รัฐสภา 14 ก.พ.-“อัครเดช” เผย เตรียมอภิปรายมาตรการอารักขาถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จฯ ย้ำให้ จนท.ดำเนินการเด็ดขาดผู้ก่อเหตุ ชี้ประชาชนมีดุลยพินิจใครอยู่เบื้องหลัง “กลุ่มทะลุวัง”
นายอัครเดช วงษ์พิทักโรจน์ สส.ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา ทบทวนมาตรการการอารักขาถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงค์ให้มีความปลอดภัยเพื่อป้องปรามพฤติกรรมขัดขวางขบวนเสด็จอันอาจก่อให้เกิดอันตรายหรือเสื่อมเสียพระเกียรติยศ ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นญัตติที่ยื่นโดย นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยญัตตินี้จะเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรในเวลา 12.30 น.ของวันนี้ (14 ก.พ.) และจะมี สส. ในฝั่งพรรคร่วมรัฐบาลมาอภิปรายในประเด็นดังกล่าว ซึ่งทุกพรรคการเมืองให้ความสนใจ เพราะเป็นประเด็นที่ประชาชนมีความวิตกกังวล ในการรักษาความปลอดภัยขบวนเสด็จพระราชดำเนิน ฉะนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ สส.จะให้รัฐบาลรับไปดำเนินการ
ในส่วนของท่าทีของพรรคก้าวไกลนั้น นายอัครเดช กล่าวว่า จากที่ฟังจากการให้สัมภาษณ์ของ สส.พรรคก้าวไกล อยากให้เวทีสภาผู้แทนราษฎรเป็นเวทีในการพูดคุยปัญหาในเรื่องนี้ ญัตตินี้เป็นเรื่องของการพูดคุยเรื่องการรักษาความปลอดภัยขบวนเสด็จฯ ฉะนั้นเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องคงไม่สามารถพูดได้
นายอัครเดช ยังกล่าวถึง การจับกุมสมาชิกกลุ่มทะลุวัง ซึ่งสร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นาๆ ว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐ หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้มีการเรียกประชุม สส.พรรค ได้พูดคุยและแถลงข่าวว่า เรื่องขบวนเสด็จฯ ไม่ใช่เกิดขึ้นครั้งแรก แต่เกิดมาหลายครั้งแล้ว และที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง มีการดำเนินการที่ล่าช้า อาจจะทำให้เกิดปัญหาลุกลาม ซึ่งเกิดจากผู้ก่อเหตุและผู้เห็นต่างกับการกระทำดังกล่าว ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการปะทะกันได้
“สิ่งสำคัญคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องดำเนินตามกฎหมายอย่างจริงจัง รวดเร็ว รัดกุมและรอบครอบ สิ่งนี้คือสิ่งที่เราเป็นห่วง คงจะต้องมีการพิจารณาทบทวนไม่ให้เกิดขึ้นอีก โดยยึดหลักนิติรัฐเป็นสิ่งที่สำคัญ ดังนั้น จะมีการเสนอมาตราการนี้ ในการอภิปราย ตนได้รับมอบหมายจากผู้บริหารพรรค ให้เป็นผู้อภิปรายในญัตตินี้ในช่วงสุดท้าย และจะได้รวบรวมและเสนอมาตรการที่ ฝั่ง สส.มีความเป็นห่วงให้รัฐบาลไปดำเนินการต่อไป”นายอัครเดช กล่าว
นายอัครเดช กล่าวถึง กรณีที่มีการกล่าวอ้างว่ากลุ่มทะลุวัง มีผู้อยู่เบื้องหลัง ว่าเรื่องของขบวนการในการหนุนหลัง หรือพรรคการเมืองใดที่ให้การสนับสนุน โลกทุกวันนี้ เป็นโลกของการสื่อสาร โดยเฉพาะโซเชียลมีเดีย ตนคิดว่าพี่น้องประชาขนสามารถรับรู้และตัดสินใจได้ ว่าใครอยู่ในกระบวนการดังกล่าว
“ผมคิดว่าพี่น้องประชาชนที่ติดตามเหตุการณ์นี้สามารถติดตามได้ตั้งแต่การประกันตัว การอภิปรายในสภา การให้สัมภาษณ์ทางสื่อ หรือการไปมาหาสู่กับผู้ต้องหา พี่น้องประชาชนมีดุลยพินิจอยู่แล้วว่า กระบวนการต่างๆ มีที่ไปที่มาอย่างไร และทำให้ผู้ก่อเหตุมีการทำผิดที่ซ้ำซาก ในม.112 และ ม.116 หรือกระทำผิดกฏหมาย มาตราอื่นๆ“.-317.-สำนักข่าวไทย