รัฐสภา 7 ส.ค. – “ภูมิใจไทย” ผิดหวัง “วันนอร์” รีบปิดประชุม หลังได้ “รองประธานสภาฯ คนที่ 1” ตั้งแต่บ่าย 3 จนไม่ได้สะท้อนปัญหาประชาชนชายแดน พ้อเสียงของพวกเราดังเบาน้อยไปหน่อย ไม่ถึงตัวรัฐมนตรี
นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย แถลงกรณีประธานสภาฯ สั่งปิดการประชุมภายหลังวาระการเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ว่าเมื่อสักครู่นี้ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ปิดประชุมไปก่อน ซึ่งจริงๆ วันนี้ พวกเราเตรียมตัวกันมาตั้งแต่เช้า โดยเฉพาะสมาชิกที่อยู่บริเวณจังหวัดชายแดนที่ได้รับผลกระทบในหลายจังหวัด ซึ่งเราก็คือผู้ที่ได้รับผลกระทบ และอยู่หน้างานจริงๆ ที่สัมผัสกับประชาชนตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ และเราตั้งใจรวบรวมเอาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนมาสะท้อนปัญหาสู่ผู้บริหารในสภาฯ
เมื่อเช้านี้ยังดีใจที่เห็นรัฐมนตรีช่วยมหาดไทยมาตอบกระทู้ถามสดเรื่องการแก้ไขปัญหาชายแดน สืบเนื่องกับเมื่อวานนี้ที่ตนเองในฐานะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร ได้รับทราบข้อเท็จจริงที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ในรื่องการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาล ทั้งที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วรัฐมนตรีท่านนี้เองได้มาตอบกระทู้สด และมีการโฟนอินไปหาผู้ว่าฯ อุบลราชธานี โดยได้รับการยืนยันว่าสามารถเบิกเงินได้ แต่เมื่อความจริงปรากฏที่เบิกได้คือ 55,000 บาท
“พวกตนรู้ปัญหานี้และตั้งใจสะท้อนปัญหานี้ บอกกับรัฐมนตรีตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว น่าเสียดายที่เสียงของพวกเราดังเบาน้อยไปหน่อย อาจไม่ถึงตัวรัฐมนตรี และอาจคิดว่าเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ ว่าทุกสิ่งที่พวกเราพูดนั้นเป็นประเด็นด้านการเมืองที่จะมาโจมตีรัฐบาล ซึ่งไม่ใช่” นายกรวีร์ กล่าว
นายกรวีร์ กล่าวต่อว่า ยังมีจังหวัดอื่นที่มีปัญหาในการดูแลประชาชนอีก จึงคิดว่าเวทีสภาฯ ควรเป็นปากเป็นเสียงให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ ตนกล้าพูดว่าไม่มี สส. ที่ไหนที่จะรู้ดีไปกว่าพวกตนที่ยืนตรงนี้ เพราะเราขลุกในพื้นที่ตั้งแต่วันแรกถึงวันนี้ เราเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่าหากมีโอกาสในการเสนอญัตติด่วน นำเอาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนนำเสนอสู่รัฐบาล เพื่อให้เวลาที่เหลือนี้ รัฐบาลจะนำไปแก้ไขอย่างเร่งด่วน ไม่ใช่แก้ไขที่ปลายเหตุ ด้วยการไปย้ายผู้ว่าฯ เมื่อพบปัญหา ตนคิดว่ารัฐมนตรีในกำกับในกระทรวงที่ดูแล เมื่อรู้ปัญหาแล้วควรเอาปัญหาไปแก้ไขให้กับประชาชนโดยด่วน
นอกจากนั้นยังมีเรื่องของบทเรียนที่พวกเราคิดว่านี่เป็นบททดสอบแรกที่จะทดสอบความสามารถของรัฐบาลในการรับมือกับภัยพิบัติ หรือวิกฤตการณ์ต่างๆ ของประเทศ เพราะอีกไม่กี่เดือนข้างหน้ามีการคาดการณ์ว่าจะมีฝนใหญ่ และอาจเจอปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากเหมือนทุกปี ในการรับมือกับวิกฤติประเทศ ตนคิดว่ารัฐบาลควรใช้บทเรียนตรงนี้ทบทวน เพื่อวางมาตรการต่างๆ ในการใช้จ่ายงบประมาณกรณีฉุกเฉิน รวมถึงการปรับปรุงวิธีการทำงาน เพื่อสร้างสถานที่ ทั้งการอพยพ และการดูแลประชาชนอย่างเต็มที่
“ผิดหวังครับ ผิดหวังที่ สส.เราเตรียมกันไว้ ทั้งที่ตนก็มีการลุกขึ้นเสนอ ก่อนที่จะมีการลงมติเลือกรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เสียอีก เราเสียเวลาไปอีกสัปดาห์ สัปดาห์ต่อไปก็ไม่รู้ว่าความเดือดร้อนของประชาชนจะเป็นอย่างไร พวกเราจึงอยากใช้โอกาสนี้ หากประธานสภาฯ ปิดตอน 1-2 ทุ่ม ก็เข้าใจได้ แต่ปิดตอนบ่าย 3 โมงกว่า เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยากจริงๆ เสียดายโอกาสตรงนี้ที่จะได้นำเสนอข้อเท็จจริงสู่คณะรัฐมนตรีต่อไป” นายกรวีร์ กล่าว.-312-สำนักข่าวไทย