ลำปาง 9 มิ.ย. – นายกฯ สักการะพระธาตุลำปางหลวง ชมเงาพระธาตุกลับหัว Unseen Thailand สั่ง รมต.ประจำสำนักนายกฯ-ผู้ว่าการ ททท. จัดสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาให้อยู่ในเส้นทางท่องเที่ยว และให้ จ.ลำปาง อยู่ในเส้นทางท่องเที่ยวเดียวกันกับ จ.เชียงใหม่ กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางไปวัดพระธาตุลำปางหลวง ซึ่งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลลำปางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง ห่างจากตัวเมืองลำปางไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 18 กิโลเมตร เมื่อเดินทางถึงนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ กราบพระประธานในพระอุโบสถ ก่อนกราบนมัสการและสนทนาธรรมกับพระครูพิธานนพกิจ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุลำปางหลวง รองเจ้าคณะอำเภอเกาะคา
นายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงประวัติความเป็นมาของวัดพระธาตุลำปางหลวง พร้อมสั่งการให้นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมร่วมหากมีกิจกรรมสำคัญที่เชียงใหม่ เพราะลำปางเป็นจังหวัดทางผ่าน ขอให้จัดกิจกรรมรองรับ และขอให้มีการโปรโมทเส้นทางท่องเที่ยวให้สอดคล้องกัน รวมทั้งสั่งการให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ประสานกับสำนักพุทธฯ ให้ทำงานควบคู่กันกับการท่องเที่ยว เพื่อเชื่อมโยงให้เป็นเส้นทางเดียวกันในการโปรโมทการท่องเที่ยว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งระหว่างการสนทนาธรรม เจ้าอาวาส ระบุว่าถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมายังพระธาตุลำปางหลวง เพราะเป็นพระธาตุประจำปีเกิด คือ ปีฉลู หากนับตามนักษัตรทางภาคเหนือ แต่นายกรัฐมนตรีแย้งว่าตนเองเกิดปีขาลหรือปีเสือ เจ้าอาวาสจึงระบุว่า วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2505 เป็นวันเกิดของนายกรัฐมนตรีนั้น นับตามนักษัตรของทางภาคเหนือ ถือว่ายังอยู่ในปีฉลู
จากนั้นเจ้าอาวาสได้มอบองค์พระธาตุจำลองลำปางหลวง ซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีเกิดปีฉลู ตามความเชื่อของชาวล้านนา พร้อมเหรียญพระแก้วมรกตดอนเต้า ซึ่งถือเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของ จ.ลำปาง และพระรอดลำปางหลวง ซึ่งทำมาจากเนื้อเงินและเนื้อทอง ที่ทำมาจากส่วนที่เหลือที่หุ้มพระธาตุ ในการบูรณะเมื่อปี 2550 ให้กับนายกรัฐมนตรี จากนั้นเจ้าอาวาสได้สวดให้พรนายกรัฐมนตรี ประสบความสำเร็จในการบริหารราชการแผ่นดิน
ต่อมานายกรัฐมนตรีได้สักการะองค์พระธาตุลำปางหลวง โดยเจ้าอาวาสได้อธิบายถึงประวัติความเป็นมาและความสำคัญในอดีต จากนั้นได้เข้าไปภายในพระอุโบสถ ดูการตกกระทบของพระธาตุ ซึ่งสามารถเห็นเป็นเงาพระธาตุลำปางหลวงเต็มองค์ (Unseen in Thailand)
ก่อนจะออกมาถ่ายรูปพร้อมคณะเป็นที่ระลึก
จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางต่อมายังร้านข้าวแต๋นทวีพรรณ อ.เกาะคา จ.ลำปาง เพื่อเยี่ยมชมวิธีการทำข้าวแต๋น ซึ่งเมนูข้าวแต๋นมีต้นกำเนิดมาจาก จ.ลำปาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางมาสักการะพระธาตุลําปางหลวง และชมเงาพระธาตุกลับหัว (Unseen in Thailand) ของนายกฯ และคณะ ครั้งนี้ เป็นความมุ่งหมายของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว โดยนำศักยภาพที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของแต่พื้นที่ มาขับเคลื่อน เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวของพื้นที่และประเทศไทย ตามนโยบายนายกฯ เรื่องการ ‘เปิดเมืองน่าเที่ยว’ ตามนโยบาย IGNITE TOURISM THAILAND ซึ่งเป็นยกกลยุทธ์เชื่อมโยงเมืองหลักสู่เมืองน่าเที่ยวทั่วประเทศ โชว์เสน่ห์อัตลักษณ์ไทย ทั้งศิลปวัฒนธรรม ประเพณี อาหาร สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และกิจกรรมการท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพื่อกระตุ้นไฮซีซั่นท่องเที่ยวไทยตลอดปี
ทั้งนี้ จ.ลำปาง ถือเป็นอีกหนึ่งของ ‘เมืองน่าเที่ยว’ ที่มีศักยภาพดังกล่าวอย่างมาก ทั้งเรื่องของการที่เป็นเมืองแห่งรถม้าและชามตราไก่ เพราะเป็นจังหวัดเดียวในไทยที่มีรถม้าวิ่งอยู่ในปัจจุบัน นอกจากนี้ลำปางยังขึ้นชื่อในเรื่องของชามเซรามิกตราไก่ ซึ่งสามารถพบเห็นสัญลักษณ์เซรามิกรูปไก่ตามป้ายชื่อถนน บนสะพาน หรือตามตึกต่างๆ ได้ทั่วไปในเมือง และลำปางยังเป็นเมืองที่มีเงาพระธาตุกลับหัวให้ชมกันอยู่หลายวัด ถือเป็น Unseen in Thailand ที่ทุกคนควรเข้ามาเยี่ยมชม.-316-สำนักข่าวไทย