ชื่นชมสภาฯ ชุดนี้พัฒนา ทำงานดี

รัฐสภา 5 เม.ย.-“วันนอร์”พอใจซักฟอก 2 วัน ชูสส.ทั้งค้าน -รัฐบาลทำงานดี มีประสิทธิภาพ แต่ติงเรื่องเวลาดึกไปหน่อย หวังรอบหน้าวิปปรับเวลาให้ลงตัว ปปช.จะได้ไม่รู้สึกว่าเรื่องซ้ำ รอรัฐบาลส่งร่างงบ 68 พร้อมเปิดสมัยวิสามัญ


นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 152 โดยไม่ลงมติ ช่วงสองวันที่ผ่านมาว่า เป็นความรู้สึกไม่ใช่ตนคนเดียว แต่จากสื่อและประชาชนวิเคราะห์ว่า การทำงานของสภาฯ ชุดนี้ทำงานด้วยดี มีคุณภาพมีประสิทธิภาพ เพราะสมาชิกเตรียมตัวค่อนข้างดี เวลาอภิปรายจะมีเอกสารหลักฐานชัดเจนใช้ประโยชน์ได้ ถือเป็นการพัฒนาบทบาททางด้านนิติบัญญัติ เพื่อให้เกิดความศรัทธากับพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี สมัยประชุมนี้จะปิดในวันที่ 9 เม.ย.นี้ สภาฯ ไม่มีประชุมแล้วจนกว่าจะเปิดสมัยประชุมวิสามัญ ซึ่งการประชุมที่ผ่านมา 32 ครั้ง 31 ครั้งประชุมด้วยดี ไม่มีอะไร มีครั้งเดียวตอนเปิดสมัยประชุมใหม่ ๆ องค์ประชุมไม่พร้อมนิดหน่อย ถือว่าน้อยมาก ก็หวังว่าในสมัยหน้าก็คงจะดีกว่านี้ ซึ่งถือเป็นประโยชน์กับประชาชนและเป็นการพัฒนาด้านนิติบัญญัติ

“ส่วนการประท้วงระหว่างอภิปราย มีนิดหน่อย ถือเป็นสีสันธรรมดาของสภาฯ แต่ถือว่าน้อยมาก ผมอยู่ในสภาฯ มา 40 กว่าปี ครั้งนี้แม้จะเป็นการอภิปรายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 แต่ไม่มีการประท้วงแบบที่มีองครักษ์พิทักษ์ร มีบ้างนิดหน่อย สร้างสีสันบ้าง โดยภาพรวม ตนคิดว่าเป็นการอภิปรายที่ค่อนข้างดี แม้จะใช้เวลา 2 วันดึกไปหน่อย แต่คราวหน้าคิดว่าสมาชิกหรือวิปทั้งสองฝ่าย คงเข้าใจแล้วว่าถ้าให้เวลามากเกินไป การอภิปรายจะซ้ำซาก คราวหน้าคงพิจารณาได้ว่าฝ่ายค้านควรจะใช้เวลาเท่าไหร่ ฝ่ายรัฐบาลควรจะใช้เวลาเท่าไหร่ เพื่อให้เหมาะสม คนฟังจะได้ไม่รู้สึกว่าซ้ำ” ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าว


นายวันมูหะมัดนอร์  ยอมรับว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเปิดประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญ หากรัฐบาลส่งร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 มา ก็ต้องนำเข้าสู่การพิจารณาภายใน 15 วัน ซึ่งทราบว่ารัฐบาลจะจัดทำร่างพระราชบัญญัติเรียบร้อยภายในเดือนเมษายน ถ้าส่งเข้ามาก็ต้องเปิดสมัยประชุมวิสามัญเพื่อพิจารณาวาระแรก และตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณา ซึ่งจะได้ทำงานในช่วงปิดสมัยประชุม อย่างไรก็ตามยังไม่ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการจากรัฐบาล จากการติดตามข่าว เดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายน รูปเล่มจะเสร็จแล้ว หากส่งมาก็ต้องเปิดสมัยประชุมวิสามัญ

“สมัยประชุมหน้าจะเปิดในวันที่ 3 กรกฎาคม และเมื่อเปิดสมัยประชุมวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ หากมีเรื่องอื่นที่สำคัญค้างคาอยู่ คงให้เวลาตามสมควร ซึ่งกฎหมายที่ค้างมีหลายส่วน ส่วนหนึ่งอยู่ที่กรรมาธิการฯ ที่พิจารณากฎหมายเสร็จ ก็คงส่งเข้าสภา และยังมีเรื่องที่นายกรัฐมนตรีรับไปพิจารณาเพื่อให้คำรับรอง เพราะเป็นพระราชบัญญัติ เกี่ยวกับการเงิน 39 ฉบับ ซึ่งทางสภา จะแจ้งไปยังรัฐบาลว่าช่วงปิดสมัยประชุมนี้ หากทำเสร็จเรียบร้อยขอให้ส่งมา เมื่อเปิดสมัยประชุมหน้าจะได้ออกกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับประชาชนออกมา คิดว่ารัฐบาลคงต้องการเช่นนั้น” ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าว.-312.-สำนักข่าวไทย       


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

กต.ย้ำมีแผนพร้อมอพยพคนไทยในอิสราเอล-เลบานอน

กต.ประชุมประเมินสถานการณ์อิสราเอล-ฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ย้ำมีแผนอพยพพร้อม เผย 5 แรงงานไทยเตรียมเดินทางกลับ แนะประชาชนตัดสินใจก่อนน่านฟ้าปิด

เตรียมตั้ง 7 เตาไฟฟ้า พิธีพระราชทานเพลิงศพ นร.-ครู 23 คน

เตรียมพื้นที่ตั้ง 7 เตาไฟฟ้า กลางสนามโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นักเรียน-ครู 23 คน เหยื่อไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา วันที่ 8 ต.ค.นี้

เชียงใหม่ยังอ่วม เจอน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

แม้ระดับน้ำปิงที่ทะลักท่วมตัวเมืองเชียงใหม่เริ่มลดลง จากที่เคยขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยวัดระดับมา จนทำให้เชียงใหม่เผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ บ้านเรือนหลายพันหลังและย่านการค้ายังจมน้ำ บางจุดยังท่วมสูงกว่า 2 เมตร ยังต้องเร่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่น้ำท่วม หลายคนต้องใช้ชีวิตอยู่ในรถที่จอดบนสะพาน

ภาคกลางเริ่มกระทบ น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมบ้านประชาชน

น้ำเจ้าพระยาล้นข้ามถนนเข้าท่วมบ้านกว่า 30 หลังคาเรือน ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ส่วนชุมชุนริมท่าน้ำปากเกร็ด เริ่มกระทบ