ติงนายกฯ ละเลยปัญหาความเป็นธรรมใน 3 จชต.

รัฐสภา 1 มี.ค.-“รอมฎอน” เตือนนายกฯ อย่าดูเบาสถานการณ์ชายแดนใต้ ติงให้ความสำคัญแต่เรื่องเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว แต่ละเลยเรื่องความเป็นธรรม ชี้เรื่องปากท้องสำคัญ แต่สันติภาพเดินไม่ได้ ถ้าปชช.ยังมีปมในใจ


นายรอมฎอน ปัญจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงถึงการสร้างสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ โดยเห็นว่าจากการลงพื้นที่ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจรวมถึงการท่องเที่ยว ซึ่งตนเห็นว่านโยบายดังกล่าวเป็นเพียงแค่เปลือกเท่านั้นเพราะยังมีบางเรื่องที่นายกรัฐมนตรีอาจมองผิดพลาด โดยเฉพาะปัญหาการสร้างสันติภาพใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่

“ดูเหมือนว่าการประเมินสถานการณ์ของนายกรัฐมนตรีอาจจะบิดเบี้ยวบิดเบือนไป อาจจะยังมองไม่เห็นถึงปัญหาความไม่มั่นคง กระบวนการสร้างสันติภาพหรือความขัดแย้ง นายกรัฐมนตรีมีความพยายามเรียกร้องให้ประชาชนลืมเหตุการณ์ตากใบ และให้อภัยกัน นายกรัฐมนตรีพยายามย้ำถึงความเสมอภาค เท่าเทียมและโอกาส แต่สิ่งที่ขาดไปคือความยุติธรรม ซึ่งเป็นแกนสำคัญของการสร้างสันติภาพ จึงคิดว่า สันติสุขในจังหวัดชายแดนใต้ น่าจะเกิดขึ้นยาก หากประชาชนยังมีปมในใจเรื่องความยุติธรรม”นายรอมฎอน กล่าว


นายรอมฎอน กล่าวว่า ตั้งแต่ตั้งรัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศ นายกรัฐมนตรีได้พบกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียหลายครั้ง ซึ่งดูเหมือนนายกรัฐมนตรีจะให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และรัฐบาล ได้ต่ออายุการบัคับใช้พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ ฉุกเฉิน 3 ครั้ง แต่รัฐบาลยังไม่แตะกฎอัยการศึกหรือกฎหมายพิเศษ ที่จะกระทบต่อการเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวและเป็นอุปสรรคต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่

นายรอมฎอน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องการสร้างบรรยากาศให้เกิดการแสดงความคิดเห็นของประชาชนแต่ละกลุ่มในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็น ตนมองว่าการสร้างสันติภาพของรัฐบาลเป็นแบบสร้างเสรีภาพแบบลูกผสม ระหว่างการสร้างสันติภาพแบบเสรีกับความขัดแย้งแบบอำนาจนิยม เพราะด้านหนึ่งคือเปิดให้มีการพูดคุย แต่อีกด้านหนึ่งก็จำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของกลุ่มต่าง ๆ

“สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่คือดูเบาสถานการณ์ ประเมินสถานการณ์ต่ำกว่าความเป็นจริงหรือไม่ เหตุนี้ทำให้รัฐบาลไม่กล้าที่จะปะทะกับใจกลางของปัญหาความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนใต้ มองข้ามเรื่องการปกครองที่ชอบธรรม ไม่สามารถควบคุมจากกรุงเทพฯ โดยจัดการส่งทหารไปแล้วอยู่กันอย่างนี้ได้ แต่จะต้องแบ่งอำนาจ แชร์อำนาจ และฟังเสียงประชาชน แต่วิธีนี้คนที่ใช้กำลังจะไม่มีความสามารถระดมพล ยืนยันว่าวิธีแก้ปัญหาคือต้องสร้างโครงสร้างการปกครองที่ชอบธรรมที่ผู้คนยอมรับได้ แต่ปรากฏว่านายกฯ กลับละเลยและมุ่งไปที่การพัฒนาเศรษฐกิจ” นายรอมฎอน กล่าว


นายรอมฎอน เสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาการสร้างสันติสุขในพื้นที่ภาคใต้ 3 ข้อ คือ 1.เจตจำนงทางการเมืองเป็นเรื่องสำคัญมากในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง เราต้องการฝ่ายบริหารที่มุ่งมั่นแน่วแน่ว่าจะแก้ปัญหาทางการเมืองจริงๆ ไม่ได้ต้องการผู้นำที่พยายามหลีกเลี่ยงหนีปัญหา ซึ่งยังไม่เห็นในรัฐบาลเศรษฐา 2.ขอเตือนนายเศรษฐาว่า ให้ทบทวน สถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ใหม่ถ้าดูเบาสถานการณ์เกินไป มองตัวแสดงมอบหมายหลักให้กับฝ่ายความมั่นคงอย่างเดียวเกรงว่าในฐานะผู้นำฝ่ายบริหาร เป็นผู้นำของรัฐบาลพลเรือนตนเกรงว่า นายเศรษฐาจะตัดสินใจทางการเมืองผิดและ 3. เรามีฝ่ายนิติบัญญัติ และกรรมาธิการ ที่พร้อมจะช่วยเหลือ และ พร้อมจะทำงาน และทำเสนอข้อเสนอที่ดีประคับประคองสันติภาพให้ดำเนินต่อไป

“ท้ายที่สุดแล้วการสร้างสันติภาพ การเจรจาพูดคุยควรจะเป็นหัวใจในการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ ไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจ แม้ว่าท้ายที่สุด เรื่องปากท้องคุณภาพชีวิตของประชาชนจะเป็นเป้าหมายที่เห็นตรงกัน แต่วิธีการการเรียงลำดับความสำคัญนายกฯ เศรษฐาอาจจะต้องทบทวนใหม่ และขอฝากไปถึงนพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีและนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ที่เป็นคีย์แมนสำคัญในรัฐบาลชุดนี้ รวมถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่มีบทบาทสำคัญการให้คำแนะนำจังหวะก้าวท่าทีทิศทางของรัฐบาลเศรษฐาต่อความขัดแย้งต่อสถานการณ์ความไม่สงบและการสร้างสันติภาพใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ต้องพูดถึงนายทักษิณ เพราะช่วงหนึ่งมีบทบาทสำคัญในการใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวปูทางไปสู่ความเป็นไปได้ในการเปิดหน้าพูดคุยกันอย่างเปิดเผย ก็เลยคิดว่าในรอบนี้นายทักษิณเอง แม้จะมีข้อจำกัดอยู่ แต่ก็น่าจะให้ความคิดเห็นข้อเสนอแนะต่อนายเศรษฐาได้” นายรอมฎอน กล่าว.-312.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

ปิดตำนาน “อาฉี เสียงหล่อ” นักแสดงตลกดัง เสียชีวิตในวัย 57

ปิดตำนาน “อาฉี เสียงหล่อ” หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เสียชีวิตในวัย 57 ปี ญาติและทีมงานทำใจไม่ได้ เผยเตรียมกลับมาในแพลตฟอร์มต่างๆ อีกครั้ง แต่มาเสียชีวิตก่อน

ศาลให้ประกัน “เอกราช ช่างเหลา” คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย ฐานยักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น กว่า 1,200 ล้านบาท ก่อนได้รับการประกันตัวเพื่อสู้คดีต่อในชั้นศาลอุทธรณ์

สอบปากคำแล้ว 117 ปาก เร่งสางคดีตึก สตง.ถล่ม

รองผบช.น. เผย สอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง คดีอาคาร สตง.ถล่มแล้ว 117 ปาก ยังรอสอบบริษัทควบคุมงาน-ออกแบบก่อสร้าง พร้อมนัดสอบ ‘ปฏิวัติ’ CEO กิจการร่วมค้า PKW 21 เม.ย. เร่งรวบรวมหลักฐานเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง

ผบ.ตร.สั่งดำเนินคดีทุกข้อหาชายซิ่งเก๋งชนกระบะ ระบุน่ารังเกียจ-ไร้วุฒิภาวะ

ผบ.ตร.จวกพฤติกรรมชายซิ่ง BMW ชนกระบะ “น่ารังเกียจ-ไร้วุฒิภาวะ” สั่งดำเนินคดีทุกข้อหา แม้เป็นลูกหลานนักการเมืองดังไม่มีละเว้น