ดัน “อุตสาหกรรมฮาลาลไทย” โตในตลาดโลก

เมืองทองฯ 28 พ.ค.-กระทรวงอุตสาหกรรม ดีเดย์เปิดบูธศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทยในงาน THAIFEX ขับเคลื่อนอย่างรูปธรรม ส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศขยายตลาดสินค้า-บริการฮาลาล ตามแผนพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาล 5 ปี รมว.อุตฯ หวัง เป็นส่วนหนึ่งในการนำรายได้เข้าประเทศ ด้านผู้แทนการค้าไทย ชี้ช่องไทยมีโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการเป็นประเทศผู้นำในตลาดฮาลาลโลกได้ ขณะที่ผศอ.หวังไทยเป็นฮับด้านฮาลาล


นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยดร.นลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย ร่วมกันตัดริบบิ้นเปิดบูธศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย ภายในงาน THAIFEX-Anuga Asia 2024 โดยมีหน่วยงานในกระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสถาบันอาหาร ร่วมเป็นพันธมิตร

ภารกิจของศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย คือ การขับเคลื่อนงานตามนโยบาย และแผนปฏิบัติการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทยให้บรรลุเป้าหมาย รวมถึงติดตามและประเมินผล ส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศผ่านการขยายตลาดการค้า สินค้าและบริการฮาลาล ทั้งในและต่างประเทศ โดยเร่งเปิดตลาดสินค้า ฮาลาลในภูมิภาคต่างๆ ทำการประชาสัมพันธ์ จัดแสดงสินค้า จัดทำบันทึกความเข้าใจกับประเทศหรือกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพ ตลอดจนแก้ไขปัญหา บูรณาการการดำเนินงาน ยกระดับความสามารถในการแข่งขัน ของผู้ประกอบการฮาลาลไทย


โดยแนวทางการดำเนินงานของศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย ในระยะแรกจะดำเนินงานภายใต้สถาบันอาหาร โดยโครงสร้างขององค์กร จะแบ่งเป็นฝ่ายส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และฝ่ายพัฒนาการผลิตและมาตรฐาน ทั้งนี้กิจกรรมที่จะดำเนินการภายใต้ศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย คือ การจัดทำระบบข้อมูลสารสนเทศอัจฉริยะอุตสาหกรรมฮาลาล รวมไปถึงส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศพัฒนาการผลิตและมาตรฐานอุตสาหกรรมฮาลาลไทย

นางสาวพิมพ์ภัทรา กล่าวว่าอยากเห็นหน่วยงานของกระทรวงอุตสาหกรรมรวบรวมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับฮาลาลเข้ามาอยู่ด้วยกันซึ่งตรงกับที่นายกรัฐมนตรีตั้งใจขยายตลาดและเชิญชวนนักลงทุนเข้ามา และวันนี้ได้ขับเคลื่อนจนอุตสาหกรรมฮาลาลเป็นสถาบันฮาลาล ภายใต้การดูแลเบื้องต้นของสถาบันอาหาร โดยมีนายกรัฐมนตรีได้นั่งเป็นประธานคณะกรรมการอุตสาหกรรมฮาลาลแห่งชาติ ขับเคลื่อนฮาลาลประเทศไทยสู่ตลาดโลก ด้วยคาดหวังให้ผู้ประกอบการทั้งผู้ผลิต ไม่ใช่แค่เปิดตลาดแต่ต้องขยายตลาดเพิ่มมากขึ้นเพราะวันนี้เรามีโอกาสมาก และไม่ใช่โอกาสเพียงอาหารแต่กระบวนการทั้งหมดสินค้าและบริการ ที่ฮาลาลมีโอกาสเติบโตมาก ทาง สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.)เคยคาดการณ์เอาไว้ปัจจุบันมีกำลังอยู่ที่ 2.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ อยากเห็นเติบโตถึง 7.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เพราะตลาด eec และเอเชียหรือตลาดเพื่อนบ้านและจีนยังมีโอกาสในการขยายอีกมากเพียงแต่วันนี้ศูนย์รวมในการทำกระบวนการทั้งหมด ก่อนหน้านี้ ยังอยู่ ในหลายกระทรวง วันนี้รวบรวมให้ผู้ประกอบการสะดวกยิ่งขึ้น มาที่สถาบันฮาลาลเป็น One Stop Service อำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการ และนักลงทุนต่างชาติที่มาตั้งฐานการผลิต อาหารฮาลาล ในประเทศไทย

นางสาวพิมพ์ภัทรา กล่าวอีกว่า วันนี้สิ่งที่ต้องทำต้องปรับมาตรฐานให้ตรงกัน หลายประเทศมีมาตรฐาน ที่ไม่เหมือนกันเราจะส่งออกประเทศไหนต้องปรับให้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับของประเทศนั้น โดยปัจจุบันมีหลายประเทศสนใจและยังมีโอกาสอันดีที่รัฐบาลไทยจะจับเอาเรื่องของอุตสาหกรรมฮาลาลเป็นอีกส่วนหนึ่ง ในการนำรายได้เข้าประเทศ


ดร.นลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย กล่าวว่า “อุตสาหกรรมฮาลาลไทย โอกาสและความท้าทายในตลาดโลก” (Thai Halal Industry – Opportunities and Challenges in Global Market) โดยคาดการณ์ 5 ปีข้างหน้าตลาดอาหารฮาลาลโลก จะมีมูลค่าทางการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า หรือมูลค่าตลาด 4.70 ล้านล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2572 และในระยะยาวมีแนวโน้มขยายตัวเร็วกว่าอาหารทั่วไป ด้วยปัจจัยประชากรมุสลิมโลกเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศมุสลิมขยายตัว ความไม่มั่นคงทางอาหารในกลุ่มประเทศมุสลิมผลักดันให้เกิดความต้องการนำเข้าอาหารมากขึ้น และหลายประเทศให้ความสำคัญ มีนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมฮาลาลอย่างเป็นรูปธรรม

นอกจากนี้ตลาดฮาลาลโลกไม่ได้ผูกขาดเฉพาะประเทศมุสลิมแต่เปิดกว้างสำหรับทุกประเทศที่มีศักยภาพ และประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการก้าวไปสู่การเป็นประเทศผู้นำ ในตลาดฮาลาลโลกได้ เนื่องจากมีวัตถุดิบทางการเกษตรที่หลากหลาย มีการแปรรูปผลิตภัณฑ์ สินค้า ที่มีคุณภาพปลอดภัยได้มาตรฐานสากล ซึ่งปัจจุบันไทยมีผู้ประกอบการที่ผ่านการรับรองมาตรฐานฮาลาล ยอดสะสมกว่า 6,400 แห่ง จำนวนกว่า 170,000 ผลิตภัณฑ์ ด้วยการส่งออกสินค้าอาหารฮาลาลของไทยในปี 2566 มูลค่า 222,287 ล้านบาทขยายตัวในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ย 2-3 เปอร์เซ็นต์ต่อปีเท่านั้น จึงจำเป็นที่ต้องได้รับการบริหารจัดการในแบบบูรณาการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าฮาลาลไทยในตลาดโลก

นางวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่าเมื่อเดือนเมษายน 2567สศอ. ได้เสนอแผน พัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทยในระยะ 5 ปี( 2567 -2571) มีเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นฮับของอุตสาหกรรมฮาลาลในภูมิภาคยกระดับรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มจีดีพีให้เศรษฐกิจไทยในอนาคต โดยคณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแผนดังกล่าวและมอบให้กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งรัดดำเนินการให้เป็นไปตามแผน นอกจากนี้สศอ. ยังได้วางกลไกขับเคลื่อนอุตสาหกรรมผ่านการจัดตั้งคณะกรรมการอุตสาหกรรมฮาลาลแห่งชาติ (กอฮช.) โดยมีหน่วยงานที่มีภารกิจด้านฮาลาลทั้งหมดเป็นองค์ประกอบมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานทำหน้าที่กำหนดนโยบายกำกับและบูรณาการของหน่วยงานต่างๆให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดส่วนกลไก สำคัญอีกประการหนึ่งคือการจัดตั้งศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทยขับเคลื่อนงานตามแผนที่วางไว้โดยมีภารกิจครอบคลุมทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าฮาลาลยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการฮาลาลไทยและการทำหน้าที่เป็น national focal point ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศขณะที่ผลิตภัณฑ์ฮาลาลถือเป็นความสำเร็จส่วนหนึ่งของผู้ประกอบการที่มีความพร้อมออกสู่ตลาดโลกโดยกระทรวงอุตสาหกรรมจะเสริมความเข้มแข็งและผลักดันการส่งออกสู่ตลาดโลกต่อไป

ดร.ศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวถึงศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลว่า ช่วงปีแรกหรือปีที่ 2 จะดูแลเรื่องโครงสร้างและการบริหารจัดการ 2 เรื่องหลัก คือการขับเคลื่อนทำตลาดต่างประเทศและบูรณาการความร่วมมือ กลุ่มฮาลาลที่มีทั้งอาหารสิ่งทอ และ wellness และควบคุมมาตรฐานการผลิต ในอนาคตต้องการให้ศูนย์พัฒนาฮาลาลเป็นตัวขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในอาเซียนหรือฮับด้านฮาลาล โดยตั้งเป้าว่าเพิ่มผู้ประกอบการให้มากขึ้น คาดหวังว่าภายใน 5 ปีนอกจากตัว GDP และผลิตภัณฑ์การส่งออกจะเพิ่มขึ้นปีละ 1.2% แล้ว ยังหวังเรื่องการจ้างงานในกลุ่มฮาลาล product ทั้งหลายประมาณแสนกว่าคนต่อปี

ดร.ศุภวรรณ กล่าวอีกว่าศูนย์ฮาลาลจะร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐทุกกระทรวงและสมาคมต่างๆเพื่อที่จะขับเคลื่อนไปสู่การส่งออกที่เรามองว่า ผลิตภัณฑ์ในประเทศจะขยายภาพของการส่งออกได้ดีขึ้น อีกทั้งการท่องเที่ยวมีโอกาสดึงนักท่องเที่ยวจากภาคตะวันออกกลางหรือประเทศที่เป็นมุสลิมเข้ามา ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นกลุ่มโรงแรมสถานที่ท่องเที่ยวจะเกี่ยวข้องกับวิถีการบริโภคอาหาร และ wellness เป็นส่วนยกระดับอุตสาหกรรมมาตรฐาน เพื่อเสริมความมั่นใจในอนาคต

ดร.ศุภวรรณ กล่าวอีกว่า ภายในงานเปิดบูธศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย ได้มีการสาธิต ประกอบอาหารไทยฮาลาลในเมนู “แกงมัสมั่นเนื้อโรตี” โดย เชฟนูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้ อนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอาหาร ผู้ก่อตั้งโรงเรียนสอนทำอาหารและเชฟแห่งภัตตาคารบลู เอเลเฟ่นท์ และพบกับเชฟชื่อดังที่จะมารังสรรค์หลากหลายเมนูฮาลาลให้ได้ชิมตลอด 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค. – 1 มิ.ย. 2567 อาทิ เชฟยาคุป-ธฤต ตั้งทรงศิริศักดิ์, เชฟอหมัด- ภิเชฐ หนูพุฒ, เชฟนุ้ย-รัศมี จำปาดะ กับเมนูสุดพิเศษจากสินค้าฮาลาลจากผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จพร้อมส่งออก อาทิ โรงงานแปรรูปโคเนื้อฮาลาลมาตรฐานสากลที่มีศักยภาพดีที่สุดในอาเซียน, กรือโป๊ะ ข้าวเกรียบปลา เมืองนราธิวาส ตรา Befish และท่าทองรังนก.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. ยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติ

ทำเนียบ 1 ก.ค.-นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมชี้แจงเต็มที่ ยืนยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติและรักษาอธิปไตย ไม่มีเจตนาอยากได้อะไรเป็นของตัวเอง พร้อมขอโทษ หากวิธีการไม่ถูกใจใครหลายคน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุนเซ็น และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ด้วยมติ 7:2 ว่า ขอน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลต่อจากนี้ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งระยะเวลานั้นไม่แน่ใจ แต่มีเวลาประมาณ 15 วันที่จะชี้แจง ตนจะทำให้เต็มที่ในการที่จะบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมาว่า ความตั้งใจและเจตนาจริงๆ เกิน 100% ว่าตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อรักษาไว้เพื่ออธิปไตยของเรา เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตของกองทัพและทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา ตนมั่นใจในสิ่งนี้มากๆ แต่วิธีการที่ตนเองทำ อาจจะมีทั้งถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ก็จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ ว่าเป็นความตั้งใจ เป็นความพยายามเกิน 100% ที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เจตนาไม่มีอยากได้อะไรของตัวเองเลย และคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความวุ่นวายและ ทำอย่างไรที่จะไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และตนก็คงรับไม่ได้หากพูดอะไรกับทางผู้นำและทำให้เกิดผลเสีย เกิดการทะเลาะหรือโกรธเคือง อันนั้นเป็นความตั้งใจจริงๆ ถ้าลองฟังดูจริงๆ ก็จะรู้ว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เพราะฉะนั้นนี่คือ […]

ศาล รธน. สั่ง ​”แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่​นายกฯ​

ศาลรัฐธรรมนูญ 1 ก.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง ​”แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่​นายกฯ​ หลังรับคำร้อง 36 สว. ยื่นถอดถอน ปมคลิปเสียงคุย “ฮุน เซน” ผิดจริยธรรม​ เปิดชื่อ 2 ตุลาการเสียงข้างน้อย “นครินทร์-อุดม” ไม่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แค่ห้ามใช้อำนาจหน้าที่ด้านความมั่นคง-การต่างประเทศ-การคลัง ศาลรัฐธรรมนูญ นัดประชุมปรึกษาคดีที่นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้ยื่นคำร้องของ 36 สว. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 3 ประกอบมาตรา 82 ว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กระทำฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ รวมทั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นางสาวแพทองธารหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย จากกรณีคลิปเสียงสนทนาเรื่องข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชากับสมเด็จ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและและเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 […]

รวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ยึดของกลาง 1.9 ล้าน

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ผบช.น. แถลงรวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ตามยึดของกลางคืนแล้ว 1.9 ล้านบาท ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 5 คน ขออนุมัติศาลออกหมายจับบ่ายนี้ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวเปิดเผยความคืบหน้าการจับกุมผู้ต้องหาปล้นเงินสดจำนวน 3.4 ล้านบาท ภายในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าวเมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว และ น.ส.นานา โดยสามารถตามจับกุมได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงเวลา 01.00 น.ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ยังสามารถตรวจยึดของกลางเป็นเงินสดจำนวน 1.9 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนแบ่งจากการกระทำความผิด เสื้อผ้าที่สวมใส่ในขณะก่อเหตุ บัญชีธนาคารและบัตร ATM รวมทั้งสิ่งของที่ได้มาจากการทำความผิดก่อนหน้านี้ของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองให้การยอมรับสารภาพจากการจำนวนต่อหลักฐาน โดยอ้างว่า นายเฌอพัชญ์ จะทำหน้าที่เป็น Agent หรือตัวแทนหลอกซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่ผ่านกลุ่ม Facebook […]

“สรวงศ์” ยันเร่งแก้ระบบล่ม หลังแห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง”

ทำเนียบ 1 ก.ค.- “สรวงศ์” ยันเร่งแก้ปัญหาแอปฯ ล่ม หลังปชช.แห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เผยอาจมีการเพิ่มสิทธิมากขึ้น นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึง การเปิดลงทะเบียนโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ในวันนี้ เป็นวันแรก (1 ก.ค.) หลังเปิดให้ลงทะเบียนเวลา 08.00 น. ปรากฏว่าแอปฯ ล่ม ว่า ในเรื่องของแอปฯ ล่มกำลังแก้ไขอยู่ โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งยอมรับว่าเมื่อเปิดให้มีการลงทะเบียน มีประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก นายสรวงศ์ ยืนยันว่าเรื่องของระบบการลงทะเบียนได้มีการเตรียมความพร้อมเอาไว้แล้ว แต่บางครั้งเป็นปัญหาทางเทคนิค แต่ก็จะพยายามแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด นายสรวงศ์ มองว่า การที่ประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก เป็นเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนอยากจะเที่ยวอยู่ ซึ่งก็จะมีการพิจารณาอีกครั้งว่า หากมีประชาชนลงทะเบียนจนครบตามสิทธิแล้ว นายกรัฐมนตรีเคยบอกแล้วว่า จะเพิ่มสิทธิตรงนี้ให้.-315 -สำนักข่าวไทย