กกต.-มท. ติวเข้ม เตรียมพร้อมจัดเลือก สว.

เมืองทองธานี  16 พ.ค.-กกต.-มท. ติวเข้ม เตรียมพร้อมจัดเลือก สว. เลขาฯ กกต. ยันได้ สว.ตามไทม์ไลน์ บอกนักวิชาการ-นักกฎหมาย จ้อผ่านสื่อฯ ไม่อ่านกฎหมายทำสังคมสับสน เตือนฮั้วกันเอง มีโทษ ศาลเคยวินิจฉัยแล้ว

กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย  ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดสัมมนาเตรียมความพร้อมการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 2567  ให้กับ ผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด ผอ.สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดทั่วประเทศ นายอำเภอ และผอ.สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต  โดยนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ได้ชี้แจงแนวทางปฏิบัติ และขั้นตอนกระบวนการเลือก  สว. ภารกิจ บทบาท ของจังหวัด อำเภอ และเขต  ถือเป็นการซักซ้อมร่วมกันในพื้นที่   วันนี้เป็นการทำความเข้าใจครั้งสุดท้าย ก่อนลงสนามจริง และไม่ได้กังวลอะไร เพราะในระเบียบก็เขียนไว้ชัดเจนอยู่แล้ว  และทุกอย่างมีรายละเอียดครบถ้วน   


ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย จะมอบนโยบายให้ข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง สนับสนุนการเลือก สว. การร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย และเตรียมความพร้อมในการแก้ไขปัญหาชุมนุมสาธารณะ    และใช้กลไกของกระทรวงในการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในการเลือก  สว. อาทิ หอกระจายข่าว  เสียงตามสาย ข้อมูลข่าวสารการเลือกสว.ไปสู่ประชาชน    รวมถึงให้ผู้ว่าฯ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านลงพบปะประชาชน 

นายแสวง กล่าวตอนหนึ่งว่า หน่วยงานของกระทรวงมหาดไทยเหมือนกระดูกสันหลังของการเลือก  หรือเส้นเลือดใหญ่ของการเลือกตั้ง    ซึ่งถือว่ามีประสบการณ์ และให้ความร่วมมือในการจัดการเลือกตั้งต่างๆ ในช่วงที่ผ่านๆ มา อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการเลือก สว. ครั้งนี้    ซึ่งยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะมีผู้สมัครจำนวนเท่าไหร่    แต่ข้อมูลจนถึงเมื่อวันที่ 15 พ.ค. มีคนรับใบสมัครไปแล้วประมาณ 17,000 คน   ดังนั้น ภาระงานของผู้ปฏิบัติงานหน้างานจะมีมาก  นอกจากจัดการเลือกสว.แล้ว  ยังมีหน้าที่ส่งศาลฎีกาเกี่ยวกับคุณสมบัติ   และลักษณะต้องห้าม ถือเป็นภาระหนักเพราะเวลามีจำกัด    อย่างไรก็ตาม ตนได้กำชับสำนักงานฯให้สนับสนุนผู้ว่าฯ นายอำเภอเต็มที่  ที่ไหนมีพนักงานเพียงพอก็ประกบทุกหน่วย  ทั้งนี้ในหน้างานปัญหาเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว   แต่ตนเชื่อว่า ด้วยการสนับสนุนของกระทรวงมหาดไทยจะทำให้การเลือก  สว.สำเร็จ เรียบร้อย


นายแสวง กล่าวอีกว่า ส่วนที่เป็นประเด็นมาร่วม 2-3 เดือน ที่คนอาจจะยังไม่ได้รับข้อมูล หรือรับแล้ว แต่เบียงประเด็นให้คนในสังคมสับสน  กกต.เจอสภาพนี้มาตลอด อย่างเช่น ที่มีนักวิชาการที่ไปให้ข้อมูลผ่านสื่อต่างๆ ก็ไม่อ่านกฎหมายสักตัว แล้วพูดไปทำให้สังคมเกิดความสับสน แต่ยืนยันว่า สิ่งที่กกต.ออกแบบนั้นเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ เราก็ต้องทำตามกฎหมาย หากหลุดออกจากกฎหมายก็เข้าคุก เข้าตะราง ทั้งนี้ แม้จะบอก สว.ให้เป็นกลาง แต่ก็เป็นการเมืองอยู่ดี ดังนั้นเมื่อมีการแข่งขัน มักไม่ได้พูดถึงความถูกต้อง แต่พูดถึงใครได้ใครเสีย แต่สำหรับ กกต.จะต้องพูดถึงความถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย แต่ที่สังคมสับสน ส่วนหนึ่งคือบรรดานักวิชาการ นักกฎหมายที่ไปพูดผ่านสื่อ ไม่อ่านกฎหมายสักตัวแล้วพูดให้สังคมสับสน อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า การเลือกสว.ครั้งนี้มีความซับซ้อน แต่หากพิจารณาและทำเป็นขั้นเป็นตอน   ก็ถือว่าไม่ซับซ้อน 

“สว.ครั้งนี้   รัฐธรรมนูญมาตรา 107 ให้มาจากการเลือกกันเองจากผู้มีความรู้ประสบการณ์   ประวัติการทำงาน อ่านสองบรรทัดก็รู้แล้วว่าประชาชนไม่มีสิทธิ แต่การเลือก สว.นั้น  ไม่ใช่การเลือกคนมาจากอนาคตเหมือนการเลือก สส. ที่อนุญาตให้มีการแสดงวิสัยทัศน์  ว่าเมื่อเป็นแล้วจะทำอะไร   แต่ สว.ซึ่งจะเข้ามาทำหน้าที่ในการออกกฎหมายต่างๆ ต้องการคนดี ซึ่งดูจากประวัติที่ผ่านมา  ไม่ใช่ดูจากคำพูดว่า เข้าไปแล้ว  จะไปทำสิ่งนั้น  สิ่งนี้  ไม่ได้เลือกจากการแสดงวิสัยทัศน์   จุดยืนเหมือนนักการเมือง กกต.ก็ต้องมาออกแบบการเลือก  ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด” นายแสวง กล่าว  

ส่วนการแนะนำตัวของผู้สมัคร ขณะนี้ กกต.ได้แก้ไขระเบียบแนะนำตัวแล้ว สามารถแนะนำตัวผ่านสื่อโซเชียลทุกแพลตฟอร์มได้    แต่ต้องเป็นไปตามระเบียบแนะนำตัวตามแบบ สว.3 ขอให้ศึกษาระเบียบแนะนำตัวให้ชัดเจน  ทั้งนี้ยอมรับว่าในการเลือก สว. ในครั้งนี้ ตนรู้สึกสบายใจ เพราะหลายคนเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ และจะเข้าใจกฎหมาย กฎระเบียบต่างๆ จากการศึกษาเอง  แต่รายละเอียดบางอย่างจะต้องมีการซักซ้อมเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปในทิศทางเดียวกัน  


นายแสวง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการป้องกันการฮั้ว เพิ่มเติมจากกรณียกคำวินิจฉัยของศาล ว่า คงไม่เกี่ยวกับทางกระทรวงมหาดไทย หรือ กทม. เพราะเป็นเรื่องของการทำให้การเลือกไม่บริสุทธิ์และเที่ยงธรรม ถือเป็นสำนวนเป็นคำร้อง ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานในการที่จะป้องกัน การจัดตั้ง หรือการฮั้ว การออกเสียงเลือก สว.ก็ถือว่า เป็นส่วนหนึ่ง  แต่ที่มาเล่าให้ที่ประชุมฟัง ก็เพื่อที่จะบอกว่า ไม่มีกระบวนการใด ที่จะหยุดยั้งให้เราไม่ได้ สว.200 คน ซึ่งความผิดดังกล่าวไม่ได้พูดถึงประเด็นนี้ชัดเจน  เพียงแต่บอกว่าในกระบวนการเลือก ทั้งผู้ว่าฯ นายอำเภอ  ผอ.เขต  ดูแลอยู่แล้วและจะรับผิดชอบโดยตรง  และต้องวินิจฉัย แต่การทำให้การเลือกไม่สุจริตและเที่ยงธรรม หรือ การฮั้ว การซื้อเสียง  ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่ง ซึ่งเป็นสำนวน  อาจต้องใช้เวลา เพราะต้องสืบพยานบุคคล  เพราะเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์  มาประกอบการพิจารณา  ไม่ใช่กระบวนการ  ซึ่งเป็นวิธีการลงคะแนน วิธีการนับคะแนน  ซึ่งเราจะวินิจฉัยทันที 

เมื่อถามว่ามีประชาชนให้ความสนใจและมาขอรับใบสมัคร 17,000 คน สะท้อนอะไรหรือไม่ นายแสวงกล่าวว่า  เราเฝ้าดูอยู่ เพราะยังมีเวลาจนถึงวันที่ 24 พ.ค. ซึ่งต้องดูว่าอีกประมาณ 10 กว่าวัน คนจะมาสมัครเพิ่มหรือไม่  ตอนนี้ยังคาดคะเนอะไรไม่ได้ ส่วนกรณีหากมีผู้มาสมัครน้อย  ตามกฏหมายระบุว่า  หากสมัครไม่ครบกลุ่ม ให้ดำเนินการเลือกตามมาตรา 19 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วย สว. และถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะทำให้เราทำงานได้ง่ายขึ้น    

เมื่อถามถึงกรณีกลุ่มผู้สมัคร สว. ไปยื่นศาลปกครองเรื่องระเบียบการแนะนำตัวของผู้สมัคร สว. และเตรียมนัดพิพากษาในวันที่ 24 พ.ค.นี้ มีแผนรองรับอะไรหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่  ต้องดูว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยอย่างไร 

ทั้งนี้ ได้คาดการณ์หรือไม่ว่าหากระเบียบยังมีปัญหา ต้องแก้ไขอีกหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ไม่อยากพูดเรื่องในอนาคต แต่ขอให้รอดูคำวินิจฉัย และยืนยันว่า ตนไม่มีอะไรหนักใจในการเลือกสว.ชุดนี้ เพียงแต่มีคนอื่นหนักใจแทนเรา 

เมื่อถามว่าเรื่องการฮั้ว หากมีข้อมูลเราสามารถตัดไฟแต่ต้นลมได้หรือไม่ เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า หากมีครบถ้วนสมบูรณ์ และสามารถวินิจฉัยได้เลย แต่เรื่องการฮั้ว ต้องอาศัยการสืบสวนสอบสวน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงเพราะต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย  แต่ถ้าเป็นเรื่องกระบวนการ ก็จะเห็นทันที จะดำเนินการได้ง่ายกว่า ทั้งนี้เราอยากทำให้การสืบสวนสอบสวน ไม่ว่าจะเป็นสำนวนในการทุจริต หรือกระบวนการ เราอยากทำให้เสร็จ เพื่อให้สะเด็ดน้ำในทุกอำเภอ เว้นแต่มีความซับซ้อน  ในการหาพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และพยานบุคคล แต่ถ้ามีเพียงพอก็ดำเนินการได้เลย 

นายแสวง ยังกล่าวด้วยว่า ในวันที่ 17 พ.ค. กกต.จะจัดงาน คิ๊กอ็อฟ การเลือกส.ว.ที่จะเป็นการทำเอ็มโออยู  ร่วมกับสำนักข่าวไทยและกรมประชาสัมพันธ์ ในการรณรงค์และให้ความรู้เรื่องการเลือก สว.-314 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ลิณธิภรณ์” แจงปมสะกดคำผิด ยอมรับผิดพลาดพร้อมแก้ไข

กระทรวงวัฒนธรรม 4 ก.ค.- “ลิณธิภรณ์” ยอมรับดรามาใช้ภาษาไทยสะกดคำผิด พร้อมแก้ไขปรับปรุงตัว รับปากจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก บอก บางครั้งรีบพิมพ์ไม่ได้ตรวจทาน ทำเกิดผลเสียทุกวันนี้ แจงมีปัญหาสุขภาพ อาจทำให้ออกเสียงควบกล้ำไม่ได้ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงดรามาเรื่องการใช้ภาษาไทยในโซเชียลมีเดีย ว่า ตนขอยอมรับอย่างซื่อตรง ว่าบางครั้งในการสะกดคำของตนเองก็มีความผิดพลาด ซึ่งบางครั้งใช้การพิมพ์ด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือ และได้โพสต์ข้อความไปแล้ว ก่อนจะมารู้ตัวอีกทีก็ผ่านไป 2-3 ชั่วโมง มันเป็นความผิดพลาด อันนี้ตนยอมรับด้วยความจริงใจ และวันนี้ตนก็เข้าใจดีว่าเมื่อมานั่งตำแหน่งตรงนี้ สิ่งที่จำเป็นต้องทำ คือต้องปรับปรุง และคิดว่าหลังจากนี้ความผิดพลาดเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะตนก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ของประเทศเหมือนกัน รวมถึงอีกสิ่งที่ตนอยากจะบอกคือการออกเสียงควบกล้ำ ซึ่งเป็นผลกระทบ จากปัญหาสุขภาพ แต่ส่วนหนึ่งตนก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในภาพนโยบายใหญ่ คงต้องขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยใน รายละเอียดที่ชัดเจน และจะเข้ากระทรวงพร้อมกันในวันที่ 8 กรกฎาคม สำหรับตนหากใครที่เคยติดตาม ก็เคยเป็นคนหนึ่งที่ พูดเรื่องการศึกษาในส่วนของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าสอบทีแคส (TCAS) รวมถึงเรื่องการทำโครงการ ด้านสุขภาพภาวะจิต และอาจจะเป็นโครงการหนึ่งที่ตนจะสานต่อ […]

มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ที่บราซิล

ทำเนียบ 3 ก.ค.-มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ครั้งที่ 17 ที่บราซิล 6-7 ก.ค.นี้ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2568 ร่วมกับผู้นำจาก 10 ประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS และประเทศหุ้นส่วนจากหลากหลายประเทศ ที่นครรีโอเดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล โดยไทยเข้าร่วมในฐานะประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS (Partner Country) สำหรับการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS จะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “เสริมสร้างความร่วมมือโลกใต้เพื่อการสร้างธรรมาภิบาลที่ครอบคลุมและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยบราซิลในฐานะประธานกลุ่ม BRICS ปีนี้ ให้ความสำคัญกับประเด็นหลัก 6 ด้าน ได้แก่ (1) สาธารณสุข (2) การค้า การลงทุน และการเงิน (3) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (4) ธรรมาภิบาลของปัญญาประดิษฐ์ […]

Hun Sen, at event marking ruling party's 74th founding anniversary

ฮุน เซน เรียกร้องปั๊ม ปตท. งดนำเข้าน้ำมันจากไทย

พนมเปญ 3 ก.ค.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเรียกร้องให้เจ้าของปั๊ม ปตท.เลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าจากประเทศอื่นแทน สื่อของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน พูดถึงเรื่องนี้ในระหว่างการประชุมกับครูและนักเรียนที่ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมในจังหวัดไพรแวงในวันนี้ เรียกร้องให้เจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.ทุกแห่งในกัมพูชาเลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าน้ำมันจากประเทศอื่น ๆ แทน ไม่ว่าจะเป็นจากเวียดนาม  มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อปั๊ม แม้ว่า ปตท.จะเป็นรัฐวิสาหกิจของไทยก็ตาม นอกจากนี้นายฮุน เซนยังพูดถึงเรื่องที่ไทยเคยขู่ว่าจะตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต ห้ามขายเชื้อเพลิง และอื่นๆ ให้กัมพูชาด้วยว่า เมื่อไทยขู่มากัมพูชาก็ตอบโต้ทันที กัมพูชาต้องพึ่งพาตนเองให้ได้เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในอนาคตเหมือนกับที่กำลังเผชิญจากไทยในเวลานี้ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากไทย แต่กัมพูชาก็ได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ของกัมพูชา ประธานวุฒิสภากัมพูชาเน้นย้ำว่า มาตรการทั้งหมดที่กัมพูชาได้ดำเนินไปนั้นเป็นการตอบโต้โดยตรงกับภัยคุกคามจากฝ่ายไทย รวมทั้งการที่ไทยปิดด่านพรมแดนแต่เพียงฝ่ายเดียว เขาแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า การเจรจากับไทยจะเริ่มขึ้นได้ ต่อเมื่อฝ่ายไทยจะต้องยอมเปิดด่านทุกจุดอย่างเต็มรูปแบบเหมือนที่เคยทำก่อนวันที่ 7 มิถุนายนแล้วเท่านั้น.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เปิด 7 จุดยืน “ปชน.” ทางออกประเทศหาก “แพทองธาร” พ้นเก้าอี้

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “แพทองธาร” พ้นตำแหน่ง เปิดเงื่อนไขโหวตนายกฯ คนใหม่ พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “นายกฯ แพทองธาร” พ้นจากตำแหน่ง เพื่อนำพาประเทศไปสู่ทางออกที่จะเป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับประชาชนทุกคน ดังนี้ 1.สิ่งที่ประเทศต้องการมากที่สุด คือรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรม และสามารถตั้งทีมบริหารจากความรู้ความสามารถ ไม่ใช่จากการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง2.รัฐบาลที่จะมีคุณสมบัติดังกล่าวจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากสภาชุดปัจจุบัน ทางออกสำหรับประเทศจึงเป็นการจัดให้มี “การเลือกตั้งใหม่” โดยเร็ว3.รักษาการนายกฯ ควรประกาศให้ชัดเจนว่าจะใช้อำนาจที่ตนเองมี ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนผ่านคูหาเลือกตั้ง4.หากรักษาการนายกฯ ไม่ทำ และมีเหตุใดที่ทำให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร พ้นจากตำแหน่ง กระบวนการในการเลือกนายกฯ คนใหม่ จะต้องนำไปสู่การได้มาซึ่งนายกฯ ที่พร้อมเดินหน้าสู่การยุบสภา5.เพื่อให้ประเทศไม่ถูกบีบไปสู่ทางตันหรือการใช้อำนาจนอกครรลองประชาธิปไตย เราพร้อมจะพิจารณาลงมติให้กับผู้เสนอตัวเป็นนายกฯ คนใหม่คนใดก็ตาม ที่ยอมรับ “เงื่อนไข” ในการเป็นรัฐบาลชั่วคราว โดยทางพรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลและจะไม่มีใครจากพรรคประชาชนไปเป็นรัฐมนตรี 6.“เงื่อนไข” ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา สำหรับนายกฯ คนใหม่ จะต้องประกอบไปด้วยอย่างน้อย6.1 การประกาศเส้นตายว่าจะยุบสภาภายในสิ้นปี6.2 การยืนยันภารกิจเฉพาะหน้าที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าว (เช่น การดำเนินการให้มีการจัดประชามติพร้อมกับการเลือกตั้ง เพื่อถามประชาชนเรื่องการมี […]

ข่าวแนะนำ

ทลายบ่อนกลางกรุง พบเจ้ามือเป็นชาวกัมพูชา

กทม. 4 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เอาจริง สั่งจัดระเบียบสังคมทันที หลังรับตำแหน่ง มท.1 ประเดิมงานแรก สั่งการชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนพนันกลางกรุง หลังมีประชาชนร้องเรียน พบเจ้ามือเป็นชาวกัมพูชา วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 เวลา 15.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “ปิดบ่อนสะพานใหม่” จับกุมบ่อนการพนันกลางกรุง โดยชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง พร้อมด้วย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดีกรมการปกครอง นายเรืองลักษณ์ เรืองยังมี ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ นายอิสรา เจริญศรี ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน และนายศักดิ์ชัย โรจนรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สนธิกำลังพนักงานฝ่ายปกครอง พร้อมด้วยสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ทลายบ่อนการพนันขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ในชุมชนสะพานใหม่ เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร […]

ทบ.ยันไม่รุนแรง เหตุทหารไทยเจอทหารเขมร

กองทัพบก 4 ก.ค.-ทบ.ยันไม่รุนแรง เหตุทหารไทยเจอทหารเขมร หลังลาดตระเวนพื้นที่อ้างสิทธิ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บ่อยขึ้น จากกรณีเฟซบุ๊กเพจ “Army Military Force” โพสต์คลิปทหารพรานของไทยปะทะคารมกับทหารกัมพูชา ที่กำลังพยายามรุกลํ้าเข้ามาในดินแดนไทย ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีอาวุธปืนครบมือนั้น พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารีว่า ชุดลาดตระเวนของกองร้อยทหารพรานที่ 2304 ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ได้ทำการลาดตระเวนพื้นที่ ตรวจพบความเคลื่อนไหวของกำลังทหารกัมพูชา ในบริเวณจุดชมวิวภูผี ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ตามแนวชายแดน ใกล้บริเวณปราสาทโดนตวล และเขาพระวิหาร และบริเวณเส้นทางลาดตระเวนใกล้เคียง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายไทยมีการลาดตระเวนตรวจตราอย่างต่อเนื่อง จึงได้เข้าทักทายเจรจากัน และแยกย้ายกันไป ไม่มีเหตุความรุนแรงใด พล.ต.วินธัย กล่าวต่อว่า ในช่วงที่ผ่านมา หลายจุดพบกำลังทหารกัมพูชามาลาดตระเวนในพื้นที่อ้างสิทธิ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บ่อยขึ้น และบางครั้งมีเจ้าหน้าที่ระดับผู้บังคับหน่วยของกัมพูชาร่วมลงพื้นที่ด้วยตนเอง เมื่อมาพบเจอกับฝ่ายทหารไทยก็จะมีพูดทักทายกัน และบางครั้งก็อาจจะมีแสดงออกทางอารมณ์ในลักษณะเหมือนถกเถียงกันบ้าง แต่ทั้งหมดไม่ถึงขั้นตั้งใจจะใช้ความรุนแรงต่อกัน เพราะต่างฝ่ายต่างระมัดระวังไม่ให้มีการละเมิดข้อตกลง และต้องยึดมั่นในแนวทางสันติวิธี ตามแนวทางผู้บังคับบัญชา.-313.-สำนักข่าวไทย

นักธรณีวิทยา​ย้ำไม่มีสัญญาณ​สึนามิ​เข้าไทย​ ไม่ต้องตระหนก

กรุงเทพฯ​ 4 ก.ค. – ผู้เชี่ยวชาญทางธรณีวิทยา ย้ำขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณทางวิทยาศาสตร์​บ่งชี้ว่า​จะเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่อาจทำให้เกิดคลื่นสึนามิซัดเข้าสู่ประเทศไทย​ จากกรณีเกิดแผ่นดินไหวต่อเนื่องบริเวณหมู่เกาะนิโคบาร์และสุมาตรา ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก แนะติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง ศ.ดร.สันติ ภัยหลบลี้ อาจารย์ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้แจงว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในช่วง​ 1-2​ สัปดาห์ที่ผ่านมา บริเวณใกล้หมู่เกาะนิโคบาร์และสุมาตรา เป็นการเลื่อนตัวในแนวราบ ไม่ใช่แนวดิ่ง จึงไม่เข้าลักษณะที่จะทำให้เกิดคลื่นสึนามิได้ ขณะเดียวกัน จากการติดตามข้อมูลยังไม่พบสัญญาณทางวิทยาศาสตร์ใด ๆ ที่บ่งชี้ว่า​ จะมีการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกในแนวดิ่ง ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญในการเกิดคลื่นสึนามิ ศ.ดร.สันติ กล่าว​ว่า​ ก่อนหน้านี้​เรารู้​จักแนวมุดตัวของเปลือก​โลก​บริเวณ​หมู่เกาะ​นิโคบาร์​-สุมาตรา ที่หากมีการเคลื่อนตัวจะมีโอกาส​เกิดสึนามิ​ แต่ล่าสุด​พบ​ว่า​ มีแนวภูเขาไฟ​ใต้น้ำ​บริเวณ​หมู่เกาะ​สุมาตรา​ที่​ไม่เคยปะทุมาก่อนและบอกไม่ได้​ว่าจะปะทุ​เมื่อ​ใด ซึ่งนักธรณีวิทยา​และหน่วยงาน​ด้านภัยพิบัติ​จะต้องติดตาม​อย่างต่อเนื่อง​ต่อไป​ ทั้งนี้ แม้ในอดีตจะเคยเกิดสึนามิจากรอยเลื่อนสุมาตราที่เกิดการมุดตัวของเปลือกโลก​ แต่ย้ำว่า​ เหตุการณ์ปัจจุบันไม่มีตัวชี้วัดในลักษณะเดียวกัน จึงขอให้ประชาชนอย่ากังวลเกินควร อย่างไรก็ตาม การตื่นรู้ต่อภัยพิบัติเป็นสิ่งที่ดี โดยเฉพาะการใช้เครื่องมือสื่อสาร เช่น แอปพลิเคชันกรมอุตุนิยมวิทยา การติดตามข้อมูลจากภาครัฐ และระบบแจ้งเตือนภัยในท้องถิ่นเช่น Cell Broadcast​ ที่​ภาครัฐ​เร่งดำเนินการ​สำหรับ​แจ้ง​เตือน​ภัยพิบัติ​ต่าง​ ๆ ให้​ครอบคลุม​ทั่วประเทศ​ ทั้งนี้ ​การเตรียมความพร้อมคือเรื่องสำคัญ รัฐเองก็พยายามส่งสัญญาณให้ถึงประชาชนโดยเร็ว […]

“แพทองธาร” หารือผู้บริหาร ก.วัฒนธรรม

ก.วัฒนธรรม 4 ก.ค.-“แพทองธาร” หารือผู้บริหาร ก.วัฒนธรรม แจงข่าวปลอมไทยคืนวัตถุโบราณ 20 รายการ ให้กัมพูชาไม่จริง ชี้ทำตั้งแต่ “รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์” พร้อมสั่งเบรกจัดสรรงบฯ คืนวัตถุโบราณกัมพูชา จ่อแจ้งความคนปล่อยเฟกนิวส์ ปลุกปั่น “กลุ่มปราสาทตาเมือน” ยันอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยไทย ช่วงบ่ายวันนี้ (4 ก.ค.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นการประชุมครั้งแรก มีข้อที่อยากจะฝากเอาไว้ และอยากจะให้ช่วยกันผลักดัน รวมถึงอยากจะอัปเดตข้อมูลให้ฟัง ซึ่งวันนี้ตนได้ทำการบ้านมาเล็กน้อย และรู้สึกดีใจที่จะได้ฟังจากทุกคนว่า แต่ละหน่วยงานแต่ละฝ่ายทำอะไรกันอยู่บ้าง และในกระทรวงฯ มีอะไรที่อยากให้ดำเนินการเพิ่มเติมบ้าง ประเด็นแรก อยากจะขอชี้แจงเรื่องข่าวปลอม เรื่องการส่งคืนวัตถุโบราณ จำนวน 20 รายการ ให้กับประเทศกัมพูชา ตนขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะการคืนวัตถุโบราณให้กับประเทศกัมพูชา มีมาตั้งแต่สมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ในปี พ.ศ. 2558 ซึ่งประเทศไทยได้คืนไปแล้ว […]