นายกฯ เปิดงาน Holi Festival Bangkok 2024 ส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-อินเดีย

กรุงเทพฯ 22 มี.ค.- นายกฯ เปิดงาน Holi Festival Bangkok 2024 ส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-อินเดีย และ Soft Power กระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงดูดนักท่องเที่ยวอินเดีย-ทั่วโลกให้เดินทางมาท่องเที่ยวไทย สอดคล้องนโยบายยกเว้นวีซ่านักท่องเที่ยวอินเดีย


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานพิธีเปิดงาน “Holi Festival Bangkok 2024” โดยมีนายนาเคศ สิงห์ เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กรรมการและผู้บริหารสมาคมอินเดียแห่งประเทศไทย ชาวไทยเชื้อสายอินเดีย นักท่องเที่ยว เข้าร่วมงาน

ทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางถึงศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ นายนิกร ซัลเดว กรรมการบริหารสมาคมอินเดียแห่งประเทศไทย และที่ปรึกษาของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชวน ตาครู นายกสมาคมอินเดียแห่งประเทศไทย และคณะผู้จัดงาน ให้การต้อนรับ กรรมการบริหารสมาคมอินเดียแห่งประเทศไทย และที่ปรึกษาของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต้อนรับ


จากนั้นนายกฯ จุดเทียนเปิดงาน “Holi Festival Bangkok 2024” ร่วมกับเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และนายกสมาคมอินเดียแห่งประเทศไทย

ก่อนที่นายกฯ ได้ชมการแสดงเชิงพหุวัฒนธรรมไทย-อินเดีย และเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย กล่าวอวยพรเนื่องในวันโฮลี

โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวอวยพรเนื่องในวันโฮลีว่า การจัดเทศกาลโฮลีแสดงถึงการสิ้นสุดปีเก่าของพี่น้องชาวอินเดียที่นิยมเฉลิมฉลองด้วยการละเล่นสาดสี เทสีใส่กัน มีความใกล้เคียงกับประเพณีสงกรานต์ของไทย และเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นปีใหม่ การจัดงานในวันนี้เป็นการสนับสนุนการจัดงานเทศกาลสำคัญ รวมถึงกิจกรรมของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายอินเดีย ซึ่งเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐอินเดียที่มีมาอย่างยาวนาน รวมทั้งเพื่อส่งเสริมให้เกิด Soft Power ที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวอินเดียและนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย สอดคล้องกับนโยบายของประเทศไทยที่ได้ยกเว้นวีซ่าให้แก่นักท่องเที่ยวชาวอินเดียแล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวอินเดียจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน 


นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในเดือนเมษายน ประเทศไทยจะมีการจัดงาน Mega Concert โดย Bollywood rock star ซึ่งคาดว่าจะมีคนเชื้อสายอินเดียจากหลายประเทศมาร่วมงานจำนวนมาก รวมถึงในช่วงปลายปีนี้ได้ตั้งเป้าหมายที่จะจัดงานเทศกาล Diwali Festival ให้ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน นายกฯ จึงขอให้คนไทยทุกคนร่วมกันเป็นเจ้าบ้านที่ดี ต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนจากทั่วโลก

นายกรัฐมนตรียังชื่นชมและขอบคุณคณะผู้จัดงานเทศกาลโฮลีที่ร่วมกันจัดงานในวันนี้ขึ้น พร้อมอวยพรให้พี่น้องชาวไทยเชื้อสายอินเดียทุกท่านประสบแต่ความสุขตลอดไป HAPPY HOLI จากนั้นนายกฯ เยี่ยมชมบูธการจัดแสดงกิจกรรมและสินค้าไทย-อินเดีย ก่อนเดินทางกลับ 

ทั้งนี้ สมาคมอินเดียแห่งประเทศไทย (IAT) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เมืองพัทยา และพันธมิตร ได้ร่วมกันจัดงานเทศกาลโฮลี ซึ่งเป็นเทศกาลของชาวฮินดูที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนมีนาคม โดยเทศกาลนี้เรียกอีกอย่างว่า “เทศกาลแห่งสีสัน” รูปแบบการจัดกิจกรรมทุกคนที่เข้าร่วมงานจะสาดผงสีใส่กันอย่างสนุกสนาน หรืออาจจะสาดน้ำใส่กันคล้ายๆ สงกรานต์ประเทศไทย แต่เปลี่ยนจากการสาดน้ำธรรมดาเป็นน้ำที่ผสมสีสันต่างๆ หรือบางที่ไม่ใช้น้ำแต่ใช้ผงสีสาดใส่กัน หรือป้ายหน้าป้ายตัวกัน ซึ่งจะนิยมเล่นกันในเวลาเช้าถึงเที่ยงวัน และในช่วงเย็นจะออกมาพบปะสังสรรค์ แจกขนมหวานและสวมกอดกัน เทศกาลโฮลีจึงถือเป็นเทศกาลแห่งมิตรภาพ ให้มิตรสหายได้แสดงไมตรีเข้าสวมกอดกัน ผู้ที่เคยขัดแย้งกันก็จะได้ปรับความเข้าใจและคืนสู่มิตรภาพ

สำหรับการจัดกิจกรรม Holi Festival Thailand 2024 จะจัดขึ้นสองสถานที่คือ กรุงเทพมหานคร Holi Festival Bangkok ณ บริเวณลานด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และเมืองพัทยา Holi on the Beach ที่บริเวณชายหาดพัทยากลาง ระหว่างวันที่ 22-24 มีนาคม 2567 ซึ่งภายในงานจะมีหลากหลายการแสดงเชิงพหุวัฒนธรรม อลังการแสง สี เสียง สไตล์บอลลีวูด ชิม ช้อปสินค้าอินเดียจากร้านค้าชื่อดังและกิจกรรมอื่นๆ ไฮไลท์ของงานอยู่ที่กิจกรรมการละเล่นสาดสี พร้อมกับความบันเทิงแสงสีเสียงสไตล์บอลลีวูดเต็มรูปแบบ ซึ่งจะเล่นสี สาดสี บริเวณชายหาดพัทยากลาง ในวันที่เสาร์ 23 มีนาคม และบริเวณลานด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ ในวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม ช่วงเวลา 14.00-22.00 น. -316-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด

29 ก.ค.- โฆษกทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด ยังนัดหมายพบปะกันไม่ได้ แต่พยายามอยู่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พื้นที่กองทัพภาคที่ 2 โดยฝ่ายไทย พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค1 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และฝ่ายกัมพูชา พล.อ.โปว เฮง ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 4 และ พล.อ.แอก ซอมโอน ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 5 ทั้ง 2 ฝ่ายยังนัดหมายพบปะไม่ได้ เลื่อนไป ยังไม่มีระบุเวลา (เดิมเวลา 10.00 น.) แต่ยังพยายามอยู่ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร​” ไม่แปลกใจ กัมพูชาไม่เป็นสุภาพบุรุษ

ทำเนียบ 29 ก.ค.- “แพทองธาร​” ไม่แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษของ “กัมพูชา” หลังละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ชี้ต้องฟ้อง ปท. ที่เข้ามาเป็นพยานด้วย บอก​ จะถาม “ภูมิธรรม” ให้ ต้องออกแถลงการณ์โต้หรือไม่​ นางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม​ กล่าวถึงกรณีกัมพูชาละเมิดข้อตกลง​หยุดยิง ว่า​ เมื่อสักครู่​ ได้อัปเดตกับทางทีมงาน​ มีการพูดคุยกันว่า​ ถ้าเป็นแบบนี้​ ก็ต้องมีการแจ้งให้ประเทศที่เข้ามาเป็นพยานได้ทราบด้วย​ ว่า​ เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น​ แต่ไม่แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้ว​ เมื่อถามว่ารัฐบาลจะต้องมีการออกแถลงการณ์อีกครั้งหรือไม่​ หลังจากกัมพูชาไม่หยุดยิง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เดี๋ยวอันนั้นจะสอบถามนายภูมิธรรม​ เวช​ย​ชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​.-315 -สำนักข่าวไทย

กองทัพไทยย้ำ! ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล

29 ก.ค.- กองทัพไทยย้ำ! ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและประชาชน หลังกัมพูชาจงใจละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ทำลายความเชื่อมั่นในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน ตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้ตกลงร่วมกันในการยุติการสู้รบทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยมีผลตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปิดทางสู่สันติภาพและความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้านนั้น วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 พลตรี วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ระบุกองทัพไทย ได้รับการยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด หยุดยิงทุกพื้นที่ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา โดยยึดมั่นในคำมั่นสัญญาที่รัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันให้ไว้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาหลังจากกำหนดหยุดยิง ฝ่ายกัมพูชายังคงใช้อาวุธยิงเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในหลายจุด ถือเป็นการกระทำที่ จงใจละเมิดข้อตกลง และบ่อนทำลายความเชื่อมั่น ที่ควรมีต่อกันในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน กองทัพไทย ขอประณามพฤติกรรมดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชา และขอยืนยันว่า ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการโต้กลับ ภายใต้สิทธิในการป้องกันตนเองตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ไทยมิได้ใช้กำลังเพื่อรุกราน แต่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และความปลอดภัยของประชาชน “เมื่อเราหยุด แต่เขาไม่หยุด…โลกต้องได้รับรู้ว่า กัมพูชาคือผู้ละเมิดข้อตกลงอย่างต่อเนื่อง และเป็นฝ่ายที่ไม่เคารพกติกาสากล ไม่ยึดถือข้อตกลงระหว่างประเทศใด ๆ ที่ได้ประกาศไว้ในเวทีระดับโลก และเป็นภัยต่อความมั่นคงของภูมิภาคและของโลก” การยอมรับพฤติกรรมเช่นนี้ เท่ากับเปิดช่องให้ความอยุติธรรมกลายเป็นบรรทัดฐานในระบบระหว่างประเทศ […]

ทบ. ประณาม “กัมพูชา” ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

29 ก.ค.- ทบ. ประณาม “กัมพูชา”ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ขณะที่ไทยยึดมั่นพันธกรณีฯ อย่างเคร่งครัด แต่จำเป็นต้องปกป้องตัวเองตอบโต้อย่างเหมาะสม ขยับเวลาถกผู้นำหน่วยทหารในพื้นที่เป็น 10 โมงเช้า วันที่ 29 กค.68 เวลา 7.30 น. พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของฝ่ายกัมพูชาว่าตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการยุติการสู้รบทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดบรรยากาศแห่งความสงบ ลดความตึงเครียด และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้านนั้น กองทัพบกขอเรียนว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัด โดยได้ทำการหยุดยิง บริเวณพื้นที่แนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา ด้วยความตั้งใจจริง และยึดมั่นต่อพันธกรณีที่ได้ตกลงร่วมกันของรัฐบาลทั้งสองประเทศ แต่เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งเมื่อถึง กำหนดเวลาดังกล่าว ฝ่ายไทยยังคงตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้มีการใช้อาวุธโจมตีเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอยู่หลายจุด ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างจงใจ เจตนาทำลายระบบความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน กองทัพบกจึงขอประณามต่อการกระทำดังกล่าว ฝ่ายไทยจำเป็นจะต้องใช้มาตราการโต้กลับอย่างเหมาะสม ภายใต้สิทธิอันชอบธรรมในการป้องกันตนเอง ยืนยันฝ่ายไทยไม่ได้ใช้กำลังทหารเพื่อรุกราน แต่เพื่อป้องกันการรุกล้ำและรักษาอธิปไตยของชาติ ภายใต้กฎกติกาสากล พลตรีวินธัย ยังระบุว่า เบื้องต้น การพบปะผู้นำหน่วยทหารในพื้นที่ มีการขยับเวลา […]