวิธีการอย่างไรก็น้อมรับและยินดีรับฟัง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ (8 มิ.ย.) และถูกมองว่าเป็นลักษณะคล้ายการปลุกปั่น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตนไม่ได้มองว่าเป็นการปลุกปั่น เชื่อว่าแต่ละคนมีวิธีการคิดที่แตกต่างกันไป แต่เชื่อว่านายทักษิณ และคนอื่นๆ ที่ออกมาให้ข่าวในช่วงหลัง ทุกคนเป็นห่วงบ้านเมือง ซึ่งก็มีวิธีการพูดและการตักเตือนที่แตกต่างกันไป ฝ่ายบริหารก็มีหน้าที่รับฟัง อะไรที่เหมาะสมต่อบริบทหรือสถานการณ์โดยรวมของประเทศ ก็เป็นหน้าที่ที่เราต้องรับมาพิจารณา และรับไปปฏิบัติ


ส่วนกรณีที่คำให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณ มองว่ามีลักษณะกระทบชิ่งไปยังพรรคร่วมรัฐบาล จะทำให้กระทบเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คนอยู่ด้วยกันก็มีทั้งเห็นด้วยและเห็นต่าง ตนในฐานะหัวหน้ารัฐบาลก็มีหน้าที่ประสานใจ หากมีเรื่องข้องใจกันก็ต้องมานั่งพูดคุยกัน ตนก็พยายามพูดคุยกับพรรคร่วมอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า ปัญหาที่เข้ามาต่างๆ จะเป็นความท้าทายและจะทำให้การทำงานสะดุดลงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า เป็นเรื่องท้าทายแน่นอน และมีความเป็นห่วง แต่มั่นใจว่าการทำงานจะไม่สะดุด เพราะเชื่อว่าแรงบันดาลใจจากการที่ประชาชนยังไม่มีความสุขพอ เป็นแรงบันดาลใจที่ผู้บริหารทุกคนอยากจะเห็นความสุขอยู่ในชีวิตของประชาชน พร้อมย้ำว่า ท้าทาย แต่ไม่สะดุด

ส่วนกรณีที่มีการมองว่า การเคลื่อนไหวของนายทักษิณ กระทบภาพลักษณ์ของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย จะต้องมีการพูดคุยกันหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า โดยส่วนตัวพยายามทำตัวให้เป็นน้ำไม่เต็มแก้ว ในข้อแนะนำต่างๆ บางทีสื่อมวลชนแนะนำอะไรมาก็ถือว่าแนะนำแรง บางคนก็พูดจาไพเราะ แต่เราอย่าไปดูว่าวิธีการที่นำเสนอมามันรุนแรง เสียดทาน หรือก้าวร้าว เรามองในเจตนารวมจะดีกว่า เชื่อว่าทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน อยากเห็นประเทศชาติเดินไปข้างหน้า แต่ทุกคนก็มีวิธีการทำงาน มีจุดมุ่งหมายแตกต่างกันไป พยายามมองให้เป็นบวกดีกว่า อย่างที่ตนบอกว่าเป็นความท้าทาย

เมื่อถามว่า ก่อนสภาจะเปิดสมัยประชุมจะมีการพูดคุยกับแกนนำพรรคร่วมหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า พูดคุยกันมาตลอดและจะคุยกันต่อไป โดยในวันจันทร์นี้ (10 มิ.ย.) จะมีการประชุมคณะทำงานด้านเศรษฐกิจ ก็จะมีโอกาสได้เจอกับพรรคร่วมฯ

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า จะเกิดความกินแหนงแคลงใจจากกรณีนายทักษิณ ให้สัมภาษณ์พาดพิงถึงบุคคลในป่า ที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนคงไปนั่งสนทนากันในเรื่องที่พูดไปแล้ว ให้มีทางออกได้สำหรับทุกฝ่ายมากกว่า เพราะทางออกของทุกฝ่ายก็คือปัญหาของประชาชน เน้นย้ำตรงนี้ดีกว่า

เมื่อถามว่า รู้สึกท้อบ้างหรือไม่ที่ทำงานมาตลอดเดือน แต่ผลสำรวจก็ออกมาไม่เป็นที่พอใจของประชาชน ส่วนเรื่องการเมืองก็มากระทบ ทำให้บั่นทอนความรู้สึกบ้างหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในเมื่อเข้าสู่การเมือง หากเรื่องพวกนี้เกิดขึ้น เราก็ต้องพร้อมที่จะรับมือ

ส่วนการเคลื่อนไหวลักษณะอำนาจเชิงซ้อนระหว่างนายทักษิณกับนายกรัฐมนตรี มีผลต่อสายตาของนักลงทุนต่างชาติบ้างหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตนไม่พูดว่าอำนาจเชิงซ้อนมีหรือไม่มี แล้วแต่คนจะไปคิดกันเอง แต่อำนาจเบ็ดเสร็จอยู่ที่ตน ตนเป็นคนเซ็น เป็นคนลงนาม แต่แน่นอนว่าอดีตนายกฯ ท่านไหน ตนก็เข้าไปหา ถ้ามีอะไรที่จะแนะนำ ตนก็น้อมรับ รวมถึงคนอื่นๆ ด้วย ดังนั้น ตนเชื่อว่าอย่าใช้คำว่าอำนาจซ้อนดีกว่า เราใช้คำว่ารัฐบาลนี้รับฟังความเห็นทุกฝ่าย พร้อมยอมรับว่า ต่างชาติก็เคยตั้งคำถามนี้ แต่เชื่อว่าตนพิสูจน์ได้ด้วยการทำงานตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา ว่าการทำงานที่มีเสถียรภาพที่สุด คือ การที่เรารับฟังความเห็นของทุกภาคส่วน

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า สมัยก่อนเจอปัญหาก็เป็นแค่วิกฤติของบริษัทเอกชน มีอะไรเกิดขึ้นในเชิงลบก็กระทบกับคนหมู่น้อย แต่ถ้าเป็นเรื่องการเมือง ในตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของประเทศ เป็นหน้าที่ที่นายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบประชาชน 70 ล้านคน มันใหญ่กว่า แต่ถามว่าพร้อมไหมที่จะเผชิญและหาทางแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ตนถือว่าพร้อม ถ้าดูจากวิธีการทำงาน จะเห็นว่าตนไม่ย่นย่อ ยังเดินหน้าทำงานต่อไป พรุ่งนี้ก็ตื่น 7 โมงเช้าไปทำงาน

ในช่วงท้าย ผู้สื่อข่าวแซวว่า นายกรัฐมนตรียังยิ้มได้ใช่หรือไม่ นายกฯ จึงตอบพร้อมรอยยิ้มว่า “ครับ ยิ้มได้อยู่ครับ บางทีก็กัดฟันเหมือนกัน“ .-316

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ลิณธิภรณ์” แจงปมสะกดคำผิด ยอมรับผิดพลาดพร้อมแก้ไข

กระทรวงวัฒนธรรม 4 ก.ค.- “ลิณธิภรณ์” ยอมรับดรามาใช้ภาษาไทยสะกดคำผิด พร้อมแก้ไขปรับปรุงตัว รับปากจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก บอก บางครั้งรีบพิมพ์ไม่ได้ตรวจทาน ทำเกิดผลเสียทุกวันนี้ แจงมีปัญหาสุขภาพ อาจทำให้ออกเสียงควบกล้ำไม่ได้ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงดรามาเรื่องการใช้ภาษาไทยในโซเชียลมีเดีย ว่า ตนขอยอมรับอย่างซื่อตรง ว่าบางครั้งในการสะกดคำของตนเองก็มีความผิดพลาด ซึ่งบางครั้งใช้การพิมพ์ด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือ และได้โพสต์ข้อความไปแล้ว ก่อนจะมารู้ตัวอีกทีก็ผ่านไป 2-3 ชั่วโมง มันเป็นความผิดพลาด อันนี้ตนยอมรับด้วยความจริงใจ และวันนี้ตนก็เข้าใจดีว่าเมื่อมานั่งตำแหน่งตรงนี้ สิ่งที่จำเป็นต้องทำ คือต้องปรับปรุง และคิดว่าหลังจากนี้ความผิดพลาดเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะตนก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ของประเทศเหมือนกัน รวมถึงอีกสิ่งที่ตนอยากจะบอกคือการออกเสียงควบกล้ำ ซึ่งเป็นผลกระทบ จากปัญหาสุขภาพ แต่ส่วนหนึ่งตนก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในภาพนโยบายใหญ่ คงต้องขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยใน รายละเอียดที่ชัดเจน และจะเข้ากระทรวงพร้อมกันในวันที่ 8 กรกฎาคม สำหรับตนหากใครที่เคยติดตาม ก็เคยเป็นคนหนึ่งที่ พูดเรื่องการศึกษาในส่วนของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าสอบทีแคส (TCAS) รวมถึงเรื่องการทำโครงการ ด้านสุขภาพภาวะจิต และอาจจะเป็นโครงการหนึ่งที่ตนจะสานต่อ […]

มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ที่บราซิล

ทำเนียบ 3 ก.ค.-มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ครั้งที่ 17 ที่บราซิล 6-7 ก.ค.นี้ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2568 ร่วมกับผู้นำจาก 10 ประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS และประเทศหุ้นส่วนจากหลากหลายประเทศ ที่นครรีโอเดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล โดยไทยเข้าร่วมในฐานะประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS (Partner Country) สำหรับการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS จะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “เสริมสร้างความร่วมมือโลกใต้เพื่อการสร้างธรรมาภิบาลที่ครอบคลุมและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยบราซิลในฐานะประธานกลุ่ม BRICS ปีนี้ ให้ความสำคัญกับประเด็นหลัก 6 ด้าน ได้แก่ (1) สาธารณสุข (2) การค้า การลงทุน และการเงิน (3) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (4) ธรรมาภิบาลของปัญญาประดิษฐ์ […]

Hun Sen, at event marking ruling party's 74th founding anniversary

ฮุน เซน เรียกร้องปั๊ม ปตท. งดนำเข้าน้ำมันจากไทย

พนมเปญ 3 ก.ค.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเรียกร้องให้เจ้าของปั๊ม ปตท.เลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าจากประเทศอื่นแทน สื่อของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน พูดถึงเรื่องนี้ในระหว่างการประชุมกับครูและนักเรียนที่ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมในจังหวัดไพรแวงในวันนี้ เรียกร้องให้เจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.ทุกแห่งในกัมพูชาเลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าน้ำมันจากประเทศอื่น ๆ แทน ไม่ว่าจะเป็นจากเวียดนาม  มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อปั๊ม แม้ว่า ปตท.จะเป็นรัฐวิสาหกิจของไทยก็ตาม นอกจากนี้นายฮุน เซนยังพูดถึงเรื่องที่ไทยเคยขู่ว่าจะตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต ห้ามขายเชื้อเพลิง และอื่นๆ ให้กัมพูชาด้วยว่า เมื่อไทยขู่มากัมพูชาก็ตอบโต้ทันที กัมพูชาต้องพึ่งพาตนเองให้ได้เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในอนาคตเหมือนกับที่กำลังเผชิญจากไทยในเวลานี้ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากไทย แต่กัมพูชาก็ได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ของกัมพูชา ประธานวุฒิสภากัมพูชาเน้นย้ำว่า มาตรการทั้งหมดที่กัมพูชาได้ดำเนินไปนั้นเป็นการตอบโต้โดยตรงกับภัยคุกคามจากฝ่ายไทย รวมทั้งการที่ไทยปิดด่านพรมแดนแต่เพียงฝ่ายเดียว เขาแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า การเจรจากับไทยจะเริ่มขึ้นได้ ต่อเมื่อฝ่ายไทยจะต้องยอมเปิดด่านทุกจุดอย่างเต็มรูปแบบเหมือนที่เคยทำก่อนวันที่ 7 มิถุนายนแล้วเท่านั้น.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เปิด 7 จุดยืน “ปชน.” ทางออกประเทศหาก “แพทองธาร” พ้นเก้าอี้

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “แพทองธาร” พ้นตำแหน่ง เปิดเงื่อนไขโหวตนายกฯ คนใหม่ พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “นายกฯ แพทองธาร” พ้นจากตำแหน่ง เพื่อนำพาประเทศไปสู่ทางออกที่จะเป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับประชาชนทุกคน ดังนี้ 1.สิ่งที่ประเทศต้องการมากที่สุด คือรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรม และสามารถตั้งทีมบริหารจากความรู้ความสามารถ ไม่ใช่จากการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง2.รัฐบาลที่จะมีคุณสมบัติดังกล่าวจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากสภาชุดปัจจุบัน ทางออกสำหรับประเทศจึงเป็นการจัดให้มี “การเลือกตั้งใหม่” โดยเร็ว3.รักษาการนายกฯ ควรประกาศให้ชัดเจนว่าจะใช้อำนาจที่ตนเองมี ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนผ่านคูหาเลือกตั้ง4.หากรักษาการนายกฯ ไม่ทำ และมีเหตุใดที่ทำให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร พ้นจากตำแหน่ง กระบวนการในการเลือกนายกฯ คนใหม่ จะต้องนำไปสู่การได้มาซึ่งนายกฯ ที่พร้อมเดินหน้าสู่การยุบสภา5.เพื่อให้ประเทศไม่ถูกบีบไปสู่ทางตันหรือการใช้อำนาจนอกครรลองประชาธิปไตย เราพร้อมจะพิจารณาลงมติให้กับผู้เสนอตัวเป็นนายกฯ คนใหม่คนใดก็ตาม ที่ยอมรับ “เงื่อนไข” ในการเป็นรัฐบาลชั่วคราว โดยทางพรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลและจะไม่มีใครจากพรรคประชาชนไปเป็นรัฐมนตรี 6.“เงื่อนไข” ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา สำหรับนายกฯ คนใหม่ จะต้องประกอบไปด้วยอย่างน้อย6.1 การประกาศเส้นตายว่าจะยุบสภาภายในสิ้นปี6.2 การยืนยันภารกิจเฉพาะหน้าที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าว (เช่น การดำเนินการให้มีการจัดประชามติพร้อมกับการเลือกตั้ง เพื่อถามประชาชนเรื่องการมี […]

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” หารือผู้บริหาร ก.วัฒนธรรม

ก.วัฒนธรรม 4 ก.ค.-“แพทองธาร” หารือผู้บริหาร ก.วัฒนธรรม แจงข่าวปลอมไทยคืนวัตถุโบราณ 20 รายการ ให้กัมพูชาไม่จริง ชี้ทำตั้งแต่ “รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์” พร้อมสั่งเบรกจัดสรรงบฯ คืนวัตถุโบราณกัมพูชา จ่อแจ้งความคนปล่อยเฟกนิวส์ ปลุกปั่น “กลุ่มปราสาทตาเมือน” ยันอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยไทย ช่วงบ่ายวันนี้ (4 ก.ค.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นการประชุมครั้งแรก มีข้อที่อยากจะฝากเอาไว้ และอยากจะให้ช่วยกันผลักดัน รวมถึงอยากจะอัปเดตข้อมูลให้ฟัง ซึ่งวันนี้ตนได้ทำการบ้านมาเล็กน้อย และรู้สึกดีใจที่จะได้ฟังจากทุกคนว่า แต่ละหน่วยงานแต่ละฝ่ายทำอะไรกันอยู่บ้าง และในกระทรวงฯ มีอะไรที่อยากให้ดำเนินการเพิ่มเติมบ้าง ประเด็นแรก อยากจะขอชี้แจงเรื่องข่าวปลอม เรื่องการส่งคืนวัตถุโบราณ จำนวน 20 รายการ ให้กับประเทศกัมพูชา ตนขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะการคืนวัตถุโบราณให้กับประเทศกัมพูชา มีมาตั้งแต่สมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ในปี พ.ศ. 2558 ซึ่งประเทศไทยได้คืนไปแล้ว […]

“สุชัชวีร์” ไขก๊อก “ปชป.” เล็งรวมคนตั้งพรรคใหม่

พรรคประชาธิปัตย์ 4 ก.ค.- “สุชัชวีร์” ไขก๊อก ลาออก “ปชป.” เตรียมรวมคนตั้งพรรคใหม่ ทำการเมืองระดับประเทศ เน้นพัฒนาคนจากการศึกษา ลั่นถ้าการศึกษาเปลี่ยนไม่ได้ อย่าหวังว่าประเทศไทยจะมีอนาคต ส่อไม่ลงผู้ว่าฯ กทม.ต่อ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาที่พรรคประชาธิปัตย์ในเวลา 10.00 น. เพื่อกราบไหว้พระแม่ธรณีบีบมวยผม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำพรรค ดร.สุชัชวีร์ เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าได้ให้เลขานุการส่วนตัวยื่นหนังสือลาจากเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองของคณะกรรมการการเลือกตั้งและนายทะเบียนพรรคประชาธิปัตย์เรียบร้อยแล้ว และต้องขอกราบขอบคุณสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และหัวหน้าพรรคซึ่งตนได้โทรศัพท์เรียนให้ทราบถึงการตัดสินใจไปแล้ว รวมทั้งขอบคุณกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ที่ให้เกียรติ ทำงานกับพรรคการเมืองที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ขอยืนยันชัดเจนว่าไม่ได้เกิดจากความขัดแย้งใด ๆ แต่มาจากอุดมการณ์และความฝันของตนที่ออกมาทำงานการเมือง ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงในประเทศจริง ๆ เพราะวันนี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในภาวะที่วิกฤติ และสถานการณ์ขณะนี้รอไม่ได้ ดังนั้นด้วยความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาของประเทศที่เริ่มต้นจากการพัฒนาคนเรื่องการศึกษา ถือเป็นความตั้งใจอันแน่วแน่และเป็นการตัดสินใจอย่างรอบคอบว่าจากนี้เป็นต้นไปจะใช้ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ทั้งหมด มาใช้ในการเปลี่ยนแปลงประเทศ และเริ่มต้นจากการเปลี่ยนเรื่องของการศึกษา ถ้าเราไม่เปลี่ยนเราแพ้เวียดนามแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้ตนยอมไม่ได้ เมื่อถามว่าส่วนหนึ่งในเหตุผลการลาออกคือ พรรคประชาธิปัตย์ยังตัดสินใจร่วมรัฐบาลอยู่ใช่หรือไม่ นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า นั่นเป็นการตัดสินใจของพรรค ตนให้เกียรติหัวหน้าพรรคและผู้ใหญ่ในพรรค และไม่ใช่เหตุผลที่ตัดสินใจลาออก เพราะตนมีเหตุผลชัดเจนอย่างที่กล่าวมา ซึ่งสถานการณ์ในประเทศไทยตอนนี้ วิกฤติทางการเมือง […]

ปิดลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ย้ายไปแอปฯ “ทางรัฐ”

4 ก.ค.- “สรวงศ์” รมว.ท่องเที่ยวฯ สั่งปิดลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ชั่วคราว หลังพบปัญหาต่อเนื่อง เตรียมย้ายไปเปิดใหม่ผ่านแอปฯ “ทางรัฐ” ยันไม่กระทบผู้ที่ลงทะเบียนรับสิทธิแล้ว นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาการลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ที่เริ่มเปิดเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา ก่อนเกิดปัญหาต่อเนื่องจนถึงขณะนี้ เพื่อให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วขึ้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานว่าอยู่ระหว่างพิจารณา 2 แนวทาง คือ ล่าสุดเช้าวันนี้ นายสรวงศ์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไทย ว่า ล่าสุดยังได้รับรายงานถึงปัญหาการลงทะเบียนมาอย่างต่อเนื่อง จึงสั่งการให้หยุดการลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ผ่านทางเว็บไซต์ www.เที่ยวไทยคนละครึ่ง หรือแอปฯ Amazing Thailand ตั้งแต่บัดนี้ทันที แล้วให้ย้ายไปลงทะเบียนที่แอปฯ “ทางรัฐ” เพราะมีระบบยืนยันตัวตนในแอปฯ อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเพิ่มขั้นตอน ส่วนจะเริ่มได้เมื่อใด ณ เวลานี้ยังตอบชัดเจนไม่ได้ แต่วันนี้ (4 ก.ค.) จะหารือกับทีมเทคนิค ฝ่ายไอทีว่าจะสามารถย้ายระบบมาลงทะเบียนได้เร็วที่สุดเมื่อใด ยืนยันจะรีบดำเนินการให้เร็วที่สุด […]

ต้อนรับอบอุ่น “ภูมิธรรม-เดชอิศม์” เข้ามหาดไทยวันแรก

กระทรวงมหาดไทย 4 ก.ค.- “ภูมิธรรม” พร้อม “เดชอิศม์” เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระสังฆราช ก่อนเข้า ก.มหาดไทย วันแรก สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และมอบนโยบาย โดยมีข้าราชการและเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่เป็นวันแรก โดยมี น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย คณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย อธิบดี หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ร่วมให้การต้อนรับ โอกาสนี้ นายภูมิธรรม นำคณะเข้าถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บริเวณหน้าพระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร และเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ พระตำหนัก และเข้าสักการะสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ณ อาคารสัมฤทธิ์วิทยากร ภายในวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร จากนั้น นายภูมิธรรม และคณะ […]