fbpx

นายกฯ บอกไม่เสียสมาธิปม 40 สว.ยื่นสอบตั้ง “พิชิต” นั่ง รมต.

สาธารณรัฐอิตาลี 20 พ.ค.- นายกฯ บอกไม่เสียสมาธิ ปม 40 สว.ยื่นสอบตั้ง “พิชิต” นั่ง รมต. มั่นใจในความบริสุทธิ์ ขอไม่พูดอะไร หวั่นกดดันศาล เชื่อยังไม่ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นักวิชาการบางคนออกมาแสดงความข้องใจ 40 สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ซึ่งอยู่ระหว่างรักษาการในหน้าที่ ออกมาตรวจสอบ นายกรัฐมนตรี เหมือนเป็นการรุกไล่รัฐบาล พร้อมมองว่า 50 ต่อ 50 อาจเกิดอุบัติเหตุได้กับเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ว่า ตนคงไม่ไปก้าวล่วงกับศาลรัฐธรรมนูญว่าจะเป็น 50 ต่อ 50 หรือ 40 ต่อ 60 และเมื่อวันก่อน ผู้ร้องได้มีการยื่นเรื่องผ่านแผนกธุรการซึ่งได้มีการรับแล้ว  ขั้นตอนต่อไปศาลรัฐธรรมนูญก็จะต้องมีการพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับ ตรงนี้ก็ต้องให้เกียรติกับทางศาลด้วยเช่นกัน และตนก็มีหน้าที่ในการชี้แจงต่อไปเท่านั้นเอง

“หากถามว่ากังวลหรือไม่ ก็ต้องตอบว่ากังวลทุกเรื่อง ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของรัฐบาล หรือเกี่ยวข้องกับความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เมื่อเข้ามาอยู่ตรงนี้แล้วย่อมเป็นเรื่องธรรมดา ทั้งนี้ เราก็ต้องให้ความเคารพกระบวนการตรวจสอบด้วยเช่นกัน ตรงนี้ก็ไม่อยากไปกดดันศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อทางฝ่ายธุรการได้รับเรื่องไปแล้ว และเข้าใจว่าอีกไม่กี่วันก็จะมีคำตอบ ว่าจะรับหรือไม่รับเรื่องพิจารณา หน้าที่ของตนก็ต้องมีการเตรียมความพร้อมทั้งหมดให้ครบถ้วน และเหมาะสมให้ถูกต้อง เป็นไปตามข้อเท็จจริง ยืนยันว่า การตั้งนายพิชิตนั้น คิดว่าได้ทำถูกต้อง ด้วยความบริสุทธิ์ใจ” นายเศรษฐา กล่าว


นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า เรื่องนี้จะไม่ทำให้เสียสมาธิ เพราะตนมีทีมงาน และเราก็มั่นใจในความบริสุทธิ์ แต่ละคนก็มีหน้าที่ของแต่ละคนไป  ไม่อยากจะพูดอะไร เพราะจะเป็นการกดดันศาลรัฐธรรมนูญ และเชื่อว่าข้อมูลต่างๆ ศาลรัฐธรรมนูญได้รับทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายที่ร้องเรียน และฝ่ายของตนเองที่จะต้องชี้แจง

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า มาถึงตำแหน่งนี้  อยู่ในตำแหน่งนี้ ดูแลตรงนี้ แม้มีเรื่องกวนใจเยอะ ก็ต้องแยกแยะให้ถูก และต้องแบ่งเวลาให้เป็น ไม่เช่นนั้นก็อย่าเข้ามาดีกว่า หน้าที่วันนี้มีหน้าที่ที่จะต้องทำเรื่องอะไร เช่น ต้องพยายามที่จะขายฝันให้ต่างชาติเห็น และเขาเองก็ต้องขายฝันให้เราเห็น ต้องมีการต่อรองตามเวอร์ชั่นต่าง ๆ  ซึ่งไม่อยากให้เรื่องเล็กน้อยมากวนจิตใจสมาธิ และพรุ่งนี้ก็ต้องโฟกัสเรื่องงานต่อ ต้องทำการบ้าน เพื่อผลประโยชน์ประเทศชาติ

นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า เชื่อว่าตนกำลังแบกความหวังของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศไว้ เราจะปล่อยให้มีเรื่องอะไรมาทำความรำคาญใจไม่ได้ แต่อีกมุมหนึ่งเราต้องให้ความเคารพ กับการตรวจสอบ ถือเป็นเรื่องธรรมดา ยืนอยู่ตรงนี้ ก็จะทำให้ดีที่สุด และยืนยันว่ามีกำลังใจ มีแรงบันดาลใจ


ส่วนที่มีรายงานอีกกระแสหนึ่งว่า หากศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องไว้พิจารณาอาจจะต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ทั้งรัฐบาล ในวันที่ 23 พ.ค.นี้ นายเศรษฐา กล่าวว่า ถ้าเกิดตนเข้าใจถูก หากศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องไว้พิจารณา ยังไม่ต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ ศาลรัฐธรรมนูญต้องนำเรื่องไปพิจารณาก่อนว่า จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ แต่วันนี้ไม่อยากจะไปก้าวล่วงอะไรทั้งสิ้น ก็ว่ากันไปตามขั้นตอน.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย