รัฐสภา 27 ก.พ.-สภาฯ หวิดวุ่น หลัง ‘รอมฎอน’ เสนอญัตติศึกษาผลกระทบชาวอุยกูร์ ด้าน ‘อดิศร’ มองเป็นเรื่องใหญ่ ขอนับองค์ประชุม ‘โรม’ โต้ จุดประสงค์ชัดไม่ต้องการให้อภิปรายต่อ ไล่ไปรวมคนให้ครบ ลั่นจะไม่เป็นองค์ให้ ก่อน ‘ไชยวัฒนา’ ขอเปลี่ยนเป็นผู้ลี้ภัยกลับจีน ‘ณัฐวุฒิ’ ถามเป็น สส.ไทยหรือจีน ทำ ‘รองแบด’ รีบไกล่เกลี่ยเดินหน้าประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง เป็นประธานการประชุม นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) เสนอญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาข้อเท็จจริงและผลกระทบกรณีการผลักดันผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์กลับไปเผชิญการประหัตประหารในประเทศจีน โดยภายหลังนายรอมฎอน กล่าวเปิดญัตติเสร็จ มีการถกเถียงกันเล็กน้อยเนื่องจากไม่มีความชัดเจนว่าญัตติจะเป็นไปในทิศทางใด สุดท้ายขอให้ส่งญัตติไปที่รัฐบาลดำเนินการต่อ ก่อนจะเปิดสมาชิกอภิปราย โดยช่วงหนึ่งระหว่าง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว สส.ปทุมธานี พรรคปชน. กำลังอภิปรายอยู่นั้น นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ลุกขึ้นประท้วงว่า ตนถือว่าปัญหาที่พูดอยู่นี้ เป็นปัญหาที่ใหญ่หลวง ต้องมีองค์ประชุมครบ ฉะนั้น จึงขอให้ประธานสภาฯ นับองค์ประชุมหรือมีการประชุมลับต่อไป
ทำให้นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน.ทักท้วงว่า ตนคิดว่าเรากำลังจะเดินกันอย่างเรียบร้อยและได้มีการประสานกันในวิปทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว หากเสนอนับองค์ประชุม ถ้าทำกันแบบนี้ จุดประสงค์ชัดเจนว่าไม่ต้องการให้พวกเราอภิปรายต่อ ซึ่งถ้าจะทำกันเช่นนี้พวกท่านอยู่กันให้ครบ เสนอว่าให้ท่านไปรวมคนให้พอ ท่านแบกเลย พวกเราเดินกันดีๆ อยู่แล้ว และมีเพียง 2 คนที่อภิปรายเพื่อรวบรวมเอาความคิดเหล่านั้นให้ไปยังรัฐบาล ตอนนี้อยู่ระหว่างการอภิปราย ยังไม่จบ แต่กลับมีการยกมือประท้วงแล้วพยายามเสนอให้มีการนับองค์ แต่บอกไว้ว่าฝ่ายค้านเราไม่เป็นองค์ประชุมให้ท่าน เพราะเราได้เห็นแล้วว่าความจริงใจของท่านที่ไม่แคร์ต่อผลกระทบของประเทศเรา
นายอดิศร จึงตอบกลับว่า อย่าเอาไม้มาสอนขวัญ ตนขออนุญาตนับองค์ประชุมเพราะเป็นเรื่องใหญ่ เรามองคนละมุม มวยคนละชั้น ทำให้นายภราดร ขอพักการประชุม 10 นาที ก่อนจะกลับมาเปิดประชุมอีกครั้งในเวลา 16.30 น. นายภราดร กล่าวว่า จากที่มีการหารือที่มีข้อเสนอจากประธานสภาฯ เรื่องชื่อญัตติจึงอยากให้ผู้เสนอได้เปลี่ยนชื่อเพื่อได้เดินหน้าต่อไปและมีการประชุมต่อ แต่ยังติดญัตติของนายอดิศรที่ขอให้นับองค์ประชุม ซึ่งนายอดิศรยอมถอนญัตตินับองค์ประชุมออก เพื่อให้ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องนี้อย่างเป็นเหตุเป็นผล
จากนั้นนายรอมฎอน เปลี่ยนชื่อญัตติเพื่อให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ โดยเสนอเปลี่ยนชื่อญัตติเป็น ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาข้อเท็จจริงและผลกระทบกรณีการผลักดันผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ไปประเทศจีนเพื่อส่งต่อให้รัฐบาลพิจารณา ทำให้นายไชยวัฒนา ตินรัตน์ สส.มหาสารคาม พรรค พท. ลุกขึ้นประท้วงว่า คำว่าชาวอุยกูร์ละเอียดอ่อนหรือไม่ เขาก็เป็นคนจีน ให้ใช้คำว่าเป็นผู้ลี้ภัยกลับประเทศจีนดีกว่า ก่อนที่นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. ลุกประท้วงว่า ถ้ายุ่งยากมากก็นับองค์ประชุมดีกว่า ท่านเป็นตัวแทนสส.จีนหรือสส.ไทย ถ้าประธานสภาฯ จะเดินหน้าก็ให้เดินหน้าไป ไม่ใช่ประท้วงกันเช่นนี้ ขัดกันตลอด เราก็ถอนให้แล้ว แต่ชีวิตคนก็ถอนไม่ได้ ทำให้นายไชยวัฒนา ไม่พอใจและตอบโต้ว่า เป็นผู้แทนของคนไทย ท่านอย่าฉวยโอกาสแบบนี้ ท่านกล่าวหาใครว่าเป็นสส.จีนหรือสส.ไทย เกียรติยศศักดิ์ศรีเราอยู่ที่นี่ ตนให้เกียรติตลอด จากนั้นนายภราดรจึงไกล่เกลี่ยยุติการโต้เถียง และให้น.ส.ชลธิชา อภิปรายต่อ.-312.-สำนักข่าวไทย