ดัน “อุตสาหกรรมฮาลาลไทย” โตในตลาดโลก

เมืองทองฯ 28 พ.ค.-กระทรวงอุตสาหกรรม ดีเดย์เปิดบูธศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทยในงาน THAIFEX ขับเคลื่อนอย่างรูปธรรม ส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศขยายตลาดสินค้า-บริการฮาลาล ตามแผนพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาล 5 ปี รมว.อุตฯ หวัง เป็นส่วนหนึ่งในการนำรายได้เข้าประเทศ ด้านผู้แทนการค้าไทย ชี้ช่องไทยมีโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการเป็นประเทศผู้นำในตลาดฮาลาลโลกได้ ขณะที่ผศอ.หวังไทยเป็นฮับด้านฮาลาล


นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยดร.นลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย ร่วมกันตัดริบบิ้นเปิดบูธศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย ภายในงาน THAIFEX-Anuga Asia 2024 โดยมีหน่วยงานในกระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสถาบันอาหาร ร่วมเป็นพันธมิตร

ภารกิจของศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย คือ การขับเคลื่อนงานตามนโยบาย และแผนปฏิบัติการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทยให้บรรลุเป้าหมาย รวมถึงติดตามและประเมินผล ส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศผ่านการขยายตลาดการค้า สินค้าและบริการฮาลาล ทั้งในและต่างประเทศ โดยเร่งเปิดตลาดสินค้า ฮาลาลในภูมิภาคต่างๆ ทำการประชาสัมพันธ์ จัดแสดงสินค้า จัดทำบันทึกความเข้าใจกับประเทศหรือกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพ ตลอดจนแก้ไขปัญหา บูรณาการการดำเนินงาน ยกระดับความสามารถในการแข่งขัน ของผู้ประกอบการฮาลาลไทย


โดยแนวทางการดำเนินงานของศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย ในระยะแรกจะดำเนินงานภายใต้สถาบันอาหาร โดยโครงสร้างขององค์กร จะแบ่งเป็นฝ่ายส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และฝ่ายพัฒนาการผลิตและมาตรฐาน ทั้งนี้กิจกรรมที่จะดำเนินการภายใต้ศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย คือ การจัดทำระบบข้อมูลสารสนเทศอัจฉริยะอุตสาหกรรมฮาลาล รวมไปถึงส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศพัฒนาการผลิตและมาตรฐานอุตสาหกรรมฮาลาลไทย

นางสาวพิมพ์ภัทรา กล่าวว่าอยากเห็นหน่วยงานของกระทรวงอุตสาหกรรมรวบรวมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับฮาลาลเข้ามาอยู่ด้วยกันซึ่งตรงกับที่นายกรัฐมนตรีตั้งใจขยายตลาดและเชิญชวนนักลงทุนเข้ามา และวันนี้ได้ขับเคลื่อนจนอุตสาหกรรมฮาลาลเป็นสถาบันฮาลาล ภายใต้การดูแลเบื้องต้นของสถาบันอาหาร โดยมีนายกรัฐมนตรีได้นั่งเป็นประธานคณะกรรมการอุตสาหกรรมฮาลาลแห่งชาติ ขับเคลื่อนฮาลาลประเทศไทยสู่ตลาดโลก ด้วยคาดหวังให้ผู้ประกอบการทั้งผู้ผลิต ไม่ใช่แค่เปิดตลาดแต่ต้องขยายตลาดเพิ่มมากขึ้นเพราะวันนี้เรามีโอกาสมาก และไม่ใช่โอกาสเพียงอาหารแต่กระบวนการทั้งหมดสินค้าและบริการ ที่ฮาลาลมีโอกาสเติบโตมาก ทาง สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.)เคยคาดการณ์เอาไว้ปัจจุบันมีกำลังอยู่ที่ 2.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ อยากเห็นเติบโตถึง 7.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เพราะตลาด eec และเอเชียหรือตลาดเพื่อนบ้านและจีนยังมีโอกาสในการขยายอีกมากเพียงแต่วันนี้ศูนย์รวมในการทำกระบวนการทั้งหมด ก่อนหน้านี้ ยังอยู่ ในหลายกระทรวง วันนี้รวบรวมให้ผู้ประกอบการสะดวกยิ่งขึ้น มาที่สถาบันฮาลาลเป็น One Stop Service อำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการ และนักลงทุนต่างชาติที่มาตั้งฐานการผลิต อาหารฮาลาล ในประเทศไทย

นางสาวพิมพ์ภัทรา กล่าวอีกว่า วันนี้สิ่งที่ต้องทำต้องปรับมาตรฐานให้ตรงกัน หลายประเทศมีมาตรฐาน ที่ไม่เหมือนกันเราจะส่งออกประเทศไหนต้องปรับให้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับของประเทศนั้น โดยปัจจุบันมีหลายประเทศสนใจและยังมีโอกาสอันดีที่รัฐบาลไทยจะจับเอาเรื่องของอุตสาหกรรมฮาลาลเป็นอีกส่วนหนึ่ง ในการนำรายได้เข้าประเทศ


ดร.นลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย กล่าวว่า “อุตสาหกรรมฮาลาลไทย โอกาสและความท้าทายในตลาดโลก” (Thai Halal Industry – Opportunities and Challenges in Global Market) โดยคาดการณ์ 5 ปีข้างหน้าตลาดอาหารฮาลาลโลก จะมีมูลค่าทางการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า หรือมูลค่าตลาด 4.70 ล้านล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2572 และในระยะยาวมีแนวโน้มขยายตัวเร็วกว่าอาหารทั่วไป ด้วยปัจจัยประชากรมุสลิมโลกเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศมุสลิมขยายตัว ความไม่มั่นคงทางอาหารในกลุ่มประเทศมุสลิมผลักดันให้เกิดความต้องการนำเข้าอาหารมากขึ้น และหลายประเทศให้ความสำคัญ มีนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมฮาลาลอย่างเป็นรูปธรรม

นอกจากนี้ตลาดฮาลาลโลกไม่ได้ผูกขาดเฉพาะประเทศมุสลิมแต่เปิดกว้างสำหรับทุกประเทศที่มีศักยภาพ และประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการก้าวไปสู่การเป็นประเทศผู้นำ ในตลาดฮาลาลโลกได้ เนื่องจากมีวัตถุดิบทางการเกษตรที่หลากหลาย มีการแปรรูปผลิตภัณฑ์ สินค้า ที่มีคุณภาพปลอดภัยได้มาตรฐานสากล ซึ่งปัจจุบันไทยมีผู้ประกอบการที่ผ่านการรับรองมาตรฐานฮาลาล ยอดสะสมกว่า 6,400 แห่ง จำนวนกว่า 170,000 ผลิตภัณฑ์ ด้วยการส่งออกสินค้าอาหารฮาลาลของไทยในปี 2566 มูลค่า 222,287 ล้านบาทขยายตัวในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ย 2-3 เปอร์เซ็นต์ต่อปีเท่านั้น จึงจำเป็นที่ต้องได้รับการบริหารจัดการในแบบบูรณาการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าฮาลาลไทยในตลาดโลก

นางวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่าเมื่อเดือนเมษายน 2567สศอ. ได้เสนอแผน พัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทยในระยะ 5 ปี( 2567 -2571) มีเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นฮับของอุตสาหกรรมฮาลาลในภูมิภาคยกระดับรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มจีดีพีให้เศรษฐกิจไทยในอนาคต โดยคณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแผนดังกล่าวและมอบให้กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งรัดดำเนินการให้เป็นไปตามแผน นอกจากนี้สศอ. ยังได้วางกลไกขับเคลื่อนอุตสาหกรรมผ่านการจัดตั้งคณะกรรมการอุตสาหกรรมฮาลาลแห่งชาติ (กอฮช.) โดยมีหน่วยงานที่มีภารกิจด้านฮาลาลทั้งหมดเป็นองค์ประกอบมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานทำหน้าที่กำหนดนโยบายกำกับและบูรณาการของหน่วยงานต่างๆให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดส่วนกลไก สำคัญอีกประการหนึ่งคือการจัดตั้งศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทยขับเคลื่อนงานตามแผนที่วางไว้โดยมีภารกิจครอบคลุมทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าฮาลาลยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการฮาลาลไทยและการทำหน้าที่เป็น national focal point ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศขณะที่ผลิตภัณฑ์ฮาลาลถือเป็นความสำเร็จส่วนหนึ่งของผู้ประกอบการที่มีความพร้อมออกสู่ตลาดโลกโดยกระทรวงอุตสาหกรรมจะเสริมความเข้มแข็งและผลักดันการส่งออกสู่ตลาดโลกต่อไป

ดร.ศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวถึงศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลว่า ช่วงปีแรกหรือปีที่ 2 จะดูแลเรื่องโครงสร้างและการบริหารจัดการ 2 เรื่องหลัก คือการขับเคลื่อนทำตลาดต่างประเทศและบูรณาการความร่วมมือ กลุ่มฮาลาลที่มีทั้งอาหารสิ่งทอ และ wellness และควบคุมมาตรฐานการผลิต ในอนาคตต้องการให้ศูนย์พัฒนาฮาลาลเป็นตัวขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในอาเซียนหรือฮับด้านฮาลาล โดยตั้งเป้าว่าเพิ่มผู้ประกอบการให้มากขึ้น คาดหวังว่าภายใน 5 ปีนอกจากตัว GDP และผลิตภัณฑ์การส่งออกจะเพิ่มขึ้นปีละ 1.2% แล้ว ยังหวังเรื่องการจ้างงานในกลุ่มฮาลาล product ทั้งหลายประมาณแสนกว่าคนต่อปี

ดร.ศุภวรรณ กล่าวอีกว่าศูนย์ฮาลาลจะร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐทุกกระทรวงและสมาคมต่างๆเพื่อที่จะขับเคลื่อนไปสู่การส่งออกที่เรามองว่า ผลิตภัณฑ์ในประเทศจะขยายภาพของการส่งออกได้ดีขึ้น อีกทั้งการท่องเที่ยวมีโอกาสดึงนักท่องเที่ยวจากภาคตะวันออกกลางหรือประเทศที่เป็นมุสลิมเข้ามา ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นกลุ่มโรงแรมสถานที่ท่องเที่ยวจะเกี่ยวข้องกับวิถีการบริโภคอาหาร และ wellness เป็นส่วนยกระดับอุตสาหกรรมมาตรฐาน เพื่อเสริมความมั่นใจในอนาคต

ดร.ศุภวรรณ กล่าวอีกว่า ภายในงานเปิดบูธศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย ได้มีการสาธิต ประกอบอาหารไทยฮาลาลในเมนู “แกงมัสมั่นเนื้อโรตี” โดย เชฟนูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้ อนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอาหาร ผู้ก่อตั้งโรงเรียนสอนทำอาหารและเชฟแห่งภัตตาคารบลู เอเลเฟ่นท์ และพบกับเชฟชื่อดังที่จะมารังสรรค์หลากหลายเมนูฮาลาลให้ได้ชิมตลอด 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค. – 1 มิ.ย. 2567 อาทิ เชฟยาคุป-ธฤต ตั้งทรงศิริศักดิ์, เชฟอหมัด- ภิเชฐ หนูพุฒ, เชฟนุ้ย-รัศมี จำปาดะ กับเมนูสุดพิเศษจากสินค้าฮาลาลจากผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จพร้อมส่งออก อาทิ โรงงานแปรรูปโคเนื้อฮาลาลมาตรฐานสากลที่มีศักยภาพดีที่สุดในอาเซียน, กรือโป๊ะ ข้าวเกรียบปลา เมืองนราธิวาส ตรา Befish และท่าทองรังนก.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ระงับเดินทางเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม-บ้านผักกาด ชั่วคราว

จันทบุรี 7 มิ.ย. – หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ออกหนังสือราชการ ระงับนักท่องเที่ยวไทย-กัมพูชา เดินทางผ่านเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม – บ้านผักกาด ชั่วคราว ยกเว้นแรงงานกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในไทย ผู้สื่อข่าว รายงานว่า นาวาเอกนพโรจน์ สิริปริยพงศ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ลงนามในหนังสือราชการด่วนที่สุด แจ้งไปยังผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี เรื่อง ขอระงับนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวกัมพูชา เดินทางผ่านเข้า – ออก ณ จุดผ่านแดนถาวรฯ โดยอ้างอิงตามประกาศให้ใช้กฎอัยการศึก ในเขตพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เฉพาะอำเภอขลุง อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว และตามมาตรา 5 แห่ง พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 กำหนดให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร มีอำนาจ เหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน เกี่ยวกับการยุทธ์ การระงับปราบปราม หรือการรักษาความสงบเรียบร้อย และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนต้องปฏิบัติตามความต้องการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เนื่องจากปัจจุบันมีสถานการณ์อันเป็นภัยคุกคามจากประเทศกัมพูชา และอาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และประชาชนชาวกัมพูชา อาศัยอำนาจตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 ขอให้ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง […]

มอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา – สุรนารี คุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา

กองทัพบก 7 มิ.ย. – ทบ.ออกคำสั่งมอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา และ ผบ.กองกำลังสุรนารี ควบคุมจุดผ่านแดนแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ตามมติ สมช. พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ลงนามในคำสั่งกำหนดอำนาจให้ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี มีอำนาจในการควบคุมการเปิด–ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยสามารถพิจารณากำหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่จำเป็น ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตามลำดับขั้นความเข้มงวดในแต่ละพื้นที่ การดำเนินการดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากมติที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ซึ่งมอบหมายให้กองทัพบกเป็นหน่วยหลักในการควบคุมการเปิด–ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภท เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามข้อกำหนดของกองทัพบกอย่างเคร่งครัด การออกมาตรการดังกล่าวสอดคล้องกับสถานการณ์ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายกัมพูชารุกล้ำชายแดนไทยหลายครั้ง พร้อมแสดงท่าทียั่วยุอย่างเปิดเผย แม้ไทยจะใช้สันติวิธีและพยายามเจรจา แต่กัมพูชายังเสริมกำลังและจัดตั้งฐานทหารใกล้ชายแดน แสดงถึงความไม่ร่วมมือและเป็นภัยต่ออธิปไตยและความมั่นคงของไทย ทำให้ไทยจำเป็นต้องดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรักษาผลประโยชน์และความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามแนวชายแดน สำหรับรายละเอียดทั้งหมดในคำสั่งดังกล่าวสามารถติดตามได้ผ่านช่องทางการสื่อสารทางการของกองทัพบกที่เว็บไซต์ www.rta.mi.th เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจากทางราชการ -313-สำนักข่าวไทย

ปปง. ร่วมสอบกรณีพบเงินต้องสงสัยถูกทิ้ง 12 ล้าน

7 มิ.ย.- ปปง. ร่วมตรวจสอบกรณีพบเงินสด 12 ล้าน วางทิ้งในกล่องข้างถังขยะคอนโดเมืองทองฯ ชี้ผู้อ้างเป็นเจ้าของเงินต้องชี้แจงรายละเอียดที่มาให้ได้ จากกรณีที่พลเมืองดี พบธนบัตรเงินสด 12 ล้านบาท ในกล่องพลาสติกสีเทา บริเวณคอนโดเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และซองจดหมายเกี่ยวกับสำนักงาน กสทช. ซึ่งปรากฏชื่อในเอกสารดังกล่าว คือ นายทวีวัฒน์ และนายทวีวัฒน์ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้วระบุเป็นเจ้าของเงิน 12 ล้านดังกล่าว นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. ในฐานะโฆษก ปปง. กล่าวถึงเหตุที่เกิดขึ้นว่า ขั้นตอนตามปกติหากพบเหตุสงสัย พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด โดย ปปง. ได้ประสานการทำงานร่วมกับตำรวจอยู่แล้ว ซึ่งต้องสอบสวนคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าของเงิน กับผู้เกี่ยวข้องทุกส่วน ทั้งธนาคาร และส่วนงานที่ผู้ที่อ้างเป็นเจ้าของเงินระบุถึง สุดท้ายเจ้าของต้องชี้แจงในรายละเอียดว่าเงินดังกล่าวได้มาอย่างไร ถ้าพนักงานสอบสวนรวบรวมว่า เกี่ยวข้องกับความผิดมูลฐานกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในข้อใด หรือทรัพย์ดังกล่าวอาจเกี่ยวกับการกระทำผิดตามกฎหมายฟอกเงินที่ปัจจุบันมี 28 มูลฐานความผิด การจะมีการประสานส่งเรื่องให้ ปปง. ตรวจสอบตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะนี้ ปปง. […]

“อนุทิน” ย้ำไม่ย้ายกระทรวง ยึดข้อตกลงเดิม​ นายกฯ ให้ความมั่นใจแล้ว

สุวรรณภูมิ​ 7 มิ.ย.-“อนุทิน” ลั่นไม่มีอะไรต้องตกลงแล้ว ทุกอย่างจบตั้งแต่กินช็อกมินต์ หลังกระพือยึดเก้าอี้ มท.1 ชี้ “ภูมิใจไทย” ไม่ได้เดินไปขอร่วมรัฐบาล ย้ำชัดไม่ย้ายกระทรวงยึดข้อตกลงเดิม ระบุนายกฯ ก็ให้ความมั่นใจแล้ว ยอมรับกินข้าว รวมไทยสร้างชาติ แล้ว แต่คุยปมพลังงาน ยันไม่ต้องจับมือต่อรอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ กรณีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยโดยยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยใดๆ ซึ่งเรื่องการปรับ ครม. หากมีการถามมายังพรรคภูมิใจไทย พรรคก็ยืนยันว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไร เพราะได้คุยในเบื้องต้นภายในพรรคแล้วว่ารัฐมนตรีทุกคนยังทำงานได้อย่างเต็มที่ กระทรวงที่กำกับดูแลในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร เมื่อถามว่า กระแสข่าวการเขย่าเก้าอี้แบบนี้แสดงให้เห็นว่ามีความต้องการกระทรวงมหาดไทยคืนใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่มองว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร มันเขย่าไม่ได้ นี่เป็นรัฐบาลผสม และเป็นข้อตกลงที่เราหารือกันตั้งแต่เราตั้งรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน 2 ปีแล้ว และมายังรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รูปแบบนี้ก็ยังเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ตรงนี้ไม่ใช่ว่าเป็นของใคร แต่เป็นข้อตกลงและเป็นรัฐบาลผสม ซึ่งทุกคนก็ทำงานอย่างเต็มที่ ที่มีข่าวบอกว่าคนนี้ทำงานดีหรือไม่ดี […]