“ยุทธพร” ชี้จุดเปลี่ยนสำคัญทางการเมืองขึ้นอยู่กับศาล รธน.วินิจฉัย

รัฐสภา 5 มิ.ย.-“ยุทธพร” ไม่มั่นใจตั้ง “วิษณุ” เป็นที่ปรึกษาของนายกฯ จะเป็นผลบวกต่อคดี “เศรษฐา” หรือไม่ ชี้จุดเปลี่ยนสำคัญทางการเมืองขึ้นอยู่กับศาล รธน.วินิจฉัย

นายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาและจำแนกการกระทำเพื่อประกอบการพิจารณาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่หลายคดีรุมเร้ารัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะคดี ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรี ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคดีของนายทักษิณ ชินวัตร จะนำไปสู่การเปลี่ยนขั้วสลับข้าง หรือมีเหตุที่ทำให้ต้องลงถนนหรือไม่ว่า ตัวชี้วัดหรือจุดเปลี่ยนที่สำคัญอยู่ที่คดีของนายกรัฐมนตรีที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะพิจารณาว่าออกมาในรูปแบบไหน ถ้าออกมาในลักษณะที่นายเศรษฐาได้ไปต่อ เรื่องนี้ก็คงจะบรรเทาเบาบางสถานการณ์ที่ตึงเครียดให้กับรัฐบาลได้พอสมควร แต่ถ้าออกมาในลักษณะที่นายเศรษฐาไม่ได้ไปต่อ สิ่งที่จะเกิดผลกระทบอันดับแรกคือคณะรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งไปพร้อมกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็จะนำมาสู่การเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ ซึ่งแคนดิเดตก็เหลือเพียงไม่กี่คน โอกาสที่จะเกิดการสลับขั้วพลิกขั้ว ย้ายข้าง ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั้งหมดและนำไปสู่ปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองก็ได้


ส่วนเรื่องอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นของนายทักษิณ หรือเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์ต่อนโยบายต่างๆ ก็ไม่ได้เป็นประเด็นหลักที่จะส่งผลในระยะสั้นมากนัก

ส่วนที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งนายวิษณุ เครืองามเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี จะทำให้มีโอกาสรอดคดี หรือมีปาฏิหาริย์ทางการเมืองได้หรือไม่ นายยุทธพร กล่าวว่า การที่นายวิษณุเข้ามา เรื่องความรู้ความสามารถทางกฎหมายไม่มีใครตั้งข้อสงสัยอยู่แล้ว แต่หลายคนคงตั้งคำถามว่า สิ่งที่นายวิษณุมีมากกว่านักกฏหมายคนอื่นนั้นคืออะไรหลายคนบอกว่าคือปาฏิหาริย์กฎหมาย หรือการรู้จักมักคุ้นผู้คนมากมาย เพราะนายวิษณุอยู่ในรัฐบาลมากว่า 10 รัฐบาล ถ้าท้ายที่สุดแล้ว จะเป็นผลบวกหรือลบ ต่อคดีของนายเศรษฐานั้น ตนไม่มั่นใจว่าจะเป็นผลบวกแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะฉะนั้นก็เกิดได้ทุกรูปแบบเช่นเดียวกัน


นายยุทธพร ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการทำงานของอนุกรรมาธิการศึกษาและจำแนกการกระทำเพื่อประกอบการพิจารณาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า มีความคืบหน้าไปกว่า 90% แล้ว ได้ยกร่างทั้งหมด 7 ประเด็นเพื่อนำเสนอคณะกรรมาธิการชุดใหญ่ อีก 10% คือการปรับแก้ตามมติของกรรมการชุดใหญ่ที่มีข้อเสนอแนะ ซึ่งการปรับแก้เป็นเรื่องนิยามของแรงจูงใจทางการเมือง เพื่อที่จะให้ตรงกัน และเพิ่มเติมเรื่องของมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ และ แนวทางการสร้างความปรองดอง ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักสำคัญของการนิรโทษกรรม พร้อมย้ำว่า เจตจำนงค์ของการนิรโทษกรรมคือการสร้างสังคมที่มีความปรองดอง โดยการพิจารณาของอนุกรรมาธิการวันนี้ จะนำเสนอคณะกรรมธิการชุดใหญ่ในวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.) ซึ่งถ้าไม่มีข้อเสนอแนะใดเพิ่มเติม ก็ถือว่าสิ้นสุดการทำงานของอนุกรรมาธิการ และนำไปสู่การทำรายงานเพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป

นายยุทธพร กล่าวว่า การทำงานในอนุกรรมาธิการไม่มีปัญหาอุปสรรคแต่อย่างใด แต่มองว่าอุปสรรคอยู่ที่นอกห้องประชุมมากกว่า เช่นกระบวนการบิดเบือนนำข้อมูลข่าวสาร ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในหลายประเด็น โดยเฉพาะประเด็นที่มีความอ่อนไหวทางการเมือง ซึ่งทางกรรมาธิการต้องชี้แจง ทำความเข้าใจและเปิดเผยข้อมูลข้อเท็จจริงต่างๆในการทำงานให้สังคมได้รับทราบมากที่สุด ซึ่งประเด็นที่เป็นปัญหานอกห้องประชุม หนึ่งในนั้น คือ ประเด็นมาตรา 112 ท่ามกลางสังคมที่มีการแบ่งขั้วและมีความเห็นต่างในทางการเมืองก็เป็นเรื่องปกติที่แต่ละคนจะมีมุมมองหรือข้อเสนอวิพากษ์วิจารณ์ที่แตกต่างกันไปแต่ทั้งหมดก็ต้องดูข้อมูลข้อเท็จจริงด้วย ซึ่งทางกรรมาธิการยืนยันว่าไม่ได้ถอดมาตรา 112 ในการพิจารณาออก และยังอยู่ระหว่างการพิจารณา

จากนั้น ก็มีคำถามตามมาอีกว่า เมื่อไม่ถอดมาตรา 112 เป็นเพราะจะเป็นการช่วยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ซึ่งยืนยันว่า กรรมาธิการไม่มีการช่วยเหลือบุคคลใดเป็นพิเศษ ซึ่งการทำงานยึดหลักการเป็นที่ตั้ง และเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ไปจะเอื้อประโยชน์ให้กับใคร เพราะถ้ากฎหมายนิรโทษกรรมออกมา ประชาชนก็จะได้รับประโยชน์ ซึ่งการนิรโทษกรรมครั้งนี้ อาจเรียกได้ว่าเป็นครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เพราะกินระยะเวลายาวนานถึง 20 ปี


นายยุทธพร กล่าวว่า การออกกฏหมายนิรโทษกรรม จะไม่มีผลต่อคดีของนายทักษิณ ชินวัตร ในความผิดตามมาตรา 112 ซึ่งการทำงานของคณะกรรมธิการมีมาก่อนการที่ศาลสั่งฟ้องนายทักษิณ

นายยุทธพร กล่าวว่า ผลสำเร็จในงานครั้งนี้ คือการมีข้อเสนอสำหรับการที่จะนำไปสู่การพิจารณาในการตรากฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งไม่ว่าเราจะได้กฎหมาย นิรโทษกรรมหรือไม่ตรงนั้นไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่ แต่สิ่งที่ได้คือข้อเสนอที่วันนี้มีการรวบรวมข้อมูล ซึ่งไม่เคยมีการรวบรวมมาก่อน และข้อเสนอเหล่านี้ เมื่อเวลาผ่านไปข้างหน้า แม้ กฎหมายนิรโทษกรรมจะไม่สำเร็จ ก็สามารถที่จะนำข้อเสนอเหล่านี้มาพิจารณาได้อีกครั้ง ตรงนี้จะเป็นประโยชน์กับสังคม ซึ่งเจตจำนงค์ของการนิทรรศการคือการสร้างความปรองดอง ให้เกิดขึ้นในสังคม และกฎหมายก็เป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งเท่านั้น.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน 9 จังหวัดรับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 20 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือน 9 จังหวัดรับมือฝนตกหนัก เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อน “มิแทก” บริเวณทะเลมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำและสลายตัวอย่างรวดเร็ว ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย -สำนักข่าวไทย

สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” ปมร้องเรียนทุจริตเงินวัด-พัวพัน 3 สีกา

19 ก.ย. – สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” และเดินทางออกจากวัดทันที หลังก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับทุจริตเงินวัด และพัวพัน 3 สีกา เป็นภาพเอกสารที่พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ส่งไปยังเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เพื่อชี้แจงกรณีของผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง พร้อมแนบภาพถ่ายการลาสิกขาของผู้ช่วยเจ้าอาวาส เอกสารระบุข้อความว่า “ตามที่มีประเด็นปรากฏในสื่อออนไลน์ และสื่อต่างๆ เกี่ยวข้องกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ทางวัดหัวลำโพง ขอชี้แจงตามประเด็นดังต่อไปนี้ 1.กรณีพฤติกรรมชู้สาวของพระครูปริยัติวัฒนกิจ ทางวัดยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนบุคคล2.กรณียักยอกงินวัดนั้น ทางวัดขอชี้แจงว่า ยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากหน้าที่ของพระครูปริยัติวัฒนกิจ เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ฌาปนสถานวัดหัวลำโพง มีหน้าที่ประสานงานกับเจ้าภาพที่มาติดต่อเกี่ยวกับการจองศาลาบำเพ็ญกุศล อีกทั้งฌาปนสถานวัดหัวลำโพง ประกอบด้วยกรรมการบริหารจำนวน 5 รูป โดยมีเจ้าอาวาสเป็นประธาน และมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายในส่วนฌาปนสถานของวัดมาโดยตลอด 3.กรณีลาสิกขา ทางพระครูปริยัติวัฒนกิจ แจ้งความประสงค์ลาสิกขาด้วยความสมัครใจ เพื่อมิให้กระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของวัด และศรัทธาของสาธุชน โดยลาสิกขา 18 ก.ย. 2568 เวลา 19.10 น. และเดินทางออกจากวัดทันที ย้อนดูคำชี้แจง “อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ”ย้อนดูคำชี้แจงจากปากของอดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ ก่อนหน้านี้ที่ทีมข่าวได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ สำหรับเรื่องทุจริตเงินวัด อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ บอกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเอง […]

เบื้องหลังละครกัมพูชา

สระแก้ว 19 ก.ย. – ชาวกัมพูชาที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ยังไม่รามือ หลังพบความพยายามรวบรวมฝูงชนจากพื้นที่อื่น เข้ามาสร้างสถานการณ์ยึดดินแดนไทย อาจมีเบื้องหลังเป็นข้าราชการกัมพูชา-นายทุนต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]