มติผู้ตรวจการแผ่นดินตีตกคำร้องเงินดิจิทัล ชี้ไม่อยู่ในอำนาจ

ผู้ตรวจฯ 14 พ.ค.- มติผู้ตรวจการแผ่นดินตีตกคำร้องเงินดิจิทัลวอลเล็ต ชี้ไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ส่งศาล รธน.- ศาลปกครอง วินิจฉัย การกำหนดเป็นนโยบาย แถลงต่อรัฐสภา เป็นการใช้อำนาจบริหารตาม รธน.กำหนด และยังไม่พบจะมีการออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท


พ.ต.ท.กีรป กฤตธีรานนท์ เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า ผู้ตรวจการแผ่นดิน มีมติไม่ส่งเรื่องพร้อมความเห็นให้ศาลปกครองหรือศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณีมีผู้ยื่นเรื่องขอให้พิจารณษเพื่อวินิจฉัยเกี่ยวกับการที่รัฐบาลและคณะรัฐมนตรี กำหนดนโยบายโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต และตรา พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อที่จะดำเนินโครงการดังกล่าว ว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ 2561 หรือไม่ เนื่องจากเห็นว่า การกำหนดนโยบาย และการแถลงนโยบายของรัฐบาล เป็นการใช้อำนาจทางการบริหารของคณะรัฐมนตรี เพื่อกำหนดนโยบายในการบริหารประเทศ ในฐานะองค์กรของรัฐฝ่ายบริหาร จึงไม่ใช่การกระทำที่เป็นการใช้อำนาจทางปกครอง และการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ก็เป็นการใช้อำนาจตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้

รวมถึงที่ร้องเรียนไม่ใช่การร้อง ว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายมีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ หรือร้องเรียนว่าเป็นการใช้อำนาจทางปกครองของหน่วยงานของรัฐมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย จึงเป็นเรื่องที่ไม่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดิน ตามมาตรา 37 (3) ผู้ตรวจการแผ่นดิน จึงไม่อาจพิจารณาเสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญและศาลปกครองได้


ส่วนกรณีรัฐบาลจะออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาแล้วเห็นว่า นายกรัฐมนตรีแถลงเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 67 ในฐานะประธานกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ว่า จะใช้แหล่งเงินจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567, 2568 ซึ่งประกอบด้วยแหล่งเงิน 3 ส่วน คือ 1. เงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 2568 จำนวน 152,700 ล้านบาท 2.การดำเนินโครงการผ่านหน่วยงานของรัฐ จำนวน 172,300 ล้านบาท โดยให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ดูแลกลุ่มประชาชนที่เป็นเกษตรกร จำนวน 17 ล้านคนเศษ ของงบประมาณปี 2568 และ 3. การบริหารจัดการเงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของรัฐบาล จำนวน 175,000 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 23 เม.ย.67 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในกรอบหลักการโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตตามความเห็นของคณะกรรมการนโยบายดังกล่าว ดังนั้น จึงไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่ารัฐบาลจะดำเนินโครงการดังกล่าวโดยการออกพระราชบัญญัติเงินกู้แต่อย่างใด ดังนั้น จึงไม่มีประเด็นปัญหาความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรม และไม่มีประเด็นปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย ตามมาตรา 22 (2) และมาตรา 23 พ.ร.ป. ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2560 ดังนั้น ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงไม่อาจยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาได้ .314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ข่าวแห่งปี 2567 : รวมฉ้อโกง “ดารา-คนดัง” ไม่รอด

ตลอดปี 2567 ยังมีผู้คนตกเป็นเหยื่อของกลโกง มิจฉาชีพ ที่มาในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ บางคนถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว และที่น่าตกใจเริ่มมีคนดังเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีมากขึ้น

หมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาฉลองปีใหม่

บรรยากาศการเดินทางหมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวปีใหม่ ด้าน รฟท. คาดผู้โดยสารเดินทางขาออกวันนี้ 1 แสนคน

รถเริ่มแน่น! สายเหนือ-อีสาน การจราจรชะลอตัว

ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา หยุดยาวปีใหม่ ถ.พหลโยธิน มุ่งหน้าสายอีสาน รถแน่น ส่วนถนนสายเอเชีย ขึ้นเหนือ รถเคลื่อนตัวได้ช้า